โรงพยาบาลบุรีรัมย์ แถลงกรณีเด็ก 12 ไส้ติ่งแตกดับ ยอมรับรักษาล่าช้า เตรียมให้แพทย์เข้าขมาครอบครัว ยืนยันไม่มี "วีไอพี" แทรกคิวผ่า
รองผอ.โรงพยาบาลบุรีรัมย์ แถลงแล้วยอมรับผิดที่ล่าช้าทำให้น้อง 12 ปี ไส้ติ่งแตกเสียชีวิต จะสอบสวนอีกครั้ง
เบื้องต้นเตรียมเยียวยาตามมาตรการและจะให้หมอไปขอขมาญาติ ยืนยันไม่มีเคสพิเศษตัดหน้า มีเพียงการรอผ่าตัดทั่วไป
วันที่ 6มิ.ย.65 ที่ ตึกเฉลิมพระเกียรติชั้น 8 โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ นายแพทย์รักเกียรติ ประสงค์ดี รองผอ.ฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ แถลงตามที่ได้รับมอบหมายจาก นายแพทย์ภูวดล กิตติวัฒนาสาร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุรีรัมย์
กรณี น้องต้นน้ำ อายุ 12 ปี เสียชีวิตหลังผ่าตัดไส้ติ่งทำให้พ่อแม่เด็กออกมาร้องเรียนผ่านสื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมระบุหมอปล่อยเวลาล่วงเลยนาน 2 วันหลังเข้าทำการรักษา แต่หมอไม่ยอมผ่าตัด ทั้งที่โรงพยาบาลต้นทางระบุชัดว่าไส้ติ่งอักเสบ
เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสสังคมที่หลายคนต่างตั้งข้อสงสัยถึงแนวทางการรักษาของหมอ โดยเฉพาะคำบอกเล่าของพ่อที่บอกว่าพนักงานเปล ระบุมีเคสพิเศษ 2 รายตัดหน้าผ่าตัดไปก่อน
นายแพทย์รักเกียรติระบุว่าจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าน้องต้นน้ำมีอาการปวดท้องน้อยขวามาประมาณ 1 วันเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพุทไธสงหมอระบุเป็นไส้ติ่งอักเสบแล้วส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์แพทย์ทำการตรวจประเมินซ้ำวินิจฉัยว่าไส้ติ่งอักเสบเช่นเดียวกัน
โดยได้เซ็ตเวลาผ่าตัดไว้ที่ 17.00 น. วันที่ 29 พ.ค. ต่อมาพบว่าอาการของน้องเปลี่ยนแปลงมีหัวใจเต้นแรงมากขึ้นหมอได้เพิ่มน้ำเกลือประกอบผู้ป่วยมีความสูง 163 น้ำหนัก 83 กก. อยู่ในสภาวะน้ำหนักมาก
ผู้ป่วยเข้าห้องผ่าตัด 23.30 น.แต่ในขณะนั้นห้องผ่าตัดซึ่งมี 3 ห้อง ห้องแรกมีคนไข้รอผ่าตัดอยู่ทั้ง 3 ห้อง ห้องแรกผ่าตัดไส้เลื่อนและมีลำไส้เน่า แพทย์ต้องตัดต่อลำไส้
จากนั้นต้องผ่าตัดคนไข้ที่มารอก่อนหน้านี้เป็นผู้ป่วยช่องท้องอักเสบอย่างรุนแรง ผู้ป่วยรายที่ 2 ผ่าตัดเสร็จประมาณตี 2 ของวันที่ 30 พ.ค. ส่วนห้องผ่าตัดอีกห้องเป็นคนไข้อุบัติเหตุกระดูกโผล่มีแผลเปิด หมอต้องเร่งผ่าตัดมี 2 ราย
อีกรายหนึ่งช่วงใกล้จะถึงเที่ยงคืนซึ่งเป็นห้องผ่าตัดอีกห้องต้องผ่าตัดเด็กในครรภ์มีสภาวะหัวใจเต้นเร็ว แต่การประสานงานของหมออาจไม่ตรงกันทำให้พนักงานเปลเข็นน้องต้นน้ำเข้าไปห้องผ่าตัด
จากการประเมินของหมอไม่ทราบได้ว่าการผ่าตัดเคสก่อนหน้านี้จะเสร็จสิ้นตอนไหน หรือจะใช้เวลานานแค่ไหน ไม่สามารถกำหนดเวลาได้ ถ้าจะให้เด็กรออยู่ในห้องผ่าตัดอาจจะไม่ปลอดภัย จึงแจ้งไปยังหอผู้ป่วยขอส่งตัวคนไข้คือน้องต้นน้ำกลับไปที่ห้องก่อน
ประเด็นที่ผู้ปกครองน้องติดใจว่ามี เคสพิเศษ แทรกคิวของน้องหรือไม่ จากการสอบสวนแล้วไม่มีเคสพิเศษใดๆ ในโรงพยาบาล ทุกเคสสามารถที่จะมีหลักฐานประกอบและเป็นเคสที่มีความเร่งด่วนและมารับบริการก่อนหน้านี้
ต่อมาแพทย์พบว่าน้องมีอาการหายใจเร็วขึ้นและตรวจพบว่ามีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ผลจากการผ่าตัดพบว่าพบไส้ติ่งแตกมีหนองอยู่โดยรอบประมาณ 100 ซีซี การผ่าตัดเสร็จเวลาประมาณ 14.00 น. ใช้เวลาในการผ่าตัด 45นาที
เนื่องจากสภาพก่อนผ่าตัดมีภาวะแย่ลงและมีการติดเชื้อในกระแสเลือดจึงส่งเข้ารักษาที่ห้องไอซียูและหัวใจน้องหยุดเต้นเมื่อเวลา 02.25 น. ของวันที่ 31 พ.ค.
ทั้งนี้โรงพยาบาลต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องก่อนเป็นอันดับแรกและโรงพยาบาลยอมรับว่าเรารักษาที่ล่าช้าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ทางคณะทีมรักษารวมถึงคณะการเยียวยาและการให้ข้อมูลการเยี่ยมบ้านคนไข้ถือว่าล่าช้าไปมาก
หลังจากนี้จะต้องไปขอขมาผู้ปกครองเด็กในเร็วๆ นี้ ส่วนการเยียวยาจะต้องเข้าไปสอบสวนในเชิงลึกว่าจะสามารถช่วยเหลือครอบครัวเด็ก ตามพรบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการทางสาธารณสุขได้มากน้อยแค่ไหน