“น้ำ” เปิดปากฆ่าเจ๊แดงหาเงินจัดวันเกิดลูก ญาติฉะรับเป็นแพะแทนใคร งงดาบโจ้โผล่บ้าน (คลิป)

กรณีวันที่ 3 ก.ค. 65 ได้รับแจ้งมีคนฆาตกรรมที่ร้านขายของชำ พื้นที่หมู่ 1 บ้านป่งไฮ ต.ป่งไฮ อ.เซกา จ.บึงกาฬ พบศพนางอนัญญา บุญปากดี หรือ เจ๊แดง อายุ 47 ปี เจ้าของบ้านและเจ้าของร้านชำ ถูกคนร้ายใช้ของมีคมปาดคอเป็นแผลเหวอะหวิดขาด

ต่อมาวันที่ 11 ก.ค. 65 ช่วงเช้าทางตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าไปเก็บหลักฐาน ที่บ้านของนายวัชระ สีไสย์ หรือ น้ำ อายุ 33 ปี ที่ตำรวจคุมตัวไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ เนื่องจากเป็นผู้ต้องสงสัยรายล่าสุดที่มีลักษณะคล้ายกับคนที่เดินผ่านกล้องตอนฝนตกช่วงตี 02.29 น. ในคืนวันเกิดเหตุ กระทั่งตำรวจได้ทำการสอบสวนกว่า 28 ชั่วโมง จนนายน้ำรับสารภาพในที่สุด

ล่าสุด วันที่ 12 ก.ค. 65 ทีมข่าวได้รับคลิปตอนที่นายน้ำสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนครั้งแรก เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 65 คลิปที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ สอบสวนนายน้ำขณะนั่งท้ายกระบะรถยนต์ นายน้ำสารภาพว่าตัวเองไปก่อเหตุ เวลาตามที่เห็นตัวเองในกล้องวงจรปิด จากนั้นก็เข้าไปก่อเหตุจากทางหน้าต่างข้างบ้านเจ๊แดง อามีดที่พกไปงัดแงะหน้าต่าง และตัวเองก็ได้เอาเสื้อ 1 ตัว รัดปิดบังใบหน้าไว้ กระทั่งตัวเองได้ดข้าไปก่อเหตุ หยิบกระเป๋าเงินผู้ตายมาแล้ว แล้วผู้ตายได้ตื่นนอนขึ้นมา พร้อมกับเรียกชื่อตัวเอง เพราะจำหน้าตัวเองได้ ตัวเองจึงลงมือก่อเหตุ โดยที่ตัวเองไปก่อเหตุนั้นก็หวังแค่ประสงค์ทรัพย์เท่านั้น

เวลา 10.50 น. นางวรรณ สีไสย์ อายุ 55 ปี อายุ 55 แม่ของนายน้ำ, นางรินทอง วะริสาน อายุ 64 ปี ยายของนายน้ำ ได้เดินทางมายังตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ เพื่อรับชมการแถลงข่าว แม่และยายของนายน้ำ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวก่อนมีการแถลงข่าวว่า พวกตัวเองไม่เชื่อว่านายน้ำจะไปก่อเหตุฆ่าเจ๊แดง แต่ที่ตัวเองมาวันนี้เพื่ออยากจะมาถามลูก มาฟังจากปากลูกชายว่าฆ่าเจ๊แดงจริงหรือไม่

ที่ผ่านมานายน้ำ ไม่เคยมีพิรุธ หรือเคยพูดถึงเจ๊แดงแต่อย่างใด แต่ถ้าวันนี้ตัวเองได้ฟังจากปากลูกชาย เขารับสารภาพว่าเขาทำนั้น ตัวเองก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎมาย ตั้งแต่เกิดเหตุเจ๊แดงถูกฆ่าตาย ตัวเองก็เห็นลูกชายใช้จ่ายเงินปกติ ไม่ได้มีเงินใช้มากกว่าเดิมแต่อย่างใด

 

เวลา 11.00 น. มีการแถลงข่าวปิดคดีฆ่าเจ๊แดง นำทีมโดย พล.ต.ท. ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4, พล.ต.ต. ธรรมจักร คงมงคล ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ

