กรณี น.ส.ธัญชนก ศรีมี อายุ 25 ปี สาวหล่อชาว ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ทะเลาะแฟนสาว น.ส.จตุพร ชัยแสง อายุ 37 ปี ชาว ต.โคกคอน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
โดย น.ส.ธัญชนก หิ้วเหยือกน้ำกรดถือกริชวิ่งตามฝ่ายหญิง ก่อนสาดน้ำกรดใส่และใช้กริชจ้วงแทงไม่ยั้งกว่า 40 แผล จน น.ส.จตุพรสิ้นใจเสียชีวิตคาที่ รปภ.โรงพยาบาลหนองคายรวบได้ทันควัน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.40 น. คืนที่6 ส.ค.65
ทีมข่าวได้วงจรปิดจากบริเวณหน้าด่านป่าไม้ จ.หนองคาย จุดที่ผู้ก่อเหตุ และผู้เสียชีวิต มาจอดรถทะเลาะกัน กล้องตัวที่ 1 เวลา ประมาณ 22.03 น. เห็นไฟรถเก๋งของผู้เสียชีวิตขับเข้ามาจอดที่ริมถนน หน้าด่านป่าไม้ก่อนจะมีปากเสียงทะเลาะกัน ผ่านไปประมาณ 10 นาที เห็นรถของพลเมืองดีขับเข้ามาจอด
กล้องตัวที่ 2 อีกมุม เวลา 22.13 น. จับภาพรถกระบะของพลเมืองดี ขับออกจากจุดเกิดเหตุไปโรงพยาบาล กล้องตัวที่ 3 ก่อนจะถึงโรงพยาบาล 1 กิโลเมตร เวลา 21.19 น. รถกระบะของพลเมืองดีขับมุ่งหน้าโรงพยาบาล
วันที่ 8 ส.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายัง สภ.เมืองหนองคาย เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว น.ส.ธัญชนก ศรีมี อายุ 25 ปี ออกจากห้องขังไปยังห้องสืบสวน เพื่อชี้อาวุธมีดเนื่องจากผู้ต้องหาไม่ประสงค์ที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ระหว่างคุมตัวผู้ต้องหาออกมาทีมข่าวสอบถามผู้ต้องหา ถึงปมในการก่อเหตุและได้วางแผนก่อเหตุหรือไม่ แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ตอบคำถามทีมข่าว ตำรวจได้ให้ผู้ต้องหาชี้อาวุธในห้องสืบสวน ไม่อนุญาตให้ทีมข่าวเข้า ใช้เวลาชี้อาวุธ 10 นาที หลังจากชี้อาวุธเสร็จ เจ้าหน้าทีตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาออกมาจากห้องสืบสวน เพื่อไปยังห้องขัง ทีมข่าวได้สอบถามแรงจูงใจในการก่อเหตุกับผู้ต้องหาอีกครั้ง แต่เจ้าตัวก็ไม่ตอบคำถาม
เวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้คุมตัวผู้ต้องผู้ต้องหาออกจากห้องขัง เพื่อไปฝากขังที่ศาลจังหวัดหนองคาย ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ และปมที่ผู้ต้องหาบอกกับญาติให้ไปขอขมาศพคนตายนั้น แต่เจ้าตัวก็ไม่ตอบคำถามเช่นเคย
นางสาวนุสรา ญาติของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า วันนี้ตัวเองได้มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุ เจ้าตัวก็สารภาพกับตัวเองว่าทำไปเพราะหึงหวง วันเกิดเหตุ น.ส.ธัญชนก ได้มีปากเสียงกับผู้ตาย เพราะผู้ตายไม่ยอมกลับไปคืนดีกับผู้ก่อเหตุ อีกทั้งยังจะหนีไปจากเขา น.ส.ธัญชนกจึงก่อเหตุในครั้งนี้ ส่วนจะเตรียมการก่อเหตุหรือไม่นั้น ตัวเองก็ไม่รู้เรื่อง ยอมรับว่าเคยมีประวัติคดีทำร้ายร่างกายมาก่อน เป็นการทำร้ายร่างกายแฟนคนก่อนหน้านี้ ส่วนกับผู้ตายจะมีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำ
เวลามีปัญหากับแฟนเขาจะมาระบายให้ตัวเองฟังเกือบทุกครั้ง และก่อนหน้านี้มาบอกตัวเองว่า "เดี๋ยวจะมีข่าวดี" ตัวเองก็ไม่คิดว่าเขาจะมาก่อเหตุแบบนี้ ส่วนกรณีที่ น.ส.ธัญชนก โพสต์เฟชบุ๊กเมื่อวันที่ 28 ก.ค.65 ว่า "คิดการใหญ่ ใจต้องนิ่ง" ตัวเองก็ไม่นึกว่าเขาจะวางแผนก่อเหตุหรือไม่ นึกว่าเขาเตรียมจะเปิดร้านขายของใหม่
