Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
CIB รวบ อดีตแม่บ้าน สวมรอยเป็นกรรมการบริษัททิพย์ ออกใบกำกับภาษีปลอม

CIB รวบ อดีตแม่บ้าน สวมรอยเป็นกรรมการบริษัททิพย์ ออกใบกำกับภาษีปลอม

20 มี.ค. 68
12:08 น.
|
211
แชร์

ตำรวจสอบสวนกลาง รวบ อดีตแม่บ้าน สวมรอยเป็นกรรมการบริษัททิพย์ออกใบกำกับภาษีปลอม กว่า 188 ฉบับ รัฐเสียหายมูลค่ากว่า 131 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.นพคุณ ทัศนมาลัย สว.กก.2 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม น.ส.เยาวลักษณ์ อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 271/2567 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2567 ในฐานะนิติบุคคลและฐานะส่วนตัว ในความผิดฐาน "ร่วมกันออกใบกำกับ ภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามมาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร"

สามารถจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าห้องพัก ถ.ลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ​สืบเนื่องมาจาก กรมสรรพากรได้มาร้องทุกข์ที่ กก.2 บก.ปอศ. ให้พิจารณาดำเนินคดีอาญาความผิดกับ บริษัทแห่งหนึ่ง ในฐานะนิติบุคคล และ น.ส.เยาวลักษณ์ กรรมการ ผู้มีอำนาจของบริษัทฯ ในข้อหา "ร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามมาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร"

กล่าวคือ ในช่วงเดือนตุลาคม 2566 บริษัท ดังกล่าว มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง แต่เจ้าพนักงานกรมสรรพากรตรวจสอบพบว่า บริษัทดังกล่าว ไม่มีการประกอบกิจการ ณ สถานประกอบการดังกล่าวจริง โดยสถานที่ตั้งบริษัท มีลักษณะเป็นเพียงบ้านเช่า ไม่พบการประกอบกิจการของบริษัทฯ แต่อย่างใด สอบถามผู้อาศัยข้างเคียงให้การว่า บริษัทดังกล่าว ไม่ได้มีการประกอบกิจการแต่อย่างใด อีกทั้งไม่สามารถติดต่อได้

กรมสรรพากรจึงเชื่อได้ว่าบริษัทดังกล่าวมีการออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมา ไม่ได้มีเจตนาที่จะประกอบกิจการจริง ประกอบกับบริษัทดังกล่าวไม่ส่งมอบเอกสารให้เจ้าพนักงานกรมสรรพากรเพื่อตรวจสอบ แต่บริษัทดังกล่าวได้ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกช่วงเดือนภาษีสิงหาคม 2566 ถึงเดือนภาษีมีนาคม 2559 ให้กับผู้ประกอบการรายอื่น ประกอบกับกรมสรรพากรได้รับแจ้งจากสำนักงานสรรพากรพื้นที่ต่างๆ พบว่ามีใบกำกับภาษีขายที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ออกโดยบริษัทนี้ไปยังผู้ประกอบเพื่อใช้ยื่นขอเครดิตภาษี (ขอคืน) ต่อกรมสรรพากร รวมใบกำกับภาษีจำนวน 188 ฉบับ ซึ่งใบกำกับภาษีดังกล่าวเป็นเท็จทั้งสิ้น และไม่มีการซื้อขายสินค้ากันจริงแต่อย่างใด ซึ่งได้ประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม รวมเป็นเงินจำนวนกว่า 131 ล้านบาท

จากข้อมูลดังกล่าว จึงเชื่อได้ว่า การออกใบกำกับภาษีดังกล่าวเป็นการออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร

จากนั้นพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. ได้อออกหมายเรียกเพื่อติดต่อตัวกรรมการมาทราบข้อกล่าวหา แต่ก็ไม่มีผู้ใดมาพบพนักงานสอบสวนตามที่ออกหมายเรียกไป จึงเชื่อได้ว่ามีพฤติการณ์หลบหนี พนักงานสอบสวนจึงได้ขออนุญาตศาลเพื่อออกหมายจับ นำตัวกรรมการเป็นผู้รับผิดชอบมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หลังจากที่ศาลได้อนุมัติหมายจับแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนมาโดยตลอด ประกอบกับหมายจับใกล้จะหมดอายุความในอีก 2 เดือนเศษ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นกรณีที่มีมูลค่าความเสียหายสูง จึงได้เร่งดำเนินการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.เยาวลักษณ์ ผู้ต้องหา อยู่ในพื้นที่ ถ.ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร จึงติดตามกระทั่งพบตัวผู้ต้องหา ทำการจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และให้รายละเอียดในคำให้การว่าตนไม่รู้จักบริษัทดังกล่าวแต่อย่างใด โดยให้การเพียงว่า เมื่อปี 2556 ตนเองประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยทำงานเป็นแม่บ้าน ซึ่งมีนายจ้าง (จำชื่อสกุลจริงไม่ได้) ได้มาขอบัตรประจำตัวประชาชนไปใช้เพื่อดำเนินการในเรื่องสวัสดิการให้ จึงไม่ทราบว่าจะนำมาใช้ในการกระทำความผิดดังกล่าวเตือนภัย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก ป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิด รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจ ที่ได้ดำเนินการหลีกเลี่ยงภาษีอากร โดยฉ้อโกง หรือใช้กลอุบาย ทำให้รัฐเกิดความเสียหาย ซึ่งถือว่าเป็นผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายรัษฎากร

ฝากเตือนถึงประชาชน ห้ามขาย หรือ ให้บัตรประชาชน หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ แก่ผู้อื่นโดยไม่ทราบวัตถุประสงค์ มิเช่นนั้นจะตกเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัวและอาจถูกนำข้อมูลในบัตรประชาชนไปสวมรอยจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลได้โดยไม่รู้ตัว เพราะในการเริ่มต้นของการประกอบธุรกิจ หากไม่ได้เกิดขึ้นมาจากความโปร่งใส ก็ย่อมมีแนวโน้มที่นิติบุคคลรายนั้นจะประกอบธุรกิจที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ประกอบกับมีเจตนาที่จะจัดตั้งธุรกิจขึ้นมาเพื่อหลอกลวงผู้อื่น ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ

Advertisement

แชร์
CIB รวบ อดีตแม่บ้าน สวมรอยเป็นกรรมการบริษัททิพย์ ออกใบกำกับภาษีปลอม