การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกในปัจจุบัน มีผลกับวิถีชีวิตและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยจุดเปลี่ยนสำคัญที่เห็นได้ชัดเจน คือการที่โลกต้องเผชิญกับวิกฤตต่างๆ และปัจจัยที่ยากต่อการควบคุมในช่วงที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นโรคระบาดหรือภัยธรรมชาติ ส่งผลให้ผู้คนทั่วโลกเริ่มใส่ใจกับการอุปโภค-บริโภคผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการดูแลสุขภาพผ่านการบริโภคอาหารที่มีคุณภาพและเป็นออร์แกนิก ในขณะเดียวกันหลายธุรกิจหันมาตระหนักถึงความสำคัญและมีแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG) กันอย่างจริงจังมากขึ้น เช่นเดียวกับ “ซิซซ์เล่อร์” (Sizzler) ร้านอาหารเพื่อสุขภาพชั้นนำที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานได้มีการดำเนินธุรกิจและบริหารจัดการเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนครอบคลุมทุกมิติ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ตลอดจนมีส่วนร่วมในการสร้างความยั่งยืนผ่านทุกจานอาหารที่ได้มาตรฐานของซิซซ์เล่อร์
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า “ซิซซ์เล่อร์” (Sizzler) เป็นร้านอาหารสไตล์ตะวันตก ที่ให้บริการอาหารประเภทสเต๊ก ซีฟู้ด และสลัด โดยเป็นร้านอาหารแรกที่ได้นำสลัดบาร์มาให้บริการลูกค้า จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง แน่นอนว่าความอร่อยของอาหาร การเลือกสรรวัตถุดิบที่นำมาปรุงหรือเสิร์ฟถือเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากการคัดสรรวัตดุดิบคุณภาพ สด สะอาด ปลอดภัย ที่นำมาเสิร์ฟให้ลูกค้าในทุก ๆ วันแล้ว ซิซซ์เล่อร์ยังให้ความสำคัญไปยังต้นน้ำของวัตถุดิบ คือเหล่าเกษตรกรผู้ปลูกอีกด้วย เพราะว่าผักหรือผลไม้ที่นำมาเสิร์ฟในร้านซิซซ์เล่อร์ตั้งแต่ในอดีตจนปัจจุบันส่วนใหญ่ส่งตรงมาจากทางภาคเหนือ ที่ซิซซ์เล่อร์ได้มีส่วนร่วมตั้งแต่ให้คำแนะนำในการปลูกพืช ผัก ผลไม้ ชนิดต่าง ๆ ไปจนถึงการส่งขาย เป็นการช่วยสนับสนุน และส่งเสริมให้เกษตรกรชาวเขาทางภาคเหนือมีอาชีพทำตลอดทั้งปี พร้อมช่วยเพิ่มรายได้ ตลอดจนสร้างโอกาสทางอาชีพให้กับครอบครัวเกษตรกรบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน
อีกทั้งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้สกัดเย็นธรรมชาติ 100% ให้บริการแก่ลูกค้า เพื่อเป็นการเปิดทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพที่ต้องการเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพและไม่เติมน้ำตาลหลากหลายสูตรในชื่อ Cold-Pressed Juice ที่เป็นน้ำผลไม้สกัดเย็นแบบทำสดใหม่วันต่อวัน เพื่อให้ได้น้ำผลไม้ที่มีความสดใหม่เสิร์ฟให้ลูกค้าได้เลือกบริโภค ไม่ว่าจะเป็นสูตรบำรุงผิวพรรณ บำรุงหัวใจ บำรุงเลือด บำรุงสายตา ดีท็อกแอนด์คลีนซ์ และสูตรที่ช่วยผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันที่ต้องการดูแลสุขภาพแต่ไม่มีเวลา ซึ่งที่ผ่านมาซิซซ์เล่อร์ได้นำรายได้จากการจำหน่ายน้ำผลไม้สกัดเย็นส่วนหนึ่งไปบริจาคให้แก่มูลนิธิช่วยเหลือทางสังคมเพื่อเด็กและสตรี Social Action for Children and Woman (SAW) อีกด้วย
พร้อมกันนี้ ซิซซ์เล่อร์ ยังได้ปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปีแล้วเช่นกัน ปัจจุบันได้ใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก (Eco-packaging) เป็นสัดส่วน 90% ของบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด มีทั้งบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษที่ทำมาจากเส้นใยคุณภาพ มีความคงทนสูง สามารถนำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟได้ สำหรับบรรจุอาหารประเภทสเต๊ก ของทอด ตลอดจนซุป นอกจากนี้ยังมีกล่องกระดาษคราฟท์สำหรับบรรจุภัณฑ์ Sizzler to go ที่มีคุณสมบัติทนน้ำ สามารถคงสภาพเดิมของวัตถุดิบในตู้เย็นได้ราว 1-2 วัน เป็นต้น
นายอนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) ในเครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด เผยว่า “ความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนคือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นพัฒนาและความเอาใจใส่ลูกค้าของซิซซ์เล่อร์ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ไม่เพียงแต่ให้บริการที่ดีรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพแก่ลูกค้าเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำพร้อมไปกับแบรนด์ซิซซ์เล่อร์ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม เพราะซิซซ์เล่อร์เชื่อมั่นสิ่งดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างให้แบรนด์เติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน และสำหรับผู้บริโภคที่อยากเข้ามาสัมผัสกับความพิเศษของทุกเมนูซิซซ์เล่อร์ที่ดีต่อสุขภาพและดีต่อใจ สามารถไปได้ทุกสาขาใกล้บ้านหรือจะสั่งผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ก็สะดวกสบายเช่นกัน”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ “ซิซซ์เล่อร์” โทรศัพท์ 02-365-6934 รวมถึงเฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/SizzlerThai หรือ www.sizzler.co.th