ริเวอร์ไซด์ กริลล์ฟิช แอนด์หม่าล่า รีแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ ริเวอร์ไซด์ หม่าล่า (Riverside Mala) เดินเครื่อง 4 กลยุทธ์ยกระดับความร้อนแรง ตอบโจทย์คนรักอาหารจีน
นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปี 2567 ไมเนอร์ ฟู้ด ได้วางกลยุทธ์รีแบรนด์ร้านริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า ผ่านการเปลี่ยนชื่อร้านเป็น “ริเวอร์ไซด์ หม่าล่า” เพื่อให้เกิดการจดจำและเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างได้มากขึ้น ซึ่งหลังจากชิมลางธุรกิจอาหารจีนเสฉวน พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แบรนด์จึงต้องวางกลยุทธ์เพื่อปรับตัวให้สอดรับกับเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภค โดยในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ริเวอร์ไซด์ หม่าล่า เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าได้อย่างตรงจุดอันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างการเติบโตของร้านในระยะยาว ท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารจีนในปัจจุบันที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 6,000 ล้านบาท”
สำหรับ 4 กลยุทธ์ที่จะเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตทางธุรกิจของร้านริเวอร์ไซด์ หม่าล่า เริ่มต้นด้วยกลยุทธ์แรก คือ การสร้างจุดขายผ่านเมนูอาหารที่ได้รับความนิยม (Product Strategy) โดยมีการดึงจุดเด่นของเมนูยอดฮิตอย่าง “ริเวอร์ไซด์ หม่าล่าทั่ง” ขึ้นมาเป็นเมนูไฮไลต์ในทุกสาขา เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น หลังได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า จากการนำร่องให้บริการที่ร้านสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ในปีที่ผ่านมา โดยเมนูหม่าล่าดังกล่าวมีความโดดเด่นจากคุณภาพของวัตถุดิบและกิมมิกการรับประทานที่แปลกใหม่ ลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบสดมากกว่า 50 รายการ ตลอดจนการปรุงน้ำซุปและเครื่องปรุงสไตล์เสฉวนสูตรเฉพาะของร้าน อาทิ น้ำซุปหม่าล่าคอลลาเจน น้ำซุปคอลลาเจน และหม่าล่าผัดแห้ง โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 49 บาท ต่อ 100 กรัม
กลยุทธ์ต่อมาคือการยกเครื่องเล่มเมนูใหม่ (Menu Revamp) ที่ได้ปรับดีไซน์ให้ทันสมัยและใช้งานง่ายขึ้น (User-friendly) พร้อมเพิ่มเมนูอาหารเสฉวนยอดนิยมเข้ามาในเล่มเมนู อาทิ “ปลากระทะร้อนสไตล์ฉงชิ่งซอสหม่าล่าคอลลาเจน” เมนูดั้งเดิมจากนครฉงชิ่งในมณฑลเสฉวน ที่พลิกแพลงกรรมวิธีการปรุงให้เข้ากับพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนไทยซึ่งชื่นชอบของทอด โดยนำปลาทั้งตัวไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ จนได้หนังกรอบตัดกับเนื้อในที่ชุ่มฉ่ำ ราดซอสหม่าล่าคอลลาเจนเข้มข้นหอมมันเพื่อเสริมความร้อนแรง ก่อนเสิร์ฟมาบนกระทะร้อน หรือเมนู “ผัดเต้าหู้อ่อนสไตล์เสฉวน” เต้าหู้ขาวเนื้อเนียนผัดเข้ากับซอสและเครื่องปรุงรสเผ็ดร้อน “หมูสามชั้นผัดสไตล์เสฉวน” เนื้อหมูสไลซ์บางหมักกับเครื่องเทศก่อนนำไปผัดด้วยไฟแรง เพิ่มมิติรสชาติด้วยเหล่ากานมา รวมถึง “พริกผัดไข่” ไข่ไก่สดผัดกับพริกแห้งจนได้เนื้อสัมผัสละมุนลิ้นแฝงความหอมมัน ปิดท้ายด้วยเมนูเติมความสดชื่นอย่าง “สลัดแตงกวา” สอดรับกับความนิยมของกลุ่มคนรักอาหารจีนเป็นอย่างดี
ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้มีการเพิ่มบริการส่งตรงถึงทุกที่หมาย (Delivery Service) นอกจากการรับประทานที่ร้านและสั่งกลับบ้าน ริเวอร์ไซด์ หม่าล่า ยังได้เดินกลยุทธ์ทำให้แบรนด์ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้นผ่านการให้บริการในรูปแบบเดลิเวอรี สำหรับในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า ให้พร้อมอิ่มอร่อยไปกับเมนูหม่าล่าและอาหารจีนต้นตำรับโดยไม่ต้องเดินทางมาที่ร้าน ตลอดจนเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคใหม่ ๆ ได้มากยิ่งขึ้น โดยมีการใช้บรรจุภัณฑ์หม้ออุ่นร้อนแบบพิเศษ ทำให้สามารถรักษารสชาติความสดใหม่ของอาหารเหมือนไปนั่งรับประทานที่ร้าน
ปิดท้ายด้วยกลยุทธ์ ส่งเสริมการขายผ่านการจัดโปรโมชัน (Sales Promotion) ที่เน้นความคุ้มค่า หลากหลาย และสร้างความตื่นเต้นในกลุ่มผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชันเมนูอาหารราคาพิเศษ การแจกคูปองส่วนลด ไปจนถึงโปรโมชัน 1 แถม 1 กับเมนูอาหารที่ร่วมรายการ โดยมีการประชาสัมพันธ์โปรโมชันเหล่านี้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของแบรนด์ เพื่อกระตุ้นยอดขายและดึงดูดลูกค้าอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
“จากกลยุทธ์ข้างต้น ถือเป็นการจัดกระบวนทัพเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเชื่อมั่นว่าร้านริเวอร์ไซด์ หม่าล่า จะสามารถกระตุ้นยอดขายตลอดปีนี้ พร้อมบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจได้ตามที่คาดหวังไว้”นายธันยเชษฐ์ กล่าวสรุป
ค้นพบมิติใหม่แห่งอาหารจีนต้นตำรับเสฉวน ได้ที่ร้านริเวอร์ไซด์ หม่าล่า ทั้ง 2 สาขา ได้แก่ สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 6 และสาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 9 ชั้น 6 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น. สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Riverside Mala TH หรือผ่านบัญชีอินสตาแกรม @riversidemala.th รวมถึงแอด LINE เพื่อดูเมนูและสำรองที่นั่งได้ที่ @rgfandmalath