มีจริง! พระทองคำซุกถ้ำ ป้าเห็นถูกล่ามโซ่กับหีบสมบัติ พระบุกดูขอขนมาสร้างเจดีย์ (คลิป)

กรณีที่วัดเขาพระทอง หมู่ 1 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช พระมหาอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสพร้อมด้วยคณะของอาจารย์คะชาธร วะราณะธำรง โหรใหญ่ที่เดินทางมาจาก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม และลูกศิษย์วัดได้ประกอบพิธีขอขมาหลวงพ่อองค์ใหญ่ เทพพยดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเพื่อขออนุญาตขึ้นไปบนยอดเขาพระทอง ค้นหาถ้ำที่เชื่อว่ามีพระพุทธรูปทองคำถูกลามโซ่ทองคำเอาไว้ จนเป็นที่มาของชื่อ “วัดเขาพระทอง” รวมทั้งมีทรัพย์สมบัติแก้ว แหวนเงินทองที่อยู่ภายในถ้ำจำนวนมาก

โดยพระเจ้าอาวาส ได้พาทีมข่าวไปสำรวจที่ถ้ำมรกต ซึ่งเป็นถ้ำที่อยู่ติดกับถ้ำโหม่ง โดยถ้ำมรกตเป็นถ้ำลักษณะเปิด มีความสูงตั้งแต่พื้นดิน ไปถึงยอดเขา จุดเด่นของถ้ำแห่งนี้คือจะมีตระไคร่น้ำ ติดอยู่กับหิน ลักษณะเป็นสีเขียวมรกต ตั้งแต่พื้นจนไปถึงหน้าผา สำหรับถ้ำมรกตเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านและทีมของคณะพระสงฆ์ได้เจอพระพุทธรูปเก่าแก่จำนวน 1 องค์ คือหลวงพ่อสัจจะ ที่บริเวณในซอกหินอีกด้วย

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี และคณะของวัด ได้เดินสำรวจหาพระพุทธรูปทองคำ และสมบัติต่าง ๆ ตามซอกหินภายในถ้ำมรกต ซึ่งพบเพียงเศษถ้วยกระเบื้อง 2 อัน ที่วางอยู่ในหลุมด้านล่างของถ้ำ

การสำรวจครั้งนี้ ทีมข่าวและพระมหาอารยนันต์ เจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง ได้เดินสำรวจถ้ำเส้นทางใหม่ จากที่ก่อนหน้านี้ ทีมข่าวเดินสำรวจถ้ำโดยการขึ้นจากฝั่งด้านหน้าของภูเขา ถึงยอดเขาระยะ 50 เมตร แต่การสำรวจครั้งนี้ทีมข่าวเดินขึ้นสำรวจจากฝั่งด้านหลังของภูเขา โดยขึ้นไปที่ความสูงระดับ 30 เมตร

นางหนูเอื้อน ยังเจ็ก อายุ 74 ปี ลูกสาวของนายดวง คนที่เคยเจอพระทองคำ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อตอนตัวเองอายุ 11 ปี นายดวง พ่อของตัวเอง มาเล่าให้ตัวเองฟังว่าเขาได้ไปหาของป่า แล้วไปเจอพระพุทธรูปทองคำ ถูกล่ามโซ่ทองคำไว้ที่ถ้ำ ขณะที่พ่อกำลังยกพระพุทธรูปขึ้นมานั้น หินในถ้ำได้ถล่มลงมา พ่อจึงทิ้งพระพุทธรูปทองคำไว้ในสภาพนอนหงาย จากนั้นพ่อก็รีบวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมา หลังจากพ่อเล่าเรื่องราวดังกล่าวให้ตัวเองฟังไม่นาน พ่อตัวเองก็เสียชีวิต

