แก๊งคอลเซ็นเตอร์แสบ ข่มขู่ม.6 จะทำร้ายพ่อแม่ บังคับโอนเงินให้ 2.6ล้าน
แก๊งคอลเซ็นเตอร์แสบ ข่มขู่ม.6 จะทำร้ายพ่อแม่ บังคับโอนเงินให้ 2.6ล้าน โชคดีตำรวจอายัดทันได้คืน 1.8ล้านบาท
วันที่ 28 ก.พ. 68 ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รองผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวมอบเงินคืน เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 1.8 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หลัง น.ส.ออม อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นม.6 โดนแก็งคอลเซ็นเตอร์โทรมาข่มขู่จะทำร้ายคนในครอบครัว จึงต้องโอนเงินจากบัญชีตัวเองบัญชีแม่และพ่อให้ โดยมี น.ส.พร อายุ 53 ปี และสามี เดินทางมารับมอบเงิน โดยมอบเป็นเช็กเงินสด 1,849,903 บาท
พล.ต.ต.สุวรรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 67 ผู้เสียหายเป็นนักเรียนหญิงชั้นม.6อาศัยอยู่กับพ่อแม่ใน อ.เมือง จ.อุดรธานี โดนคนร้ายหลอกลวงให้โอนเงินด้วยการข่มขู่ว่ารู้ความเคลื่อนไหวของน้องทุกอย่าง ไม่ว่าจะไปทำธุระที่ไหน ไปกับใคร รู้ว่าบ้านอยู่ที่ไหน บ้านเลขที่ ทำกิจการอะไร ไปทานข้าวที่ไหน ไปกินหมูกระทะที่ไหน คนร้ายรู้จักหมด และข่มขู่ทำให้เกิดความกลัว โดยจะประทุษร้ายครอบครัว ทำให้น้องยินยอมโอนเงินให้ครั้งแรกเ ป็นเงินส่วนตัวประมาณ 9 หมื่นบาท
แต่คนร้ายยังไม่พอใจ ได้ข่มขู่จะทำร้ายพ่อแม่ น้องจึงเกรงพ่อแม่จะได้รับอันตราย คนร้ายสั่งให้ไปบอกพ่อโอนเงินให้น้อง และให้น้องโอนเงินให้ 100 บาท แต่ระหว่างโอนเงินคนร้ายได้วิดีโอคอลกัน และให้เอาโทรศัพท์ของพ่อมาดูรหัส ทำให้คนร้ายได้รหัสไปสั่งให้ปลดล็อกหน้าจอเข้าไปแอปธนาคาร พอคนร้ายรู้รหัสแล้วก็ได้เข้าไปแอปธนาคาร โอนเงินจำนวน 1.8 ล้านเศษ แล้วนำโทรศัพท์ไปสแกนหน้าพ่อ โดยบอกพ่อว่า โทรศัพท์มีปัญหา ไม่ได้เอะใจอะไรจนเงินโอนเข้าบัญชีคนร้าย
คนร้ายได้เงินจากบัญชีน้องบัญชีพ่อ แต่ยังไม่พอใจใช้วิธีการเดิมให้ไปหลอกเอาโทรศัพท์ของแม่โอนเงินจากบัญชีแม่เข้าบัญชีคนร้ายด้วยประมาณ 8 แสนบาท รวมเป็นเงิน 2,655,098 บาท พอน้องรู้ตัวว่าถูกคนร้ายหลอกจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำงานด้วยความรวดเร็ว สามารถอายัดบัญชีของคนร้ายได้ 1 บัญชี เป็นเงิน 1.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจากบัญชีของพ่อ ในส่วนของแม่ก็ต้องขออภัยด้วย เพราะว่าคนร้ายได้เงินไปแล้ว ใช้เวลา 1 นาทีก็แปลงเป็นเงินดิจิทัลไปแล้ว แต่เรายังติดตามต่อว่าใครเป็นคนร้าย ส่วนบัญชีที่โอนให้คนร้ายเป็น 3 บัญชี ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ติดตามและจะแจ้งความคืบหน้าต่อไป
“เชื่อว่าแก็งคอลเซ็นเตอร์นี้จะอยู่นอกประเทศ ดูจากสัญญาณโทรศัพท์แล้วเป็นประเทศเพื่อนบ้านฝั่งทิศตะวันออก ทราบว่าคนร้ายเป็นคนไทย คนร้ายได้ติดต่อมาหาพนักงานสอบสวนแล้ว อยู่ระหว่างสอบสวน อาจจะมีคนต่างชาติร่วมด้วย เงินโอนไป 3 บัญชี อาจจะเป็นบัญชีม้า กลุ่มเสี่ยงจะเป็นเด็ก เพราะมีวุฒิภาวะน้อยหลง เชื่อคำขู่คำหลอกลวงของคนร้าย และกลุ่มผู้สูงอายุฝากให้ลูกหลานให้ความรู้กับผู้สูงอายุ แนะนำ กรณีที่มีหมายเลขแปลกๆ มีการพูดการชี้นำที่แปลกๆ ก็อย่าไปสนทนาด้วย เป็นไปได้ไม่ต้องรับสายเลย หรือรับสายแล้วให้รีบวาง เพราะเราไม่รู้ว่าระหว่างที่สนทนาจะนำรหัสเราไปทำอย่างไรต่อไป”
Advertisement
