เกิดเหตุเพื่อนฆ่าเพื่อนใช้มีดแทงนับ 10 แผล เหตุเกิดในสวนปาล์ม บ้านเหนือคลอง ม.8 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ทันควันภายใน 2 ชั่วโมง
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายคือ นายวันชนะ ไมสุ อายุ 33 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายกิตติศักดิ์ ปาวัน อายุ 29 ปี โดยทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนรักกัน และนายกิตติศักดิ์ได้มาขออาศัยอยู่ที่บ้านผู้ตาย ประมาณ 3 เดือน มาขอข้าวขอปลากินทุกวัน แล้วขึ้นไปนอนในสวนปาล์ม
ต่อมา วันที่ 29 ต.ค. 64 ผู้ตายและผู้ก่อเหตุได้หายไปด้วยกันตั้งแต่ช่วงเช้าจนกระทั่งช่วงเย็น ทางบ้านพบว่าผิดปกติจึงได้ให้เพื่อนบ้านช่วยกันตามหา จนกระทั่งเช้าอีกวันรุ่งขึ้นพบกลายเป็นศพอยู่ในสวนปาล์มที่มีสภาพเป็นที่ลาดชัน ด้านล่างมีธารน้ำ ศพผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ด้านล่าง
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ควนกาหลง และชุดสืบสวน ภจว.สตูล ตามตัวนายกิตติศักดิ์ จนกระทั่งจับกุมตัวขณะที่ซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเช่า ซอย 65 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งผู้ก่อเหตุอยู่ในสภาพมึน ให้การวกไปวนมา สารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่านายวันชนะ ซึ่งเป็นเพื่อน ด้วยมีดพกที่พกมาด้วย
โดยเมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 29 ต.ค. 64 ผู้ก่อเหตุอ้างว่าได้มาที่บ้านของผู้ตาย และออกเงินคนละ 600 บาทเพื่อไปซื้อยาบ้าจำนวน 50 เม็ดมาเสพ เสพกันไปก่อนแล้วจำนวน 10 เม็ด จากนั้นเวลา 21.00 น. ได้เดินทางไปยังขนำในสวนยาง เพื่อเสพยากันต่อ และขณะเสพยากันก็มีปากเสียงกัน
ต่อมาเวลา 04.00 น. ของวันที่ 30 ต.ค. 64 จึงได้พากันขี่รถจักรยานยนต์ลงมาจากขนำ ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กม. ได้มีปากเสียงทะเลาะกันต่อ ผู้ก่อเหตุจึงใช้มีดที่เหน็บไว้แทงนายวันชนะบริเวณไหล่ซ้าย 1 แผล ด้านหลังซ้าย 2 แผล และซี่โครงขวา 2 แผล รวม 5 แผล ผู้ตายพยายามต่อสู้และหนี จนกระทั่งล้มเสียชีวิตในจุดที่พบศพ ผู้ก่อเหตุจึงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปซ่อนตัวในบ้านเช่า จนเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ในเวลา 06.00 น. ของวันเดียวกัน
ล่าสุด วันที่ 31 ต.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านผู้เสียชีวิต หมู่บ้านคนไทยศาสนาอิสลาม ใน อ.ควรกาหลง จ.สตูล ห่างจากที่เกิดเหตุ 2 กิโลเมตร พบครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ในสภาพโศกเศร้าเสียใจ หลังจากเพิ่งจัดพิธีฝังศพผู้ตายไป
นายโกวิทย์ ไมสุ น้องชายของผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะพี่ชายเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นคนดี ดูแลพ่อแม่พี่น้อง เป็นคนดีกว่าตนเองอีกด้วย แต่มาถูกเพื่อนที่ติดยาเสพติดให้ที่อยู่ที่กินล่อลวงไปฆ่า โดยในวันเกิดเหตุ ตนตื่นมาพบว่าพี่ชายหายออกไปจากบ้านช่วงกลางดึก โดยไม่นำของมีค่าใด ๆ ติดตัวไปเลย ทั้งโทรศัพท์มือถือ เงิน แม้แต่รองเท้ายังใส่ของน้องชายไป เหมือนว่าเร่งรีบจะไปทำอะไร แฟนสาวบอกว่าเห็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนมารับพี่ชายไปขนำเขากลางสวนปาล์ม
ผ่านไปทั้งวันพี่ชายยังไม่กลับมา จึงโทรสอบถามผู้ก่อเหตุ โทรไปหลายครั้งไม่ยอมรับสาย พอรับสายก็บอกว่าพี่ชายตายแล้ว ไปอยู่กับอัลเลาะห์แล้ว ก็เริ่มเอะใจ เพราะผู้ก่อเหตุมีประวัติฆ่าคนอื่นมาแล้ว และติดยาเสพติดหนัก จึงให้ชาวบ้านช่วยกันออกตามหาพี่ชาย จนพบรองเท้าตกอยู่ริมถนน จึงตามหาพบรอยเลือดเข้าไปในป่า ตามรอยเลือดไปพบศพพี่ชายถูกแทงหลายสิบแผล ถูกนำไปทิ้งไว้ในป่าเป็นทางลาดชันใกล้กับลำธาร จึงรีบแจ้งตำรวจไปตามจับตัวผู้ก่อเหตุได้
ขณะที่น้องชายและน.ส.มาลัยวรรณ ไมสุ น้องสาวผู้เสียชีวิต น้องสาวของผู้ตาย พาทีมข่าวไปดูที่จุดเกิดเหตุในป่า ทางลาดชันตอนไปพบศพคาดว่าพี่ชายเสียชีวิตมาแล้วหลายชั่วโมง น้องสาวยังยืนยันอีกว่าการเสียชีวิตของพี่ชายไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพราะพี่ชายไม่ได้พกเงินติดตัวไป และที่พี่ให้เพื่อนมาพักอาศัยด้วยเพรสงสาร ไม่มีเงิน และมีเรื่องกับคนในพื้นที่อื่น คาดว่าเพื่อนที่เสพยาน่าจะหลอนบาบ้าฆ่าพี่ชาย เพราะก่อนหน้านี้เคยได้ยินเพื่อนพี่ชายถามว่าพี่ชายจะฆ่าเขาหรือไม่ พี่ชายก็ยังบอกว่าจะฆ่าทำไม จนพี่ชายมาเป็นศพ ถูกเพื่อนรักฆ่ากันง่าย ๆ
อย่างไรก็ตาม ตนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับเพื่อนพี่ชายให้ถึงที่สุด ประหารชีวิตไปเลย เพราะฆ่าอย่างโหดเหี้ยมมาก ตัวพี่ชายมีแต่รอยแผลมีดแทงย้ำมากกว่า 10 แผลตามร่างกาย ครอบครัวก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ ต้องมาเสียพี่ชายเสาหลักของบ้านไป
ภายหลังรับรายงาน พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ ผบก.ภ.จว.สตูล, พ.ต.อ.พสิษฐ์ ศานติปรัชญา รองผบก.ภ.จว.สตูล, พ.ต.อ.สินชัย คล่องแคล่ว กก.สส.ภ.จว.สตูล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ พฐ.จว.สตูล และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.สตูล ได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ สำหรับนายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหานั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะ พบว่ามีสารเสพติดในปัสสาวะ จึงดำเนินคดีต่อไป