กระทั่งตัวเองอายุ 42 ปี ตัวเองได้ฝันว่ามีผู้ชายแก่ มาบอกให้ตัวเองไปเก็บลูกพระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ ที่เขาพระทอง วันต่อมาตัวเองและเด็กในหมู่บ้านอีก 2 คน ตอนนี้เด็กทั้ง 2 คนเสียชีวิตไปแล้ว ได้ขึ้นเขาไปหาเก็บลูกพระ ขณะเก็บลูกพระไปเรื่อย ๆ ตัวเองได้ไปเจอปล่องถ้ำปล่องหนึ่งที่อยู่ด้านบนภูเขา ตัวเองได้ส่องลงไปในปล่องด้านล่าง ก็ได้เห็นพระพุทธรูปทองคำที่ขามีโซ่ทองคำล่ามเอาไว้ และพระพุทธรูปดังกล่าวนอนหงายหน้าอยู่ในโพรงถ้ำ ตอนนั้นตัวเองยังพูดกับเด็กว่า "พระอะไรสวยดีจัง" แต่ตัวเองไม่ได้ลงไปดูในปล่องดังกล่าว เพราะว่ากลัวหินถล่ม และเด็กที่มากับตัวเองเขาก็กลัวค้างคาว

ตัวเองขอยืนยันว่าเรื่องราวที่ตัวเองเล่ามานั้นเป็นเรื่องจริง ตัวเองเห็นกับตาตัวเองว่ามีพระพุทธรูปทองคำนอนอยู่ในถ้ำ ส่วนกรุสมบัติ ตัวเองไม่เห็นแต่อย่างใด อย่างไรก็ราม เชื่อว่าพระพุทธรูปทองคำถูกล่ามโซ่ทองคำมีอยู่ในถ้ำจริง เพราะตัวเองเคยเห็นกับตามาแล้ว

จากนั้น นางหนูเอื้อน ได้พาทีมข่าวไปดูจุดที่มองไปเห็นพระพุทธรูปทองคำซึ่ งจุดที่นางหนูเอื้อนพาทีมข่าวมาดูนั้นเป็นปล่องที่ทีมข่าวเดินสำรวจเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ยอดเขาพระทอง ความสูง 50 เมตร แต่เนื่องจากตอนที่นางหนูเอื้อนพาทีมข่าวมาชี้จุดนั้น เป็นเวลา 18.30 น. เป็นช่วงเวลาค่ำ ไม่มีแสงไฟส่องสว่าง ทางวัดไม่อนุญาตให้ขึ้นไปที่ปล่องดังกล่าว เนื่องจากกลัวได้รับอันตราย

นางหนูเอื้อนจึงมาชี้จุดบริเวณปากทางขึ้นไปยังปล่อง พร้อมกับอธิบายว่าวันเกิดเหตุเมื่อตอนตัวเองอายุ 42 ปี ตัวเองได้ขึ้นเขาจากตรงจุดนี้ กระทั่งขึ้นไปถึงยอดเขา แล้วเจอกับปล่อง จึงทำการส่องที่ปล่องดังกล่าว และเห็นพระพุทธรูปทองคำ

ต่อมาพระมหาอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสวัด พาทีมข่าวไปถ้ำแรกที่ทีมข่าวสำรวจ คือถ้ำโหม่ง เป็นถ้ำที่มีคมามสูงจากตีนเขา 30 เมตร ลักษณะเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยหินหยดหินย้อย

ในถ้ำมีหินย้อย 2 อัน เป็นแท่งลงมาด้านล่าง เมื่อเอาไม้ไปเคาะจะมีเสียงดังคล้ายกับโหม่งของหนังตะลุง และยังพบว่าในจุดที่ลึกสุดของถ้ำ จะมีหินสีขาวรูปทรงคล้ายเศียรของพญานาค ชาวบ้านได้นำผ้า 7 สี มีผูกคล้องเอาไว้ เพราะเชื่อว่าหินดังกล่าวคือพญานาคตัวสีขาว ที่อยู่ในถ้ำเพื่อเฝ้าสมบัติเอาไว้ ทีมข่าวและมีมคณะของวัด ได้สำรวจภายในถ้ำโหม่งประมาณ 30 นาที แต่ก็ไม่เจอพระพุทธรูปทองคำ หรือสมบัติอื่นๆแต่อย่างใด

