ดวลเดือด! วิสามัญพ่อค้ายา 2 ศพ ญาติไม่เชื่อมีปืน โวยตำรวจจัดฉากเด็ดหัว (คลิป)

กรณีเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. 64 พ.ต.ท.สมศักดิ์ อาจหาญ สารวัตร(สอบสวน) สภ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บช.ภ.4 ว่าได้ทำการวิสามัญฆาตกรรมพ่อค้ายาบ้าที่ยิงต่อสู้จำนวน 2 ศพ ที่ริมถนนสายสุวรรณภูมิ-ยโสธร บริเวณ กม.ที่ 15-16 พื้นที่บ้านเปลือย หมู่ 1 ต.ช้างเผือก อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

พบศพนายอานนท์ เพ็ญจันทร์ อายุ 22 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในถนนลูกรังแยกจากราดยางเข้าไปประมาณ 30 เมตร ใกล้ต้นตะแบงนา สภาพศพนอนหงาย สวมกางเกงยีนส์ขายาว เสื้อแขนสั้นสีเขียว สวมทับด้วยเสื้อแขนยาวสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดที่กลางหลัง 1 นัด ทะลุออกหน้าอก ที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายพบยาบ้า 1 มัด จำนวน 2,000 เม็ด มีปืนลูกซองเบอร์ 20 ไทยประดิษฐ์ ที่ถูกยิงเหลือปลอกค้างในรังเพลิง ตกอยู่ใกล้ศพ

ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบรถ จยย. ห้อฮอนด้า รุ้นสกูปปี้ไอ สีน้ำตาลดำ ทะเบียน 1 กข 4032 สกลนคร ล้มคว่ำอยู่ในนาข้าวริมถนน ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร ก็พบศพนายต้นตระการ สุดชารี อายุ 25 ปี นอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างคันนา สภาพศพนอนหงาย สวมกางเกงยีนส์ขายาว เสื้อแขนสั้นสีเทา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด ที่หน้าอกด้านซ้าย 3 นัด มีอาวุธปืนพกลูกซองสั้นเบอร์ 20 ตกอยู่ใกล้กับศพนั้น

วันที่ 16 ธันวาคม 2564 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ริมถนนสายสุวรรณภูมิ-ยโสธร บริเวณ กม.ที่ 15-16 พื้นที่บ้านเปลือย หมู่ 1 ต.ช้างเผือก อ.สุวรรณภูมิ โดยช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ ได้ลงพื้นที่มาที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน

ที่เกิดเหตุจุดที่ 1 คือจุดที่นายอานนท์เสียชีวิต พบรอยเลือดของผู้ตายติดตามพื้นดิน ห่างออกไป 150 เมตรตามทุ่งนา คือจุดที่นายต้นตระการนอนเสียชีวิต

ต่อมา ทีมข่าวเดินทางมายังป่าช้าบ้านตากแดด หมู่ 2 ต.หัวโทน อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งญาติของนายต้นตระการ และนายอานนท์ ผู้เสียชีวิต ได้ทำการขุดหลุมเตรียมไว้ 2 หลัง อยู่ข้างกัน เพื่อรอทำพิธีฝังศพนายอานนท์ และนายต้นตระการ

นายนาวรร ชาติผา น้าของนายอานนท์ กล่าวว่า ตัวเองรู้สึกเสียใจมากที่หลานชายตัวเองเสียชีวิต เพราะหลานชายตัวเองเป็นเสาหลักของครอบครัว สำหรับพ่อนายอานนท์เขาเสียชีวิต ส่วนแม่ก็ไปมีสามรใหม่อยู่ต่างจังหวัด ตัวเองจึงเป็นคนที่เลี้ยงดูอานนท์ตั้งแต่เขายังเด็ก เหตุที่เกิดขึ้น ตัวเองติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเล็กน้อย ในเรื่องของอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุ เพราะตัวเองยืนยันเลยว่า นายอานนท์หลานชายตัวเอง และนายต้นตระการ ผู้เสียชีวิตอีกรายนั้น พวกเขาไม่เคยมีอาวุธปืนมาก่อน แต่ตำรวจให้ข่าวว่านายอานนท์เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ตัวเองจึงคิดว่าไม่เป็นความจริง

ส่วนเรื่องยาเสพติด นายอานนท์หลานชายตัวเอง เสพยาเสพติดมาตั้งแต่อายุประมาณ 18 ปี แต่เขาก็มีแค่เรื่องของการเสพยาเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องของการจำหน่ายยาเสพติดแต่อย่างใด นายอานนท์หลานชายตัวเองเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร หลังจากนี้ก็จะทำพิธีการฝังศพง โดยจะไม่นำไปเผาที่เมรุ เพราะว่าทั้ง 2 รายตายโหง

ด้านนางสุวรรณี คำผุย แม่ของนายต้นตระการ ผู้เสียชีวิต เผยว่า ตอนทราบข่าวว่านายต้นตระการเสียชีวิต ตัวเองแทบใจสลาย โดยตอนแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาบอกตัวเองว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุรถชน กระทั่งตัวเองไปยังที่เกิดเหตุ จึงพบศพลูกชายในสภาพนอนหงาย และมีบาดแผลจากการถูกผิงที่บริเวณหน้าท้อง ประมาณ 5 แผล ส่วนตัวแล้วตัวเองก็ติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเจ้าหน้าที่เขาบอกว่านายอานนท์เพื่อนลูกชาย ยิงปืนเปิดฉากใส่ตำรวจก่อน แล้วก็บอกว่าลูกชายตัวเองยิงปืนใส่ตำรวจด้วยเช่นเดียวกัน จนตำรวจต้องทำการวิสามัญ ซึ่งตัวเองก็ติดใจตรงที่ว่าลูกชายตัวเองและนายอานนท์ มีอาวุธปืน เขาจะยิงตำรวจได้อย่างไร

สำหรับลูกชายตัวเองเสพยาเสพติดมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เรื่องจำหน่ายยาเสพติด ลูกชายเป็นพ่อค้ารายย่อย และเขาทำเพื่อหาเงินเลี้ยงลูกและภรรยาของเขา โดยลูกชายจำหน่ายยาเสพติดได้ประมาณ 1 ปี ตัวเองบอกลูกชายตลอดเลยว่า ไม่ให้เขาไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งเสพและค้า เพราะถ้ายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ตายก็ติดคุก แต่เขาก็ไม่ยอมฟังตัวเอง

ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ตัวเองได้เห็นงูสิง 2 ตัวรัดกันอยู่ จึงคิดว่าน่าจะเป็นลางไม่ดี เมื่อวานนี้เวลา 10.00 น. ก่อนลูกชายจะออกจากบ้าน เขาก็บอกจะไปทำธุระ ซึ่งถ้าตัวเองรู้ว่าเขาไปรับยาหรือไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตัวเองคงห้ามเขาแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บช.ภ.4 ได้รับแจ้งว่าจะมีการซื้อขายยาบ้า โดยใช้วิธีนำไปวางใต้ต้นตะแบงนาที่เกิดเหตุ หลังจากได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนเข้าจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แบ่งกำลังเป็น 2 ชุด ชุดแรกไปทำการดักซุ่มอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ชุดที่ 2 เฝ้าอยู่บริเวณถนนรอบที่เกิดเหตุ จนกระทั่งเห็นนายต้นตระการ ผู้ตาย ขับรถมอเตอร์ไซค์ และมีนายอานนท์ นั่งซ้อนท้ายขับเข้ามาวนเวียนที่จุดเกิดเหตุหลายรอบ

จากนั้น นายต้นตระการได้ทำการจอดรถมอเตอร์ไซค์ แล้วนายอานนท์ ก็ลงจากรถไปหยิบเอายาบ้าที่วางไว้ใต้โคนต้นตะแบงนา จากนั้นก็นำยาบ้าดังกล่าว ใส่ในถึงเสื้อแล้วขึ้นรถ จยย. ที่นายต้นตระการ เป็นคนขับ ระหว่างที่นายต้นตระการกำลังจะขับรถออกจากจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 4 ที่ซุ่มอยู่ ก็ออกมาแสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม ก็ถูกนายอานนท์ยิงใส่ตำรวจเพื่อเปิดทางหนีแต่โชคดีที่กระสุนปืนไม่ถูกผู้ใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยิงสวนถูกหลังทะลุออกทางหน้าอก 1 นัด จนเป็นเหตุให้นายอานนท์เสียชีวิตคาที่

จากนั้น นายต้นตระการได้ขับรถฝ่าทุ่งนาเพื่อหลบหนีไปได้ประมาณ 100 เมตร รถก็ติดคูนาไปต่อไม่ได้ นายต้นตระการจึงทิ้งรถ แล้ววิ่งหลบหนีไปอีกประมาณ 50 เมตร ระหว่างวิ่งหลบหนี นายต้นตระการยังมีการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก ทำให้เจ้าหน้าที่ที่วิ่งตามนั้นได้ยิงป้องกันตัว ก่อนที่นายต้นตระการจะถูกวิสามัญเป็นศพที่สอง

สำหรับนายต้นตระการ เคยถูกจับกุมคดีเสพยาเสพติด มีประวัติที่ สภ.หัวโทน อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ในปี พ.ศ.2561, พ.ศ.2562 และ พ.ศ.2563 ปีละ 1 ครั้ง ส่วนนายอานนท์ มีประวัติถูกจับกุมคดีเสพยาเสพติดรวม 7 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน นอกจากนี้พ่อของนายอานนท์ ก็มีประวัติถูกวิสามัญจากคดียาเสพติดมาก่อน

ส่วนกรณีที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าบุตรหลานไม่มีอาวุธปืน และไม่น่าจะยิงปืนใส่ตำรวจก่อน คดีนี้ตำรวจให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายแน่นอน