ตอนที่ตัวเองเข้าไปเยี่ยม เขาก็ฝากบอกตัวเองให้ไปจุดธูปขอขมาศพผู้ตายด้วย ส่วนเรื่องประกันตัวนั้น ทางญาติก็จะไม่ประกันตัว ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย
นางสาวผึ้ง (นามสมมติ) พลเมืองดี ที่พา น.ส.จตุพร ชัยแสง ผู้เสียชีวิตไปส่งโรงพยาบาล เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตัวเองกลับจากร้านอาหาร เพื่อจะเดินทางกลับบ้าน ซึ่งมีสามีเป็นคนขับรถ ตัวเองนั่งข้างคนขับ และมีลูกชายวัย 4 ขวบมาด้วย กระทั่งไปถึงจุดเกิดเหตุ บริเวณหน้าด่านป่าไม้ จ.หนองคาย ตัวเองเห็นทอมที่ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตจอดรถทะเลาะกันข้างทาง ระหว่างสามีขับรถไปถึงจุดเกิดเหตุ ผู้ตายก็วิ่งมาเคาะประตูฝั่งที่ตัวเองนั่งอยู่ พร้อมพูดว่า "ช่วยหนูด้วย ๆ" แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังเข้ามาฉุดกระชากต่อ เพื่อจะให้ไปอยู่กับเขาให้ได้ ตัวเองจึงบอกให้ทอมคนดังกล่าวหยุด บอกว่าถ้าไม่หยุดจะแจ้งตำรวจ เข้าจึงยอมปล่อย แล้ว น.ส.จตุพร ก็วิ่งมาหลบที่หลังตัวเอง
จากนั้นผู้ก่อเหตุได้วิ่งกลับไปที่รถเก๋ง พร้อมกับถือเหยือกมาด้วย 1 อัน ตอนนั้นตัวเองคิดว่าแต่เป็นเหยือกใส่เหล้าหรือเบียร์เท่านั้น ไม่คิดว่าจะเป็นเหยือกใส่น้ำกรด แล้ว น.ส.ธัญชนก ก็วิ่งอ้อมหลังตัวเองไป สาดน้ำกรดใส่หน้า น.ส.จตุพร จน น.ส.จตุพรร้องกรี๊ด สามีตัวเองจึงรีบขึ้นไปขับรถ แล้วให้ น.ส.จตุพรรีบขึ้นท้ายกระบะ สามีจึงกลับรถเพื่อจะพาตัวไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งระหว่างทำการกลับรถนั้น น.ส.ธัญชนก ก็กระโดดขึ้นรถตาม พอทอมขึ้นท้ายกระบะไปแล้วตัวเองและสามีมองกระจกไปด้านหลังกระบะ ก็เห็นทอมคนดังกล่าวทำร้ายร่างกาย น.ส.จตุพร แต่ตอนนั้นพวกตัวเองมองไม่เห็นอาวุธ เพราะทางค่อนข้างมืด พอสามีเห็นท่าไม่ดี จึงได้ขับรถไป เหยียบเบรกไปตามทาง เพื่อให้ น.ส.ธัญชนก ผู้ก่อเหตุเสียหลักในการทรงตัว
ตอนที่เกิดเหตุสาดน้ำกรด ทอมคนดังกล่าวก็สาดน้ำกรดโดนเท้าตัวเองอีกด้วย แต่โดนเล็กน้อย จึงทำให้เท้าตัวเองมีบาดแผลเป็นสะเก็ดเล็กน้อยเท่านั้น เหตุครั้งนี้ สร้างความสลดใจให้กับตัวเองเป็นอย่างมาก ถึงขั้นตัวเองนอนไม่หลับถึง 2 วัน
นางเกตมณี พลสงคราม อายุ 55 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เล่าว่า เหตุที่เกิดขึ้นตัวเองไม่ขอให้อภัยและอโหสิกรรม น.ส.ธัญชนก และไม่ต้องการให้ญาติมาขอขมาศพลูกสาว เพราะสิ่งที่ทำกับลูกสาวนั้นรับไม่ได้จริง ๆ จิตใจโหดเหี้ยมมาก และอยากให้ถูกตัดสินประหารชีวิตเพราะไม่อยากให้ออกมาก่อเหตุกับใครอีก
สิ่งที่ทำกับลูกสาวหากคนที่รักกันจริงจะไม่ทำแบบนี้ เลิกกันแล้วต้องปล่อยให้คนรักไปเจอสิ่งที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาตัวเองเห็นพฤติกรรมของน.ส.ธัญชนกที่ทำร้ายลูกสาว ตัวเองก็บอกให้ลูกเลิกกับทอมรายนี้แล้ว เขายังตามมาบ้านตัวเอง มาโวยวายที่บ้านอีก ทั้งนี้ ตัวเองก็อยากให้ลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องห่วงคนทางบ้าน แล้วก็ไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์
Advertisement