พล.ต.ท.ยรรยง แถลงข่าวว่า กรณีเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 65 เวลาประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่งไฮ อ.เซกา จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งเหตุนางอนันยา บุญปากดี หรือ เจ๊แดง ถูกฆ่าตายในบ้านพักนั้น หลังจากเกิดเหตุ ตัวเองได้ส่งทีมสืบสวนสอบสวนในการติดตามคลี่คลายคดีอย่างต่อเนื่อง จนสามารถคลี่คลายคดีนี้ได้สำเร็จ กระทั่งศาลจังหวัดบึงกาฬได้อนุมัติหมายจับนายวัชระ สีไสย์ หรือ น้ำ อายุ 33 ปี และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายน้ำได้มนบ้านพัก อยู่ห่างจากบ้านของเจ๊แดง ประมาณ 350 เมตร ผู้ต้องหารายนี้มีประวัติการทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์มาก่อน มูลเหตุจุงใจในการก่อเหตุคือประสงค์ต่อทรัพย์ ก่อเหตุเพียงคนเดียวและใช้อาวุธมีดในการก่อเหตุ

จากการสอบปากคำนายน้ำ เจ้าตัวอ้างว่าก่อนเกิดเหตุเสพยาบ้าจำนวน 2 เม็ด ตั้งใจจะหาเงินจำนวนหนึ่ง ในการเดินทางไปกรุงเทพมหานคร นำเงินไปจัดงานวันเกิดให้กับตัวเองและน้องเอฟซี ลูกชายวัย 8 ขวบ ที่อยู่กรุงเทพฯ วันที่ 29 ก.ค. วันเกิดเหตุ ได้นำมีดทำครัวจากบ้าน แล้วเข้าไปในบ้านเจ๊แดงหน้าต่างที่เจอเลือด เอามีดที่พกไปงัดหน้าต่างออก

ตอนแรกเจ๊แดงนอนหลับอยู่ จากนั้นนายน้ำได้ค้นหาทรัพย์สินของเจ๊แดง กระทั่งได้ทัพย์สินเป็นเงินสด โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋า ระหว่างที่นายน้ำกำลังจะกลับออกจากบ้านเจ๊แดงได้ตื่นนอนขึ้นมา จำนายน้ำได้ พร้อมกับพูดว่า "น้ำ ทำไมมาทำอย่างนี้กับเจ๊" ทำให้นายน้ำได้เข้ามาทำร้ายร่างกายเจ๊แดงด้วยมีด จนเจ๊แดงนอนแน่นิ่ง

หลังจากก่อเหตุเสร็จ นายน้ำได้เดินขึ้นบันไดเพื่อจะไปหาทรัพย์สินเพิ่มเติม แต่ระหว่างเดินขึ้นบันได นายน้ำได้สังเกตว่าชั้นสองของบ้านเจ๊แดงมีกล้องวงจรปิดอยู่ นายน้ำจึงเดินลงมาจากบันได ทำให้บันไดมีรอยเปื้อนเลือด และนายน้ำก็ออกทางหน้าต่างทางที่เข้ามา ก่อนจะวิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้านของเจ๊แดง

สำหรับหลักฐานที่มัดตัวผู้ต้องหารายนี้นั้นมีหลายอย่าง เช่น ภาพวงจรปปิดที่เห็นผู้ต้องหา เดินผ่านไปทางบ้านเจ๊แดง และลักษณะการเดินในวงจรปิด จะใกล้เคียงกับนายน้ำ ผู้ต้องหา เห็นตำหนิรูปพรรณนายน้ำชัดเจน ที่เป็นคนรูปร่างท้วม การเดินขาสั้น ๆ ไม่ค่อยสมประกอบ ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นคนรับสารภาพเองด้วยว่าเขาคือคนเดียวกันกับคนในวงจรปิด หลักฐานชิ้นดีอีกชิ้นก็คือเงินสดที่ผู้ต้องหาเอาของผู้ตายไป เป็นเงินสดจำนวน 1 หมื่นกว่าบาท มีทั้งแบงก์ 1,000 บาท แบงก์ 500 บาท แบงก์ 100 บาท และแบงก์ 20 บาท บางแบงก์ได้มีการเปื้อนเลือดของผู้ตาย

