แม่แตงโมเมินหลักฐานอัจฉริยะ เดชาฟาดแค่คนขี้โม้ ลั่นจบคดีแตงโมมีคนถูกตำรวจฟ้อง (คลิป)

สืบเนื่องจาก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเลหือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาไลฟ์ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก โคนัน เมืองไทย ระบุว่า วันที่ 20 เม.ย. 65 เวลา 13.30 น. มีการแถลงข่าวเปิดหลักฐานใหม่ ช็อกโลกเกี่ยวกับคดีของแตงโม ซึ่งเป็นหลักฐานกระบวนการสร้างพยานหลักฐานเท็จชิ้นสำคัญที่จะทำให้คดีแตงโม ปิดไม่ได้ และจะมีคนถูกดำเนินคดียกพวง

วันที่ 20 เม.ย. 65 นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เปิดเผยทางโทรโทรศัพท์ว่า สำหรับการแถลงข่าวดังกล่าวนั้นยอมรับว่าส่วนตัวยังไม่ได้ดูข่าว และยังไม่เห็นว่าอีกฝ่ายแถลงข้อมูลอะไร หากเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก็ถือว่าดี แต่หากเป็นข้อมูลเก่า ส่วนตัวก็เฉย ๆ ไม่ได้โกรธหรือไม่ได้พอใจที่ทางด้านนายอัจฉริยะออกมาแถลงข่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนทราบเรื่อง ก็ยังบอกให้ทาง "พี่ดายศ" พี่ชายของแตงโมเดินทางไปฟังเเถลงด้วย เผื่อว่ามีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาทาง นายอัจฉริยะเองมักจะเชิญชวนทางพี่ต่อยให้ไปร่วมฟัง แต่ไม่ได้เชิญตน ตนเลยไม่ไป แต่ก็บอกให้ทางพี่ต่อยไปเพื่อเป็นเกียรติที่เขาชวน อีกทั้งเราเองในฐานะผู้เสียหาย เลยต้องไปรับฟัง

"ยอมรับว่าตอนนี้ใครจะแถลงขอมูลอะไรก็ปล่อยเขาไป ตนไม่โกรธแค้นใครแล้ว หากการแถลงไปพาดพิงใคร คน ๆ นั้นรู้สึกเสียหายก็ให้เขาไปฟ้องร้องกันเอง ส่วนตัวตอนนี้อยากโฟกัสเรื่องของคดี เพราะต้องการจัดงานฌาปนกิจศพให้ทางแตงโม เนื่องจากตอนนี้เขาเองมาเข้าฝันเพื่อนของตนว่าเขาหนาว เขาไปไหนไม่ได้ ตนสงสารลูก เลยอยากจะให้ทุกอย่างดำเนินการโดยเร็ว"

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก หลังจากที่ทราบว่า นายอัฉริยะตั้งโต๊ะแถลงวันนี้ โดยทนายเดชาฝากถามถึงการแถลงว่า สำนวณคดีจะมีการปิดแล้ว แต่ทำไมยังนำหลักฐานที่อ้างว่า เป็นหลักฐานชิ้นใหม่

ทนายเดชา เปิดเผยว่า ตนเองได้มีการโพสต์เรื่องราวของคดีซึ่งได้มีการพูดคุยกับทางพนักงานสอบสวนว่าคดีดังกล่าวนั้นเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว มีการลงความคิดเห็นเตรียมสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวจำนวน 6 ราย โดย 5 ราย ก็เป็นคนบนเรือมีการแจ้งข้อหาตามที่ได้มีการตั้งไปก่อนหน้านี้ ส่วนอีกรายหนึ่งก็เป็นในส่วนของกุนซือที่ให้คำแนะนำ ส่วนที่มีการตั้งข้อหากระติกในช่วงหลังเรื่องของการพยายามลบรูปนั้น ก็ค่อยไปว่ากันในชั้นศาลเนื่องจากทางเจ้าตัวเองปฎิเสธ ทุกอย่างจบเรียบร้อยไปแล้ว

