แดรี่ควีน ผุดคอนเซปต์ร้านรูปแบบใหม่ล่าสุด "DQ Lounge" จุดแวะพักเติมความหวาน
แดรี่ควีน (Dairy Queen) ประกาศมุ่งหน้าสู่การเป็น “The playground for a sweet pause” เต็มกำลัง ตอกย้ำภาพผู้นำตลาดของหวานในไทย ล่าสุดเปิดตัวร้านโมเดลใหม่ในคอนเซปต์ “DQ Loung” ที่ได้รับการออกแบบให้มีดีไซน์แตกต่าง ด้วยการเพิ่มขนาดพื้นที่รองรับการให้บริการที่มากขึ้น พร้อมการตกแต่งร้านที่ให้ความรู้สึกโมเดิร์น สนุกสนาน และมีพลัง รวมถึงเสริมด้วยเมนูหลากหลายและเมนูสุดพิเศษที่ไม่มีเหมือนสาขาทั่วไป เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมกลุ่มผู้บริโภคให้ครอบคลุม ตลอดจนเป็นจุดเชื่อมโยงประสบการณ์ใหม่ ๆ ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
คุณธนกฤต กิตติพนาชนม์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเนอร์ ดีคิว จำกัด บริษัทในเครือ ไมเนอร์ กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจร้านไอศกรีม "แดรี่ควีน“ เปิดเผยว่า “ในปี 2567 แดรี่ควีนได้เริ่มต้นปีด้วยการประกาศจุดยืนในการเป็น “The playground for a sweet pause” สถานที่สำหรับแวะพัก เติมพลังให้กับชีวิต พร้อมการพลิกโฉมแบรนด์ใหม่ ภายใต้คาแรกเตอร์ ทันสมัย รักสนุก และมีพลัง (Modern, fun-loving, energetic) เจาะกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่รักความสนุก ผ่านการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดที่หลากหลาย โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญถือเป็นไฮไลท์ของปีนี้คือการมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์พิเศษให้ผู้บริโภคผ่านโมเดลร้านรูปแบบใหม่ในคอนเซปต์ “DQ Lounge” พื้นที่แห่งการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์และสวรรค์ของคนรักของหวานที่จะช่วยเชื่อมโยงผู้บริโภคให้ได้ใกล้ชิดกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคหน้าใหม่ พร้อมขยายฐานผู้บริโภคให้กว้างขึ้น ตลอดจนสร้างยอดขายให้กับแบรนด์เพิ่ม ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่พบว่านิยมมองหาร้านที่สามารถแวะนั่งพักผ่อนระหว่างการเดินช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า ในขณะเดียวกันสามารถเพลิดเพลินและผ่อนคลายไปกับการสั่งเมนูของหวานมานั่งรับประทาน
เพื่อเพิ่มความสดชื่นและเติมพลังระหว่างวัน
สำหรับร้าน “DQ Lounge” สาขาแรก ตั้งอยู่ในห้างเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต ชั้น 1 มาพร้อมขนาดพื้นที่ทั้งหมด 40 ตารางเมตร โดยพื้นที่ร้านจะแบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนการให้บริการที่ลูกค้าสามารถเลือกสั่งเมนูต่าง ๆ และจุดเด่นคือมีเมนูสุดพิเศษที่มีจำหน่ายเฉพาะที่สาขานี้เท่านั้น ได้แก่ ของหวานกลุ่มเบเกอรี่ อาทิ บราวนี่ โทสต์ และ พาร์เฟต์ ที่เป็นกลุ่มเมนูที่สร้างยอดขายให้กับร้านเพิ่มขึ้นถึง 10% รวมถึงการนำผลไม้สดเกรดพรีเมียมมาใช้เป็นที่แรก ตลอดจนการมีเมนูท๊อปปิ้งที่ผู้บริโภคสามารถสั่งเพิ่มลงในเมนูปกติได้ เช่น กล้วย เลดี้ฟิงเกอร์ โอริโอ้ เป็นต้น ในขณะที่อีก 50% ของพื้นที่ร้านจะเป็นในส่วนโซนโต๊ะและที่นั่งสำหรับรองรับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถนั่งพักและเพลิดเพลินไปกับเมนูต่าง ๆ ของแบรนด์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหลังจากร้านเปิดให้บริการพบว่าสามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้เติบโตมากขึ้นถึง 20%
ทั้งนี้เหตุผลการเปิด “DQ Lounge” สาขาแรกแห่งนี้ เนื่องด้วยเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคในพื้นสูง ในขณะที่กลุ่มผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการของห้างยังมีความหลากหลาย จึงมีความเหมาะสมในการเป็นร้านโมเดลต้นแบบเพื่อเก็บรวบรวมอินไซด์ของผู้บริโภคและนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ โปรโมชัน รวมถึงการขยายโมเดลไปยังสาขาอื่น ๆ ต่อไป และภายในปี 2567 แดรี่ควีนได้เตรียมเปิดสาขา 2 ณ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ตลอดจนวางแผนขยายสาขาอย่างน้อย 1 แห่งในทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงทุกห้างหรือศูนย์การค้าที่เป็นพรีเมียมสโตร์ โดยคาดว่าการเปิดร้านโมเดลดังกล่าวจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าให้กับแบรนด์ได้เพิ่มขึ้น 10% รวมถึงผลักดันยอดขายภาพรวมให้เติบโตเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ตอกย้ำการเป็นเบอร์ 1 ของวงการไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟไทย และแบรนด์ขนมหวานพรีเมียมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกสไตล์ อร่อยได้ในทุกโอกาส” คุณธนกฤต กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dairyqueenthailand.com/ และ Facebook: Dairy Queen Thailand