“ต้นอ้อ” ช่วยสาวถูกบังคับมีเซ็กซ์ 3 ครั้งต่อวันแบบซาดิสม์ ถูกซ้อมน่วม
“ต้นอ้อ” พาสาวสาวท้องอ่อน แจ้งความ ผัวใหม่คบได้เพียง 5 เดือน ล็อกคอเตะหน้าเลือดอาบ หลังถูกบังคับให้มีเซ็กซ์แบบซาดิสม์วันละ 3 ครั้ง
จากกรณีสาวท้องอ่อน 3 เดือน ร้องขอความช่วยเหลือทางต้นอ้อ เป็นหนึ่ง หลังถูกสามีใหม่ที่เพิ่งคบได้เพียง 5 เดือน ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสต่อหน้าลูกวัย 3 ขวบ เพราะสามีมีความต้องการทางเพศสูง บังคับให้ต้องมีเพศสัมพันธ์ร่วมกันอย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง แถมยังมีรสนิยมทางเพศแบบซาดิสม์ จนเจ้าตัวทนไม่ไหว แต่เมื่อปฏิเสธก็จะถูกทำร้ายร่างกาย มิหนำซ้ำสามียังขู่จะยิงครอบครัวหากเลิกรากัน
คอนเทนต์แนะนำ
ล่าสุด วันนี้ (4 ก.พ.) ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ฉะเชิงเทรา พมจ.ฉะเชิงเทรา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือหญิงสาวรายนี้ทราบชื่อคือนางสาวณัชชาวงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี หรือก้อย ในพื้นที่ ต.นครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยนางสาวณัชชาวงศ์ เล่าว่า ตนรู้จักนายโอ๋ สามีของตนจากรุ่นพี่ที่รู้จักกัน ก่อนจะลองคุยกัน และตกลงคบหากันในที่สุด ซึ่งช่วงแรกนายโอ๋ ดูแลเอาใจใส่ตนดีมาก จนกระทั่งตนก็พลาดท้องขึ้นมา แต่นายโอ๋ ก็ไม่ได้ปัดความรับผิดชอบแต่อย่างใด จนมาช่วงหลังนายโอ๋ เริ่มมีอารมณ์รุนแรงขึ้น ควบคุมตัวเองไม่ได้ และเริ่มมีการทำร้ายร่างกานตนบ่อยครั้งขึ้นเมื่อไม่ได้ดั่งใจ ทั้งบีบคอ ตบตี ทั้ง ๆ ที่ตนตั้งท้องอยู่ แต่นายโอ๋ ก็ยังยังบังคับให้ตนมีเพศสัมพันธ์แบบรุนแรงอีก โดยบอกว่า “ต้องวันละ 3 ครั้งต่อวันจนกว่าจะเบื่อ” แต่ตนก็ยังไม่ได้บอกใคร จนกระทั่งวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนบอกสามีว่าจะกลับมาไหว้วันตรุษจีนที่บ้านหลังนี้ แต่ตนต้องดูแลยาย จึงโทรศัพท์ไปบอกสามีว่าจะค้างที่นี่ 1 คืน ปรากฏว่าช่วงเย็นสามีของตนขับรถมาหาที่บ้าน ก่อนจะขอเงินตนไปซื้อบุหรี่ พร้อมกับชวนลูกชาย ซึ่งเป็นลูกติดของตนไปซื้อขนม แต่ว่าสามียังไม่ทันได้เดินไปถึง สามีก็ล็อกคอให้ตนล้มลงกับพื้น และเตะหน้าตนอย่างแรง และหลังเกิดเหตุสามียังข่มขู่ว่าจะยิงตนกับครอบครัว โดยบอกว่า ‘กูไม่มีอะไรจะเสีย กูมีปืน’ ทำให้ตนกลัวมาก เพราะตนเคยเห็นรูปปืนของสามีจริง ๆ
ด้านนางสาวชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้มีประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เรียบร้อยแล้ว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้กระแสสังคมกลับมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปัญหาเรื่องเพศ และมีการซ้ำเติมฝ่ายหญิง ทั้งที่เป็นเรื่องของความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติในสังคม
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะนัดให้มีการพูดคุยกับฝ่ายชาย เพื่อให้ฝ่ายชายยอมเลิกรากับฝ่ายหญิง และในส่วนเรื่องลูกนั้น หากฝ่ายชายต้องการที่จะเลี้ยงดูก็สามารถใช้สิทธิ์ของความเป็นพ่อในการขอเลี้ยงดูได้ แต่ฝ่ายชายก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำร้ายหรือคุกคามฝ่ายหญิงอีก ต่างคนต่างแยกย้ายไปใช้ชีวิตของตนเอง
Advertisement
