Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
รวบชาวเวียดนามลอบปลูกกัญชา ยึดของกลางเพียบ

รวบชาวเวียดนามลอบปลูกกัญชา ยึดของกลางเพียบ

28 ม.ค. 68
17:09 น.
|
376
แชร์

ตม.รวบชาวเวียดนาม ลักลอบปลูกกัญชาโดยไม่รับอนุญาต ยึดของกลางดอกกัญชา และต้นกัญชาเกือบพันต้น

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ร่วมกับตำรวจสืบสวน สน.ประชาชื่น เจ้าหน้าที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข นำกำลังเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ภายในซอยงามวงศ์วาน 32 ถนนงามวงศ์วาน แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ เนื่องจากสายลับให้ข้อมูลมาว่า สถานที่ดังกล่าวได้ลักลอบปลูกกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีแรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้รับอนุญาตทำงาน

โดยอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าวมีขนาด 3 คูหา จำนวน 4 ชั้น พบว่าที่บริเวณชั้น 1 ถูกดัดแปลงเป็นสถานที่เก็บปุ๋ยและห้องพักของคนงาน ซึ่งสามารถนอนได้อย่างน้อย 6-7 คน ส่วนชั้น 2 ของอาคารพาณิชย์ พบว่ามีการดัดแปลงให้เป็นห้องที่มีสภาพสำหรับเพาะปลูก มีการติดตั้งอุปกรณ์เพาะปลูก อุปกรณ์สำหรับปรับสภาพอากาศ ติดแอร์กับพัดลม และให้น้ำให้แสงครบครัน โดยที่ชั้น 2 นี้ พบต้นกัญชาโตเต็มวัยอยู่ภายในห้องประมาณ 108 ต้น พบต้นกัญชาขนาดเล็กที่อยู่ในระหว่างการเพาะชำอีก 136 ต้น รวมทั้งต้นกัญชาเพิ่งแตกยอดอ่อนและเมล็ดสำหรับเตรียมงอกอีกประมาณ 455 ต้น รวมทั้งพบถุงดอกกัญชาแปรรูปอบแห้งจำนวน 1 ถุง

ส่วนบริเวณชั้น 3 และชั้น 4 ของอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว พบการดัดแปลงลักษณะคล้ายคลึงกัน คือติดตั้งระบบอุปกรณ์สำหรับเพาะปลูก โดยเฉพาะติดตั้งแอร์ พัดลม เครื่องให้น้ำให้แสง ปรับสภาพอากาศเต็มที่ ซึ่งที่ชั้น 3 พบต้นกัญชาโตเต็มวัย จำนวน 128 ต้น และชั้น 4 พบต้นกัญชาโตเต็มวัยพร้อมออกดอก จำนวน 134 ต้น อย่างไรก็ตาม ตรวจสอบไม่พบว่าอาคารหลังดังกล่าวขอใบอนุญาตปลูกกัญชาถูกต้องตามกฎหมายกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข แต่อย่างใด

นอกจากนี้ จากการเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว พบแรงงานชาวเวียดนามเข้าเมืองถูกกฎหมาย 1 ราย อายุ 49 ปี แต่ไม่ได้ขออนุญาตทำงานในราชอาณาจักรแต่อย่างใด จึงได้ดำเนินการแจ้งข้อหาทำงานในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า (กัญชา) โดยไม่รับอนุญาต

จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังไม่ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี อ้างว่ามาทำงานที่อาคารหลังดังกล่าวได้ 3 เดือน ร่วมกับเพื่อนอีก 3 คน แต่เนื่องจากเพื่อนที่เหลือได้กลับบ้านไปก่อน เพราะอยู่ในช่วงเทศกาล เลยเหลือตนเองอยู่คนเดียว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผู้ต้องหายังไม่ให้การเกี่ยวกับเรื่องของการปลูกกัญชา อ้างว่ามีหน้าที่เพียงแค่ดูแลต้นกัญชา ซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจจะสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมว่า กัญชาที่พบนั้นใครเป็นเจ้าของและมีการส่งออกไปขายที่ใด รวมทั้งส่งออกไปยังต่างประเทศหรือไม่

โดย น.ส.อรอนงค์ ศรีสุวรรณ นิติกรชำนาญการ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการเข้าร่วมตรวจสอบกับทางตำรวจพบว่า ผู้ครอบครองอาคารหลังดังกล่าวเป็นนิติบุคคล ซึ่งได้จดทะเบียนใบอนุญาตจัดจำหน่ายแปรรูปกัญชาที่ จ.กาญจนบุรี แต่ทว่าไม่ได้จดทะเบียนจัดจำหน่ายแปรรูปกัญชาในพื้นที่กรุงเทพมหานครแต่อย่างใด

ดังนั้น อาคารพาณิชย์แหล่งดังกล่าวจึงปลูกกัญชาและแปรรูปดอกกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต นั่นจึงทำให้ป้ายภายในอาคารที่ระบุว่าเป็นสถานที่แปรรูปกัญชาจึงเป็นป้ายที่ติดเพื่อสมอ้าง ส่วนใบอนุญาตของ อย. ที่พบในอาคารนั้น เป็นเพียงใบจดแจ้งว่ามีการปลูกกัญชากี่ต้นในระหว่างที่กฎหมายยังไม่ออก แต่ไม่ใช่ใบขออนุญาตแต่อย่างใด

น.ส.อรอนงค์ เปิดเผยอีกว่า ปกติแล้วการปลูกกัญชาที่ให้ผลดอกเพื่อนำมาแปรรูป จะต้องจดทะเบียนขออนุญาตกับทางราชการ โดยในส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต้องไปจดทะเบียนที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัด ต้องไปจดทะเบียนที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งใบอนุญาตจะใช้ได้เฉพาะแต่ละพื้นที่และเฉพาะสถานที่เท่านั้น ไม่สามารถมาใช้รวมกันในหลาย ๆ ที่ได้ โดยในใบอนุญาตจะมี 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทจัดจำหน่ายและแปรรูป ประเภทส่งออก และประเภทวิจัย

สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น ตัวนิติบุคคลผู้ครอบครองอาคารรวมทั้งแรงงานจะถูกดำเนินคดีฐานไม่มีใบอนุญาตแปรรูปและจัดจำหน่ายสำหรับการปลูกกัญชาที่มีพืชดอก โดยมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งถ้าหากพบว่ามีการส่งออกกัญชาแปรรูปไปยังต่างประเทศ ก็จะมีความผิดเพิ่มขึ้นอีก ส่วนของกลางนั้น ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจะดำเนินการยึดอายัดเอาไว้เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลต่อไป

นอกจากนี้ ขอประชาสัมพันธ์ไปยังบรรดาผู้ประกอบการที่คิดจะเพาะปลูกกัญชา โดยเฉพาะต้องการดอกกัญชามาใช้แปรรูปกับจัดจำหน่าย ต้องจดทะเบียนกับหน่วยงานราชการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีค่าธรรมเนียมที่ไม่แพง รวมทั้งเป็นการควบคุมให้กัญชาที่เพาะปลูกขึ้นมานั้นจัดจำหน่ายอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการลักลอบจำหน่ายให้แก่เด็กและเยาวชนจนกลายเป็นปัญหาสังคมต่อไป

Advertisement

แชร์
รวบชาวเวียดนามลอบปลูกกัญชา ยึดของกลางเพียบ