"มองการแถลงข่าวของทางนายอัจฉริยะไม่มีประโยชน์ในเรื่องของคดี เปรียบเหมือนการแสดงลิเก ไม่มีสาระ ดูถ่ายทอดสดทางมือถือก็รู้สึกเปลือกอินเทอร์เน็ตเสียเปล่า มองเป็นเรื่องสมเพชน่าเวทนาของนายอัฉริยะ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องของคดี ประจวบกับส่วนตัวไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย อีกทั้งข้อมูลที่เอามาแถลงก็ไม่ได้เป็นข้อมูลความจริง ไม่รู้ว่าไปเอาไทม์ไลน์มาจากไหน มองคนแบบนี้อยากดังเพียงอย่างเดียว หิวแสง ไม่มีสาระ ยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดสร้างหลักฐานหรือข้อมูลเท็จแน่นอน ใครเขาจะไปเสี่ยงทำแบบนั้น มองพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการใส่ร้ายป้ายสีเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกทั้งยังไปใส่ร้ายทางด้านคุณแซน หนึ่งในผู้ต้องหา ทำให้เขาเสียหายกับข้อมูลที่เกิดขึ้น" ทนายเดชา กล่าว

ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่หลักฐานเด็ด แต่เป็นการมโน เป็นข้อมูลและหลักฐานเก่าทั้งนั้น ไม่ได้เป็นไปตามในสิ่งที่เขาโอ้อวดก่อนที่จะมีการแถลงข่าว แต่ก็เข้าใจในมุมของคนอยากดัง จัดอยู่ในประเภทเดียวกับทาง "เต้ มงคลกิตติ์" กลุ่มคนหิวแสง หลังจากนี้เมื่อเรื่องคดีจบทางเจ้าหน้าที่จำรวจเองก็จะมีการรวบรวมรายชื่อบุคคลที่หิวแสงเพื่อดำเนินคดี ไม่รู้ว่าทางนายอัจฉริยะเองจะอยู่ในรายชื่อดังกล่าวหรือไม่ มองการแถลงข่าวครั้งนี้ของนายอัจฉริยะอาจจะมีทางด้านกลุ่มคนหิวแสงท่านอื่นอยู่เบื้องหลัง เพราะเป็นโรงแรมเดียวกัน ข้อมูลก็คล้ายชุดเดียวกัน

"อีกฝ่ายใช้คำหยาบคายดูถูกตน หาว่าตนเสื-ก ทั้งที่ความจริงคำว่าเสื-กนั้นควรใช้กับทางตัวเองมากกว่า เพราะตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยกับทางคดี ตนเองไม่ได้เสื-กเพราะตนเป็นทนายของผู้เสียหาย ย้อนถามว่าแล้วอีกฝ่ายเป็นทนายใคร อีกทั้งวุฒิภาวะของเขาเองในช่วงที่มีการแถลงข่าว ทางนักข่างสอบถามว่ามีข้อมูลอะไรใหม่ไหม แต่กลับต่อว่าด่านักข่าวว่ารับจ้างมาถาม แสดงให้เห็นว่าเขาเองรับฟังความจริงไม่ได้ จนเก็บทรงไม่อยู่ ส่วนที่เขาอ้างว่าจบวิศวะ แล้วทำไมเขาถึงไม่ไปรับเหมาก่อสร้าง แต่กลับมาทำตัวเป็นทนาย ทำตัวเป็นตำรวจพนักงานสอบสวน ถึงขั้นบางคนเองบอกว่าทางเจ้าตัวเป็นเทวดาหรือเปล่า ขณะที่ยังมีการพาดพิงถึงทางด้าน หนุ่ม กรรชัย ซึ่งส่วนตัวเองก็ได้ต่อสายพูดคุยแล้ว ทางพี่หนุ่มเองเขาก็รู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่โดนพาดพิงหาว่าไปรู้ข้อมูล ตลอดจนไปตำหนิแขกรับเชิญ ดูไม่เหมาะสม ระวังว่าอีกฝ่ายจะฟ้องร้อง" ทนายเดชา กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีคลิปเสียงที่ทางนายอัจฉริยะออกมาแฉหาว่าตนไปข่มขู่บุคคลหนึ่ง ในส่วนนี้ตนอยากจะอธิบายว่าจริง ๆ แล้วคลิปเสียงดังกล่าวนั้นเป็นการสนทนาระหว่างตนกับเจ้าของเพจเพจหนึ่ง ที่เป็นเพื่อนของลูกชายตน โดยเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับที่เขาเอาข้อมูลไปลงในเพจแล้วมีการโจมตีถึงตน ตนเลยแต่สอบถาม ไม่ได้ข่มขู่ อีกทั้งเป็นคลิปที่ผ่านมาสักระยะหนึ่งแล้ว ไม่ได้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับคดีของแตงโม