จับพม่า 184 ราย ที่ชายแดนพบพระ เตรียมเดินเท้าข้ามเขาเข้ากรุงเทพฯ

ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 จังหวัดตาก สกัดจับแรงงานสัญชาติเมียนมา 184 คน ลักลอบข้ามชายแดนจะไปกรุงเทพฯ จ่ายค่านายหน้าสูงถึงหัวละ 20,000 บาท คาดทำเป็นขบวนการใหญ่ เร่งสอบสวนขยายผลแล้ว

เมื่อเวลา 01.00 น. พันเอกณรงศ์ชัย เจริญชัย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 สั่งการให้พันโทสุริยา ผาสุก ผบ.บก.ควบคุมฉก.ร.14 นำกำลังทหารชุดกองร้อยร.1413 เข้าลาดตระเวนในพื้นที่ล่อแหลมติดแนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา ที่ท้ายหมู่บ้านห้วยน้ำนัก ช่วงป่ามะขาม หมู่ที่ 4 ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ตามแผนการป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย

เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหวภายในป่ารกทึบและเป็นการเคลื่อนไหวที่มีกลุ่มคนเป็นจำนวนมาก กำลังทหารจึงรีบเข้าไปปิดล้อมเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่เป้าหมายโดยทันทีและพบว่าในป่ารกทึบพบกลุ่มแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจำนวน 184 คน เป็นชาย 111 คนและหญิง 73 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นแรงงานผิดกฎหมายสัญชาติเมียนมา นอนหลบซ่อนตัวอยู่ในความมืดซึ่งแต่ละคนต่างมีกระเป๋าสัมภาระในการเดินทางมาคนละใบ และแรงงานหลายคนตกอยู่ในสภาพหนาวสั่นจากอากาศหนาวเย็นและอิดโรยจากการลักลอบเดินเท้าข้ามแนวชายแดนเข้ามาในประเทศไทยเป็นระยะทางไกล และมารวมตัวกันเพื่อจะรอทีมนายหน้ามารับตัวขึ้นรถยนต์ไปส่งในพื้นที่ชั้นใน เจ้าหน้าที่ทหารจึงต้องให้แรงงานผิดกฎหมายทั้งหมดกระจายตัวแยกออกจากกันเพื่อป้องกันและลดความแออัดและต้องเข้าตรวจสอบด้วยความระมัดระวังตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารได้ประสานขอกำลังฝ่ายปกครองอำเภอพบพระและตำรวจ สภ.พบพระ ให้เข้าร่วมนำกำลังควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั้งไปทำการสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อขยายผลเชิงลึก

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ากลุ่มแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ทั้งหมดรวมจำนวน 184 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารจับตัวได้ในครั้งนี้เป็นแรงงานที่มาจากประเทศเมียนมา โดยมีนายหน้าฝั่งประเทศเพื่อนบ้านและนายหน้าฝั่งประเทศไทยร่วมมือกันนำเข้ามาผ่านทางเรือข้ามแม่น้ำเมยลักลอบข้ามเข้ามาในพื้นที่ชายแดนอำเภอพบพระ จังหวัดตาก โดยทำกันเป็นขบวนการใหญ่ ซึ่งแรงงานแต่ละคนต้องจ่ายค่านายหน้าสูงถึงหัวละ 20,000 บาท เพื่อแลกเป็นการช่วยเหลือนำพาไปส่งที่หัวเมืองชั้นในของประเทศไทย

การสอบสวนเชิงลึกทราบว่าแรงงานกลุ่มนี้หลังลักลอบข้ามชายแดนได้แล้วก็จะนั่งรถยนต์ของกลุ่มขบวนการฝั่งไทยลักลอบขับลำเลียงนำพาไปส่งในพื้นที่เชิงเขาแห่งหนึ่ง แล้วจะมีกลุ่มขบวนการอีกชุดมาพาเดินนำทางเดินเท้าข้ามภูเขาเขตรอยต่ออำเภอพบพระ ไปอำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก ซึ่งถ้าการเดินทางสามารถเดินทางสำเร็จไม่ถูกจับกุมแรงงานต่างด้าวก็จะมีรถยนต์มารับตัวอีกทอดเพื่อลำเลียงกลุ่มแรงงานไปส่งถึงหัวเมืองชั้นในทั้งกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑลที่มีความต้องการแรงงานผิดกฎหมายเข้าไปทำงานในช่วงขาดแคลนแรงงาน

ล่าสุด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอพบพระอยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบแรงงานต่างด้าวทั้งหมดที่ถูกสกัดจับกุมเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ส่วนแนวชายแดนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วยใน 5 อำเภอชายแดนจังหวัดตากต้องนำกำลังคุมเข้มพื้นที่ช่องทางธรรมและช่องทางล่อแหลมเพื่อสกัดกั้นการขนลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชายแดนจังหวัดตากตลอด 24 ชั่วโมง