ต่อมาพระมหาอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสวัด ได้พาทีมข่าวไปดูหินย้อย 2 อัน ที่อยู่ภายในถ้ำโหม่ง ซึ่งเป็นหินที่ว่าเมื่อใช้ไม้เคาะจะมีเสียงดังทุ้ม

เจ้าอาวาสวัดให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่าเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาชาวบ้าน และคณะของพระสงฆ์ ได้ขุดเจอพระพุทธรูปเก่าแก่ ในถ้ำโหม่งจำนวน 3 องค์ คือหลวงพ่อรวย หลวงพ่อเพชร และพระพุทธติโลกนาถ โดยที่เรียกว่าถ้ำโหม่งก็เพราะว่าในถ้ำแห่งนี้ จะมีหินย้อยเกิดขึ้นหลายก้อน แต่จะมีหินเพียง 2 ก้อนในถ้ำแห่งนี้ ที่พอใช้ไม้เคาะจะมีเสียงดังทุ้ม คล้ายกับโหม่งของหนังตะลุง ชาวบ้านจึงเรียกถ้ำแห่งนี้ว่าถ้ำโหม่ง

ต่อมาพระเจ้าอาวาส ได้พาทีมข่าวไปสำรวจที่ถ้ำมรกต เป็นถ้ำที่อยู่ติดกับถ้ำโหม่ง โดยถ้ำมรกตเป็นถ้ำลักษณะเปิด มีความสูงตั้งแต่พื้นดิน ไปถึงยอดเขาจุดเด่นของถ้ำแห่งนี้คือจะมีตระไคร่น้ำ ติดอยู่กับหินลักษณะเป็นสีเขียวมรกตตั้งแต่พื้นจนไปถึงหน้าผา สำหรับถ้ำมรกตเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านและทีมของคณะพระสงฆ์ได้เจอพระพุทธรูปเก่าแก่จำนวน 1 องค์ คือหลวงพ่อสัจจะ ที่บริเวณในซอกหินอีกด้วย

ด้านนายชวลิต อักษรแก้ว ลูกศิษย์วัด ซึ่งเป็นผู้ชำนาญเรื่องถ้ำ ได้ทำการสำรวจโดยการไต่ขึ้นไปตามหน้าผา ในถ้ำมรกตความสูงกว่า 20 เมตร และนายชวลิต ได้ใช้มือขุดตามซอกหิน กระทั่งไปเจอก้อนหินหลายๆก้อน ที่ชาวบ้านเรียกว่า "ขี้เหล็กไหล" โดยมีทั้งขี้เหล็กไหลสีทอง และสีดำ แต่ไม่เจอพระพุทธรูปทองคำ หรือสมบัติอื่น ๆ แต่อย่างใด

นายชวลิต อักษรแก้ว ลูกศิษย์วัด เปิดเผยว่า วันนี้ตอนที่ไปค้นหาที่ถ้ำมรกต ตัวเองได้ปีนขึ้นไปบนหน้าผาในถ้ำความสูง 20 เมตร กระทั่งสังเกตเห็นโพรงเล็ก ๆ อยู่ ตัวเองจึงได้ใช้มือขุดหลุมดังกล่าวดู ปรากฏเห็นก้อนของขี้เหล็กไหลหลายก้อน ซึ่งมีทั้งสีทอง สีดำ ตัวเองจึงเก็บก้อนขี้เหล็กไหลดังกล่าวเอามาด้วย เพื่อจะเอาไปล้างน้ำเปล่าดูว่าขี้เหล็กไหลดังกล่าวมีรูปล่างลักษณะหน้าตาอย่างไร

สำหรับถ้ำโหม่ง และถ้ำมรกตนั้น เป็นถ้ำที่อยู่ติดกัน และทั้ง 2 ถ้ำนี้ก็มีปล่องด้านบนที่สามารถเชื่อมไปหาถ้ำที่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ แต่ตอนนี้ทางจะไปลำบาก เนื่องจากหินบนผนังถ้ำมีอยู่ค่อนข้างเยอะ พร้อมที่จะหล่นลงมาได้ตลอดเวลา