สปสช. ออกแนวปฏิบัติเมื่อสงสัยติดเชื้อโควิด ต้องทำอย่างไรบ้าง ยอมรับ สายด่วน 1330 โทรติดยาก

21 ก.พ. 65

สปสช. ออกแนวปฏิบัติเมื่อสงสัยติดเชื้อโควิด ต้องทำอย่างไรบ้าง ในส่วน สายด่วน 1330 ยอมรับ โทรติดยาก แนะให้ติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์

สปสช. ย้ำ 3 ช่องทางติดต่อผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ารับการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) ทั้งการโทรเข้าสายด่วน 1330 กด 14 การติดต่อผ่านไลน์ nhso และสแกน QR code ลงทะเบียนเข้า Home Isolation ด้วยตัวเอง แนะช่วงนี้จำนวนผู้ป่วยพุ่ง โทรหา 1330 อาจจะติดยาก แนะติดต่อผ่านไลน์หรือสแกน QR code หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ด้วยตัวเองก่อนเพื่อเลี่ยงปัญหาโทรไม่ติด

ผศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงแนวโน้มสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ว่ามีแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อทำ New High กว่า 18,000 ราย/วัน ยังไม่รวมที่ตรวจ ATK อีกเกือบ 10,000 ราย/วัน อย่างไรก็ดี ผู้ติดเชื้อส่วนมากไม่มีอาการรุนแรง ดังนั้นสถานการณ์จึงยังไม่หนักมากเมื่อเทียบกับช่วงการระบาดก่อนหน้านี้ ซึ่งแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขคือ ประชาชนที่ตรวจ ATK แล้วขึ้น 2 ขีดหรือผลเป็นบวกว่าติดเชื้อโควิด-19 นั้น จะเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้านทันที โดยไม่จำเป็นต้องไปตรวจ RT-PCR ซ้ำอีก

ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการจัดระบบเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นนี้ หากเป็นผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง จะเน้นที่การดูแลรักษาที่บ้าน หรือ Home Isolation ก่อน โดย สปสช.มีเครือข่ายหน่วยบริการที่เพียงพอในการดูแลผู้ป่วยในระบบ Home Isolation อีกทั้งอยู่ระหว่างการจัดหาหน่วยบริการเพิ่มเติมเพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ดี ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ผู้ป่วยจะถูกส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลตามปกติ หรือหากผู้ป่วยที่รับการดูแลในระบบ Home Isolation รู้สึกว่าอาการรุนแรงมากขึ้น ก็สามารถโทรประสานหน่วยบริการที่ให้การดูแลเพื่อประสานส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือโทรเข้ามาที่ 1330 ก็ได้

"Home Isolation คือการดูแลที่บ้าน ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้ที่บ้าน เราจะมีหน่วยบริการคอยติดตามอาการและจัดส่งยาหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นให้ ดังนั้น ถ้าอยู่บ้านได้ก็อยากแนะนำให้รักษาตัวที่บ้านก่อนเพราะมีความสะดวกและสบายใจสำหรับตัวผู้ป่วย และถ้าหากเราเอาคนที่อาการไม่รุนแรงไปนอนโรงพยาบาล โรงพยาบาลก็จะเต็มและทำให้ไม่มีที่รักษาคนที่มีอาการรุนแรง ซึ่งผู้ที่เหมาะกับการดูแลแบบ Home Isolation คือคนไข้ที่ยังไม่มีอาการรุนแรง เช่น คนหนุ่มสาว ผู้ที่มีแค่อาการไข้ แต่ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ คนอ้วน มีโรคประจำตัว กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังและควรเข้ารับการดูแลในส่วนที่เหนือกว่า Home Isolation" ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าว

สำหรับกระแสข่าวที่มีการระบุว่าจะมีการถอดโรคโควิด-19 ออกจากโรคฉุกเฉินนั้น ผศ.ภญ.ดร.ยุพดี ย้ำว่า การรักษาโรคโควิด-19 นี้ ประชาชนทุกสิทธิจะยังได้รับการรักษาฟรี อีกทั้งผู้ที่เข้าระบบ Home Isolation ก็สามารถขอใบรับรองแพทย์ได้ตามปกติ

ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าวว่า ช่องทางสำหรับผู้ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 และต้องการเข้ารับการรักษาตัวในระบบ Home Isolation จะมี 3 ช่องทางหลักๆ คือ 1.โทรศัพท์เข้าสายด่วน 1330 กด 14 2.ไลน์ออฟฟิเชียล สปสช. @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ 3.ลงทะเบียนด้วยตัวเองด้วยการสแกน QR code ที่อยู่บนเว็บไซต์ สปสช. หรือคลิกที่ลิงก์ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI

ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าวว่า ในส่วนของการโทรเข้าสายด่วน 1330 กด 14 นั้น สามารถโทรเข้ามาขอรับการประสานงานเพื่อจัดหาหน่วยบริการมาดูแลแบบ Home Isolation ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถโทรได้จากทุกจังหวัดและโทรได้ทุกสิทธิสุขภาพ อย่างไรก็ดี เนื่องจากเป็นช่องทางที่ประชาชนเห็นว่าติดต่อง่ายที่สุด จึงมีประชาชนโทรเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยช่วงหลังวันตรุษจีนเป็นต้นมาจำนวนสายโทรเข้าเพิ่มขึ้นจาก 17,000 สาย เป็น 20,000 สาย/วันแล้ว ซึ่งด้วยปริมาณการโทรมากขนาดนี้ แม้จะเพิ่มคู่สายและจำนวนเจ้าหน้าที่แล้วก็อาจจะประสบปัญหาโทรติดยาก อย่างไรก็ตาม ขอให้มั่นใจว่าแม้จะโทรไม่ติด แต่หลังจากนั้นสักพักจะมีเจ้าหน้าที่โทรกลับไปหาเพื่อสอบถามข้อมูลแน่นอน

ในส่วนของช่องทางที่ 2 ไลน์ออฟฟิเชียล @nhso คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 ในกรณีที่โทร 1330 ไม่ติด ก็สามารถ Add friend หรือพิมพ์เพิ่มเพื่อน @nhso ซึ่งในนั้นจะมีเมนูเกี่ยวกับโควิด-19 ให้เข้าไปกรอกข้อมูลเพื่อรับการดูแลแบบ Home Isolation ได้เช่นกัน หรือหากทำไม่เป็นก็สามารถพิมพ์สอบถามแอดมินได้ระหว่างเวลา 08.00-20.00 น. หรือการส่งข้อความ inbox เข้ามาที่เฟสบุ๊ก สปสช. ก็ได้ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand

สำหรับช่องทางที่ 3. ลงทะเบียนด้วยตัวเองด้วยการสแกน QR code ที่อยู่บนเว็บไซต์ สปสช. หรือคลิกที่ลิงก์ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI เมื่อสแกนแล้วจะมีแบบฟอร์มให้กรอกชื่อ เบอร์โทร ที่อยู่ปัจจุบัน โรคประจำตัว น้ำหนัก ส่วนสูง เมื่อบันทึกข้อมูลแล้ว 15-20 นาที ก็สามารถตรวจสอบได้เลยว่าจะมีหน่วยบริการไหนมารับดูแลทำ Home Isolation ให้ จากนั้นสแกนอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตนและรอการติดต่อจากหน่วยบริการเพื่อรับยา อุปกรณ์ปรอทวัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด อาหาร และการดูแลจากแพทย์ผ่านระบบ tele health ต่อไป

"อยากแนะนำให้ลงทะเบียนด้วยตัวเองด้วยการสแกน QR code หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ตามลิงก์ที่ระบข้างต้นก่อน หรือหากหา QR code ไม่เจอ ก็เข้าไป @nhso เพื่อกรอกข้อมูล ถ้าทำไม่เป็นพิมพ์ถามแอดมินในไลน์ก็ได้ เพราะจะได้ไม่ต้องเจอปัญหาโทรไม่ติด และช่องทางที่ 3 คือโทรสายด่วน 1330 กด 14 และนอกจาก 3 ช่องทางนี้แล้ว ประชาชนยังสามารถโทรติดต่อไปที่หน่วยบริการประจำตัวของตัวเองได้โดยตรง เพราะเมื่อ สปสช.ได้รับแจ้งจากผู้ติดเชื้อ ก็จะส่งข้อมูลให้หน่วยบริการเหล่านี้เข้ามาดูแลเรื่องการทำ Home Isolation ให้อยู่แล้ว" รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso

 

สปสช.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส