ลูกชาย ดื่มน้ำกระท่อมจนเสียสติ หาสายชาร์จมือถือไม่เจอ ทะเลาะกับแม่ก่อนคว้าค้อนปอนทุบหัวดับ พ่อถูกลูกชายขังไว้อีกห้อง
เมื่อเวลา 00.30 น. ของวันที่ 10 กรกฎาคม 2565 พ.ต.ต.พานุรักษ์ เรืองขำ สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุว่ามีลูกชายใช้ค้อนปอนทุบหัวแม่จนเสียชีวิตคาบ้าน ที่ตำบลแหลมประดู่ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แพทย์โรงพยาบาลบ้านโพธิ์และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าชาวบ้านไปควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้แล้ว ส่วนที่บริเวณหน้าบ้านพบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อคือนางวารี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ถูกค้อนปอนทุบที่บริเวณหัวจนยุบ สอบถามนายเรวิณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปีซึ่งเป็นสามีของผู้เสียชีวิตได้ให้การว่า ผู้ก่อเหตุคือนายณัฐวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของตัวเอง โดยก่อนเกิดเหตุนายณัฐวุฒิ ได้มีปากเสียงกับนางวารีผู้เป็นแม่เพราะหาสายชาร์จโทรศัพท์มือถือไม่เจอ ทำให้เรวิณต้องนำสายชาร์จโทรศัพท์มือถือของตนเองมาให้แทน และคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้วตนเองจึงเดินเข้าห้องไปนอน
จนกระทั้งตนเองได้ยินเสียงดังตุบตุบหลายครั้ง เหมือนใครทุบอะไร จึงพยายามจะออกจากห้องมาดู แต่ประตูห้องกับถูกล็อคอยู่ด้านนอกทำให้ไม่สามารถออกมาได้ นายเรวิณจึงได้ตระโกนเรียกลูกชายจนกระทั้งนายรัฐวุฒิได้เดินมาเปิดประตูห้องนอนของนายเรวิณให้แล้วพูดว่าผมฆ่าแม่ไปแล้ว จากนั้นก็ยกค้อนปอนขึ้นมาเตรียมที่จะทุบนายเรวิณอีกคน ทำให้นายเรวิณต้องใช้มือจับค้อนแล้วบอกกับลูกว่า “ใจเย็นๆ นี่พ่อเอง” ทำให้นายณัฐวุฒิยอมปล่อยค้อนที่ถืออยู่ในมือลง
จากนั้นผู้เป็นพ่อก็รีบวิ่งออกมาขอให้ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านช่วย ส่วนนายณัฐวุฒิได้ลากศพแม่ออกมาที่หน้าบ้านและเตรียมกล่องพลาสติกเพื่อจะเอาแม่ยัดใส่กล่องแล้วนำขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่เตรียมไว้เพื่อเอาศพแม่ไปทิ้ง โดยในขณะนั้นทางญาติได้วิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อหาหลานชายวัย 4 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของนายณัฐวุฒิ ซึ่งปกติจะนอนอยู่กับนางวารีผู้เสียชีวิต ทำให้เด็กชายวัย 4 ขวบได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่าง และอยู่ในอาการตกใจตัวสั่นตลอดเวลา ซึ่งทางญาติได้รีบนำตัวออกไปจากบ้านที่เกิดเหตุพร้อมกับนำค้อนปอนที่ใช้ในการก่อเหตุโยนทิ้งออกไปนอกบ้านเพราะกลัวว่านายณัฐวุฒิจะนำค้อนนั้นมาทำร้ายร่างกายใครอีก
จนกระทั้งเวลาผ่านไประยะหนึ่งนายณัฐวุฒิได้เดินไปหาญาติเพื่อถามหาพ่อกับแม่ของผมไปไหน จนญาติได้พยายามเกลี้ยกล่อมจนสามารถควบคุมตัวนายณัฐวุฒิเอาไว้ได้ พร้อมกับนำเชือกมามัดไว้เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัว ด้านนายเรวิณเปิดเผยว่าลูกชายของตนเองชอบต้มน้ำกระท่อมเป็นหม้อๆ เพื่อใช้ดื่มกินทุกวัน จนเมื่อช่วงเดือนที่แล้วเริ่มมีอาการทางสมอง โดยลูกชายบอกว่าเหมือนมีใครมาสแกนสมองของตนเอง มันมีเสียงดังจี๊ดๆ ในหัวตลอดเวลา จากนั้นก็หันไปถามพ่อว่า “พ่อเป็นใคร” ทำให้นายเรวิณต้องรีบตัดสินใจพาลูกชายไปโรงพยาบาลพุทธโสธรเพื่อเข้ารับการตรวจรักษา จากนั้นก็มีอาการดีขึ้นจนเหมือนปกติไม่มีอะไรเพราะลูกชายยังไปช่วยพ่อกับแม่ขายของตามตลาดนัดได้เหมือนคนปกติทั่วไป
โดยช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุวันนี้ก็ยังขับรถให้พ่อกับแม่ไปหาซื้อของที่ตลาดสำเพ็งที่กรุงเทพเพื่อนำกลับมาขายที่ตลาดนัดอยู่เลย จนกระทั้งมามีเรื่องทะเลอะกับแม่เพราะหาสายชาร์จโทรศัพท์มือถือไม่เจอ ทำให้เกิดเรื่องเศร้าขึ้น เบื้องตนทางญาติได้นำลูกชายวัย 4 ขวบของผู้ก่อเหตุไปฝากไว้ที่บ้านญาติที่อยู่ใกล้ๆ กันเพื่อดูในเบื้องต้นก่อน ส่วนตัวผู้ก่อเหตุเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจภูธรบ้านโพธิ์ผู้ต้องหายังมีอาการสีหน้าเขล่งเครียดก่อนจะถูกนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม