บุหรี่ไฟฟ้าหนึ่งแท่งปริมาณนิโคตินเท่า บุหรี่ 20 มวน ควันมือสามทำลายสมอง-ความจำ สถานการณ์น่าเป็นห่วง พบเด็กเยาวชนใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่ม 5 เท่าในระยะเวลา 7 ปี
บุหรี่ไฟฟ้า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบรุนแรงเฉียบพลัน หรือที่เรียกกันว่า EVALI ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการแสดงทั้งระบบทางเดินทายใจ และระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้ปอดเสียถึงขั้นเสียชีวิตได้ และสิ่งที่น่ากังวลเป็นอย่างมากคือ พบเด็กและเยาวชนไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 5 เท่าในระยะเวลา 7 ปี
นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการทบทวนข้อมูลทางวิชาการพบว่า ร้อยละ 95 ของผู้ป่วย EVALI จะมีอาการไข้ หนาวสั่น ไอ หายใจลำบาก ปวดเมื่อยตามตัว
และร้อยละ 77 มีอาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย ซึ่งทุกรายมีผลเอกซเรย์ปอดที่ผิดปกติ โดยพบปอดมีลักษณะเป็นฝ้าขาวกระจายทั่วทั้ง 2 ข้าง หากผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น หายใจหอบมากขึ้น กระสับกระส่าย อาจจะต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เนื่องจากปอดจะถูกทำลายจากการอักเสบที่รุนแรงซึ่งอาจอันตรายถึงชีวิตได้
นายแพทย์ชยนันท์ สิทธิบุศย์ ผู้อำนวยการกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบและรักษาการนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมควบคุมโรค ขอเน้นย้ำถึงผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าว่า หากมีอาการไข้ ไอ หายใจลำบาก หอบเหนื่อย ร่วมกับคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการใช้บุหรี่ไฟฟ้าและขอความร่วมมือสถานพยาบาลทุกแห่ง
หากพบผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าว ควรซักประวัติการสูบบุหรี่ไฟฟ้าทุกครั้ง และแจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อการเฝ้าระวังโรคตามแนวทางที่กรมควบคุมโรคกำหนด
ด้าน สคร. 1 เชียงใหม่ เตือน บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายต่อสุขภาพของเด็ก แนะผู้ปกครองเฝ้าระวังและป้องกัน หลังพบ อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนสูงขึ้น
แพทย์หญิงเสาวนีย์ วิบุลสันติ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ เตือน ผู้ปกครอง ควรให้ความรู้โทษพิษภัยของบุหรี่ / บุหรี่ไฟฟ้า และเฝ้าระวังป้องกันในเด็กและเยาวชน ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าพัฒนาเป็น generation ที่ 5 มีรูปลักษณ์ เน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กและเยาวชน ซึ่งสารเคมีที่เป็นองค์ประกอบของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มีผลทำลายปอด
จากสถานการณ์ปัจจุบันพบอัตราการบริโภคบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนสูงขึ้นและพบในเด็กและเยาวชนที่อายุยังน้อย
บุหรี่ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ความร้อนกับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเกิดเป็นไอระเหยนิโคติน ซึ่งสารนิโคตินเป็นส่วนผสมในน้ำยาของบุหรี่ไฟฟ้า พบว่า บุหรี่ไฟฟ้าหนึ่งแท่งมีปริมาณนิโคตินเท่ากับบุหรี่มวน จำนวน 20 มวน
แพทย์หญิงเสาวนีย์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มอายุ 15-24 ปีพบสูงขึ้น สารนิโคตินที่ก่อให้เกิดโทษส่งผลต่อการพัฒนาการของสมอง และสารเคมีอื่น ๆ ใน น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีผลสุขภาพของเด็กที่สูบ ได้แก่
ระบบการหายใจ จะเกิดการระคายเคือง ไอ เหนื่อยง่าย มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หลอดลมอักเสบ โรคมะเร็ง ระบบหลอดเลือดและหัวใจ ภาวะหลอดเลือดแข็ง จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ โรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ระบบประสาทและสมอง เซลล์สมองถูกทำลาย ความจำลดลง เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ระบบทางเดินอาหารทำให้เกิดแผลในกระเพาะ คลื่นไส้ อาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อนและอาจนำไปสู่โรคมะเร็ง
สำหรับผู้ที่ได้รับควัน/ไอระเหยมือสอง มือสาม สามารถส่งผลในต่อการพัฒนาสมองและหน่วยความจำโดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่น และสตรีมีครรภ์ที่ได้รับนิโคตินอาจส่งผลต่อการพัฒนาทารกในครรภ์
เพื่อป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าของบุตรหลาน แนะพ่อ แม่ ผู้ปกครองและครูอาจารย์ที่โรงเรียน สังเกตพฤติกรรม เฝ้าระวังการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าทั้งที่บ้านและสถานศึกษาให้เป็นสถานที่ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงเป็นตัวอย่างที่ดีโดยการไม่สูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้า
Advertisement