สารพิษ ไม่ควรนำไปใส่ในภาชนะใดบ้าง เสี่ยงเกิดอันตราย หลังเกิดเหตุเด็ก 4 ขวบ ดื่ม "น้ำกรดหยอดยาง" ในขวดน้ำอัดลม เจ็บสาหัส ต้องตัดกระเพาะ-ลำไส้บางส่วนออก
อุทาหรณ์ อย่ามองข้ามความปลอดภัย สืบเนื่องจากกรณี เด็กชายวัย 4 ขวบ ยกขวดน้ำอัดลมขึ้นมาดื่มเพราะเข้าใจว่าสิ่งที่อยู่ในขวดนั้นคือน้ำอัดลมหวานรสชาติที่คุ้นเคย แต่ที่ไหนได้ น้ำในขวดดังกล่าวเป็น น้ำกรดหยอดยาง ที่เจ้าของสวนเก็บไว้ใช้ในกระบวนการการทำสวนยางพารา เด็กน้อยบาดเจ็บสาหัส ต้องตัดกระเพาะและลำไส้บางส่วนออกเพราะเนื้อตาย แพทย์ทำการรักษาอย่างเร่งด่วน ล่าสุด เด็กปลอดภัยแล้ว
เรื่องทำนองนี้ไม่ใช่เกิดเป็นครั้งแรก มีปรากฏเป็นข่าวให้เห็นอยู่เนืองๆ ในเรื่องของการนำสารเคมีไปใส่ในภาชนะที่ไม่เหมาะสม เพิ่มโอกาสในการเข้าใจผิด รวมไปถึงเก็บในที่ที่เสี่ยงเกิดอันตรายโดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก หรือผู้สูงอายุ ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ
1. ขวดน้ำดื่มหรือขวดที่คล้ายกับภาชนะบรรจุอาหาร อาจทำให้คนเข้าใจผิดและนำไปดื่มโดยไม่ได้ตั้งใจ
2. ขวดที่ไม่มีฉลากระบุชัดเจน ทำให้เกิดความสับสนและอาจนำไปใช้ผิดวิธี
3. ขวดพลาสติกบางชนิดที่ไม่ทนสารเคมี อาจเกิดปฏิกิริยา ทำให้ขวดละลายหรือสารพิษรั่วไหล
4. ขวดที่ไม่มีฝาปิดสนิท เสี่ยงต่อการรั่วไหลหรือปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม
5. ขวดแก้วบางประเภทที่ไม่ทนต่อสารเคมีแรงๆ เพราะอาจแตกหรือเกิดปฏิกิริยาอันตรายได้
1. ใกล้อาหารและเครื่องดื่ม อาจปนเปื้อนและทำให้เกิดอันตรายจากการบริโภคโดยไม่ตั้งใจ
2. บริเวณที่เด็กหรือสัตว์เลี้ยงเข้าถึงได้ มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุหรือการสัมผัสสารพิษ
3. ที่ร้อนจัดหรือใกล้เปลวไฟ อาจเกิดการระเหย รั่วไหล หรือระเบิดได้
4. ที่ชื้นหรือโดนแสงแดดโดยตรง อาจทำให้สารเคมีเสื่อมสภาพหรือเกิดปฏิกิริยาที่เป็นอันตราย
5. ใกล้แหล่งน้ำหรือท่อระบายน้ำ ป้องกันไม่ให้สารพิษปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมและเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศ
6. ในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายอากาศ ลดความเสี่ยงของการสูดดมไอระเหยที่เป็นอันตราย
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ควรเก็บสารพิษในภาชนะที่ออกแบบมาสำหรับสารเคมีโดยเฉพาะ มีฉลากชัดเจน และเก็บให้ห่างจากเด็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์เลี้ยง
- ข้อมูลจาก Mahidol Channel มหิดล แชนแนล แนะนำว่าให้ โทรสายด่วน 1669 (สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน) ทั้งนี้เพื่อให้มีทีมแพทย์และพยาบาลมายังจุดเกิดเหตุเพื่อทำการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและถูกวิธี
- กรณีสารพิษเปรอะเปื้อนผิวหนัง เสื้อผ้า ในระหว่างที่รอรถพยาบาล แนะนำให้ถอดเสื้อผ้าของผู้ป่วยออกเพื่อลดการสัมผัสสารพิษ
- จับผู้ป่วยนอนตะแคงเพื่อช่วยเปิดทางเดินหายใจ รอรถพยาบาลมานำส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
- ล้วงคอให้อาเจียน
- ห้ามให้ผู้ได้รับสารพิษกินไข่ดิบ
- ให้ผู้ที่ได้รับสารพิษดื่มนมหรือน้ำในปริมาณมากๆเพื่อหวังเจือจาง เหตุที่ไม่แนะนำเพราะว่า สารพิษบางชนิดยิ่งทำวิธีการเหล่านี้จะทำให้เกิดพิษต่อผู้ป่วยมากขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายในระบบทางเดินหายใจได้
Advertisement