เจ้าหน้าที่ได้ส่งไปตรวจสอบแล้ว ตลอดจนผู้ต้องหาก็ได้รับสารภาพว่าเงินส่วนนั้น เป็นเลือดของผู้ตายจริง รวมถึงรอยเท้าที่ปรากฏในที่เกิด กองพิสูจน์หลักฐานก็ได้ตรวจสอบแล้วว่าหนึ่งในนั้นเป็นรอยเท้าของนายน้ำ และยังพบว่าที่ต้นขาด้านขวาของนายน้ำก็ยังมีรอยขีดข่วน ซึ่งเป็นร่องรอยที่เกิดจากการต่อสู้กับเจ๊แดงอีกด้วย

จากนั้นแม่และยายของนายน้ำ ได้เข้าไปหานายน้ำในห้องสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอนุญาตให้แต่เพียงเจ้าหน้าที่ และครอบครัวผู้ก่อเหตุเข้าไปเท่านั้น เมื่อนางวรรณได้เจอลูกชายก็ได้จับมือกัน มองหน้ากัน แม่ก็ได้ถามนายน้ำว่า "ทำไปเพื่ออะไร เงินญาติก็ส่งให้ใช้ทุกเดือน เจ๊แดงเขาก็เป็นที่พึ่งของเรานะลูก ทำไมถึงทำกับเขาได้ ตอนแม่ไปงานศพ ลูกรู้ไหมว่าแม่ไปจุดธูปบอกเจ๊แดงว่าอย่างไร แม่ไปบอกว่า "แดงเอ้ย มึงเป็นคนปากเก่งอยู่แล้ว มึงไปหาคนร้ายมาให้ได้นะ" แม่ไม่ได้คิดเลยว่าคนร้ายที่แม่จุดธูปหา จะอยู่ใต้คางแม่"

จากนั้นนายน้ำ ผู้ต้องหา ได้ตอบแม่ว่า "ก็เจ๊แดงเขาจำผมได้ และผมก็ไม่ได้วางแผนมาก่อน ผมก่อเหตุแค่คนเดียว ไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับใคร ผมอยากไปมอบตัวตลอด ไม่งั้นผมหนีไปตั้งแต่แรกแล้ว ยืนยันว่าทำไปเพราะประสงค์ต่อทรัพย์เท่านั้น" หลังจากฟังคำรับสารภาพลูกชายเสร็จ แม่ของนายน้ำก็บอกว่าตัวเองไม่ติดใจอะไรแล้ว และบอกลูกชายว่า "ทำอะไรไว้ ก็รับกรรมเอา" จากนั้นนายน้ำได้ดึงมือผู้เป็นแม่มาจับ แล้วพนมมือไหว้แม่ 1 ครั้ง ก่อนที่นายน้ำจะลุกขึ้นจากโต๊ะกราบเท้าแม่ 1 ครั้ง พร้อมกับเข้าไปกอดแม่ หอมแม่ และกราบเท้ายาย 1 ครั้ง

แม่ของนายน้ำ และยายของนายน้ำ กล่าวว่า หลังจากฟังแถลงข่าวแล้ว ตัวเองก็ค่อนข้างพอใจ ไม่ติดใจอะไรแล้ว เพราะฟังเหตุผล และพยานหลักฐานที่ตำรวจแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ ในประเด็นที่ลูกชายอยากได้เงิน ตัวเองแค่ติดใจว่าทำไมนายน้ำ ลูกชายตัวเอง ถึงทำกับเจ๊แดงได้ เพราะที่ผ่านมาลูกชายก็ไปซื้อของที่บ้านเจ๊แดงเป็นประจำ

ส่วนประเด็นที่ลูกชายก่อเหตุเพราะจะเอาเงินไปจัดงานวันเกิดให้หลานชายตัวเอง และตัวของนายน้ำนั้น ตัวเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าเขาจะก่อเหตุแล้วเอาเงินไปทำเรื่องอย่างนั้น ตัวเองรับรู้แต่ว่า นายน้ำเกิด 27 ก.ค. หลานชายตัวเอง เกิด 29 ก.ค. แค่เพียงเท่านั้น และที่ผ่านมา นายน้ำก็ไม่เคยได้พูดว่า อยากหาเงินไปจัดงานวันเกิดแต่อย่างใด ที่ผ่านมานายน้ำก็มีพฤติกรรมปกติทุกอย่าง เขาดูไม่เหมือนคนมีเงิน

เวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายน้ำ ออกมาจากตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ เพื่อไปทำการสอบปากคำเพิ่มเติม ทีมข่าวได้สอบถามนายน้ำว่าก่อเหตุเพราะประสงค์ทรัพย์ใช่ไหม เจ้าตัวก็ไม่ตอบคำถามทีมข่าว มีแต่พยักหน้า ตอบรับเท่านั้น กระทั่งทีมข่าวได้ถามต่อว่าก่อเหตุคนเดียวใช่ไหม เจ้าตัวก็พยักหน้าอีก 1 ครั้ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถไป

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้มีโอกาสเข้าไปยังห้องของนายสีน้ำ และสังเกตเห็นว่าบนที่นอนของนายสีน้ำ มีอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงรูปของนายสีน้ำ วางอยู่บนที่นอน และยังมียาแก้ปวด รวมไปถึงขวดน้ำเกลือวางอยู่ในห้อง ซึ่งรูปภาพดังกล่าวเป็นรูปภาพขณะที่นายสีน้ำตอนเป็นเด็กและรูปภาพในขณะที่นายสีน้ำเคยเป็นทหารเกณฑ์สังกัดกองทัพเรือ

จากนั้นกำนันตำบลป่งไฮ ก็ได้พานางวรรณ แม่ของนายสีน้ำ เข้าไปที่บ้านของเจ๊แดง เพื่อจะไปขอขมานายหวัน พ่อของผู้ตาย โดยทันทีที่นางวรรณเจอหน้านายหวัน นางวรรณได้เข้าไปกอดนายหวัน แล้วก็นั่งคุกเข่ายกมือไหว้กราบขอโทษสิ่งที่ลูกชายทำลงไปกับเจ๊แดง ยังถามนายหวันอีกว่าเคยเจอหน้าลูกชายมาก่อนหรือไม่ ซึ่งนายหวันก็ส่ายหน้า บอกว่าไม่เคยเห็นหน้านายสีน้ำ ทำไมตำรวจถึงไม่พามาให้เห็นหน้า อยากจะถามว่าทำไมถึงกล้าทำกับลูกสาวได้ถึงขนาดนี้

นางวรรณ ก็พยายามบอกกับนายหวันอีกว่า ตนเองไม่เคยเชื่อว่าลูกชายจะกล้าก่อเหตุกับเจ๊แดง ตอนมาไหว้ศพเจ๊แดง ในงานศพตนเองยังเคยพูดที่หน้าโลงศพของเจ๊แดงไปว่า "แดงมึงเก่ง มึงเอาตัวคนทำมึงมาให้ได้นะ" ที่ผ่านมาไม่เคยสั่งสอนให้ลูกชายทำแบบนี้ โดยนายหวันบอกอีกว่า ถึงตอนนี้คิดไปคิดมา ยังไงนายสีน้ำก็ไม่น่าจะลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว และยังไม่เชื่อโดยสนิทใจว่านายสีน้ำเป็นผู้ต้องหาตัวจริง เพราะหลักฐานไม่มี มีแต่คำพูดที่ใครจะพูดก็ได้ เรื่องให้อภัยมันให้กันได้อยู่แล้ว ยังไงก็คนในหมู่บ้านเดียวกัน แล้วตัวนางวรรณ ก็ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการกระทำของนายสีน้ำ กระดูกเจ๊แดงอยู่ที่วัด นางวรรณจะไปขอขมากระดูกเจ๊แดงเมื่อไรก็ได้

นางวรรณ ยังบอกอีกว่า เชื่อไหมตัวเองยังเคยพูดกับชาวบ้านหลังดูข่าวอมรินทร์ว่าหากตำรวจจับตัวคนร้ายได้ จะไปดูหน้าว่ามันคือใคร สุดท้ายต้องมาดูหน้าลูกตัวเอง ไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนว่าจะเป็นแบบนี้ หลังจากนั้นนางวรรณก็ยังก้มกราบนายหวัน ก่อนทีมข่าวจะพยุงตัวนางวรรณลุกขึ้นมานั่งที่เก้าอี้

