เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ม.ค. ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 น.ส.พรทิพา (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี (ลูกสาว) ทำอาชีพเจ้าหน้าที่บุคคลกรมทางหลวงชนบท พร้อม น.ส.พรทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี (แม่) ทำอาชีพลูกจ้างกทม. เข้าร้องทุกข์กับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกนายดำรง (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นอดีตแฟน น.ส.พรทิพย์ เข้ามารังควาน ตามด่าทอลูกสาวถึงที่ทำงาน ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย
ต่อมา ทางทีมข่าว พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง และทีมสายไหมต้องรอด ได้ลงพื้นที่ ซอยพหลโยธิน 49/1 ค้นหา นายดำรง หรือ นายโอ๊ต ผู้ก่อเหตุ
โดย ทางด้านเจ้าหน้าที่มีการเตรียมโล่กัน เหล็กง่าง ประตู เพื่อทำการเดินตรวจสอบพื้นที่ ที่ผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่ ซึ่งมีการเดินเลาะคลองบางบัว เพื่อทะลุไปยัง หมู่บ้านอาทิตย์ โดยเป็นการวางกำลัง ไว้หลายทาง ด้วยความหมู่บ้านเลาะไปได้ หลายทาง
และจุดแรกที่ลงพื้นที่นั้น คือ ห้องพัก ที่มีการแจ้งว่า นายดำรง หรือ โอ๊ต มีการพักอาศัย กับเพื่อน อีก 1 คน โดยมีการล็อกประตูจากภายนอก ทำให้ต้องใช้เวลา ในการเรียกอยู่สักพัก เพราะจากข้อมูล นายโอ๊ตมักมีพฤติกรรมให้พรรคพวกล็อกห้องจากข้างนอกให้ และเมื่อไปเป็นผล จึงมีการเชิญตัว คุณเพชรไพรินทร์ อายุ 25 ปี ลูกเจ้าห้อง เพื่อทำการอนุญาตให้พังประตู พร้อมได้เปิดเผยว่า ในกรณีนี้ ตนเคยอยากเอาป้ายมาติด ไม่ให้เขาอยู่ที่นี่ เพราะมีคนมาบอกว่า เขามักจะจอดรถขวางคนอื่น และมีพฤติกรรมมั่วสุม แต่ไม่ทราบว่าเคยไปสร้างความเดือดร้อนขนาดนี้ ตนอยากให้เขาออกไป และไม่อยากให้เขาอยู่ที่นี่แล้ว แต่ไม่เคยเข้าไปในห้องที่เขาเช่า แต่เพื่อนเขาเป็นคนเช่า
ต่อมา เวลาไม่นาน ทางด้านเจ้าหน้าที่ นำชะแลงมางัดประตูและเปิดเข้าไปได้ พบสภาพห้อง มีรถมอเตอร์ไซต์ 2 คัน มีอุปกรณ์การสูบยาในห้อง พร้อมฝ่าเพดานที่พัง ทั้งนี้ยังพบว่ามีพวกน็อต และอุปกรณ์ทำรถเต็มห้อง แต่กลับไม่เจอ นายดำรงหรือนายโอ๊ต ผู้กระทำความผิด
และเมื่อทีมข่าวพยายามตามข้อมูลเพิ่ม พบว่ามีบุคคลในซอย ชี้เบาะแสว่า นายดำรง หรือ นายโอ๊ต ผู้กระทำความผิด ได้หนีออกจากซอยไปแล้ว ทำให้มีการเดินค้นหาและกระจายกำลังตามหา
แต่เมื่อกำลังจะเดินทางไป จุดที่มีคนกล่าวนั้น กลับพบผู้เสียหาย แจ้งว่าเพิ่งกลับมาจากจุดดังกล่าว ทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่ และ ทีมสายไหม พร้อมนักข่าว ต้องวางแผนกันใหม่โดยการเดินย้อนกลับไปยังบ้านอีกหลัง ในซอยดังกล่าว
และทางด้าน นายเอกภพ ทำการเดินขึ้นไป เพื่อตรวจสอบ โดยให้ทางทีมข่าวรออยู่ข้างล่าง และ มีการเรียกเจ้าหน้าที่มายังจุดที่ที่สงสัย และเพียงไม่นาน ทางด้านนายเอกภพ ก็นำตัว นายดำรง และ นายโอ๊ต ที่ยังมีอาการมึนๆ เดินลงมา เจอกับนักข่าว เพื่อพูดคุย
แต่เมื่อนักข่าวพยายามสอบถาม นายดำรง หรือ นายโอ๊ต ก็ยืนยันว่า ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย หรือ ไม่เคย ทำอะไรผู้เสียหาย มีแต่เขาทำตน เขาเอาไมโครชิฟมาฝังที่หูตน ตนเชื่อว่า เขาเป็นคนทำ เพราะเสียงนี้ มันเกิดขึ้น ตอนอยู่บ้านเขา ก่อนแยกทางจากแม่เขา ตนยืนยัน ไม่เคยทำร้าย หรือเอาอะไรไป ปาใส่บ้านเขา
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ พาตัว นายดำรง ผู้ก่อเหตุ ไปชี้จุดเกิดเหตุ และชี้รถที่ใช้ก่อเหตุ ทั้ง 3 คัน พร้อม มีการนำตัวไปสอบปากคำ
พร้อมทั้งตอนนำตัวไปยัง สน. ทีมข่าวพยายามถามต่อว่า อยากขอโทษไหม ทางเจ้าตัว เผยว่า ถ้าเขามองว่าตนผิด ตนก็ขอโทษ จะกลับตัวเป็นคนดี อยากขอให้เอาไมโครชิฟออกให้หน่อย
ทั้งนี้ เวลา 16.14 น. ทางเจ้าหน้าที่ ได้นำตัวผู้ก่อเหตุ กลับมา ค้นหาของที่ใช้ก่อเหตุ และของกลางเพิ่มเติม และมีการตั้งข้อกล่าวหา เบื้องต้น เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ย้าบ้า ) ส่วนรถ 1 คันมีชื้อแม่เป็นผู้ครอบครอง อีก 4 คันระบุว่าเป็นของเพื่อน ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบ
Advertisement