จากนั้นมีทางญาติของเจ๊แดงเข้ามาโวยวายกับนางวรรณ บอกว่า "ถามหน่อยนะ รู้ได้ยังไงว่าลูกเป็นผู้ต้องหา แล้วรู้ได้ยังไงว่าทำคนนี้ แล้วลูกชายมีหลักฐานอะไรว่าเป็นคนทำ" นางวรรณก็บอกว่ามีแต่คำรับสารภาพลูก และเงินของเจ๊แดงที่ลูกพาตำรวจไปชี้ หลังจากแถลงข่าวได้ถามย้ำกับลูกชายแล้วว่าทำลงไปจริงหรือไม่ ลูกก็ตอบว่าใช่ จนญาติเจ๊แดงย้อนถามว่า "ไม่คิดบ้างเหรอว่าลูกจะเป็นแพะ รับสารภาพเองไหม หรือมีใครบังคับให้รับสารภาพ ซึ่งคุณต้องพูดความจริงนะ ไม่ใช่จะมารับโทษแทนคนอื่น รู้ไหมทางญาติอยู่กันแบบหวาดระแวง อยากให้ตำรวจจับผู้ร้ายตัวจริงเอามาลงโทษ ไม่ใช่มาคับให้กัน มันไม่ถูกต้อง" นางวรรณก็ตอบว่า จริงแล้วตัวเองไม่อยากเชื่อ ถ้าหากทางญาติไม่เชื่อก็ไปเยี่ยมลูกชายแล้วก็ถามจากปากมันเองเลย ว่ามันพูดจริงไหม

หลังจากนั้น ญาติยังพาทีมข่าวไปดูจุดที่นายสีน้ำอ้างว่าได้งัดหน้าต่างปีนเข้าทางข้างบ้าน แต่ทางญาติไปดูไม่พบร่องรอยการงัดแงะหน้าต่างตามคำกล่าวอ้างของนายสีน้ำ ทางญาติยังมานั่งจับกลุ่มคุยกันว่าไม่เชื่อนายสีน้ำจะเป็นคนก่อเหตุฆ่าเจ๊แดง และต่างคนก็เชื่อว่า นายสีน้ำตกเป็นแพะ รับโทษแทนผู้ต้องหาตัวจริง

ขณะเดียวกัน ในส่วนของดาบโจ้หรือดาบโชค ทีมข่าวได้สังเกตเห็นรถขับรถมาชะลอที่หน้าร้านของเจ๊แดง จึงขับรถตามดาบโชคไป แต่ดาบขับรถหนี เข้าไปจอดใน สภ.ป่งไฮ ไม่ลงจากรถ ซึ่งวันนี้ทีมข่าวพยายามวิ่งเข้าไปหาดาบ แต่ดาบขับรถหนีไปอีก อีกทั้งไม่รับโทรศัพท์ด้วย

พล.ต.ต.ธรรมจักร ชี้แจงกับทางอมรินทร์ ทีวี ว่าตำรวจมีหลักฐานมากกว่าการแถลงก็คือ ผลตรวจ DNA รอยเท้าของนายสีน้ำ ที่ตรงกันกับรอยเท้าในที่เกิดเหตุ มีผลตรวจ DNA ของนายสีน้ำตามร่างกายของตัวนายสีน้ำและตัวเจ๊แดง ที่ตำรวจไม่ขอเปิดเผย ซึ่งหลังฐานต่าง ๆ เป็นหลักฐานที่ตำรวจจะนำขึ้นแสดงต่อศาลในการพิพากษาตัวผู้ต้องหา ส่วนหลังฐานที่ยังไม่พบคือมีดเอี๊ยมกันเปื้อน และโทรศัพท์ของเจ๊แดงที่ยังไม่พบ เป็นหลักฐานประกอบทางคดี ขอยืนยันว่าทางตำรวจมีหลักฐานมากเพียงพอในการดำเนินคดีผู้ต้องหาโดยไม่ได้จับแพะ