อดีตสามีหอบลูกบุกบ้านง้อเมียไม่สำเร็จ ชักปืนยิงพ่อตาดับ เจ็บอีก 4 ราย

18 ก.ค. 65

อดีตสามีหอบลูกบุกบ้านง้อเมียไม่สำเร็จ ชักปืน 9 มม. ซัลโวหมดแม็ก พ่อตาดับ เจ็บอีก 4 ราย เพื่อนที่เห็นเหตุการณ์วิ่งเข้าบ้านแจ้งตำรวจ

 

เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 17 ก.ค.65 ร.ต.อ.วีระพล  มณีภาค  พนักงานสอบสวน สภ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันตายและบาดเจ็บหลายรายหน้าบ้านเลขที่ 174 หมู่ 5 ตำบลวังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงพร้อมด้วย พ.ต.ต.ศราวุธ  ประเสริฐสังข์  สว.สส.สภ.หลังสวน ร.ต.อ.อนุ  ฉิมหาด  รอง สว.สส.สภ.หลังสวน ด.ต.อุดมวิช  ทวิชศรี  ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม พิสูจน์หลักฐานตำรวจชุมพร แพทย์โรงพยาบาลหลังสวน และหน่วยอาสากู้ภัยกู้ชีพมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์เขตหลังสวน รุดตรวจสอบ

 

บ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวปลูกอยู่ริมถนนสายวังตะกอ-พะโต๊ะ ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าสี่แยกวังตะกอ บริเวณหน้าบ้านพบศพผู้เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อต่อมาคือ นาย พิชัย  เอี่ยมสำอางค์ หรือแดง อายุ 59 ปี ชาวจ.ประจวบคีรีขันธ์ สภาพนอนคว่ำหน้าสวมเสื้อเชิ๊ตลายสก๊อตสีแดง นุ่งกางเกงวอร์มขายาวสีดำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าหน้าอกเหนือราวนมข้างขวาและซ้ายข้างละ 1 นัด หลางหลัง 1 นัด และสะเอว 1 นัด รวม 4 นัด เสียชีวิตจมกองเลือดอยู่หน้ารถยนต์กระบะอีซูซุ ตอนครึ่ง สีเทา

 

และยังมีคนเจ็บอีก 3 ราย อาสากู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์เขตหลังสวน(กู้ภัยสายชล) นำส่งโรงพยาบาลหลังสวนไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อคือ นาย อนุวัติ  โพธิ์ทอง  อายุ 19 ปี ลูกเขยผู้เสียชีวิต โดนยิง 2 นัดที่บริเวณขาขวาท่อนบน  น.ส.อังคณา  พวงแก้ว  อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224 หมู่ 14 ตำบลคลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนร่วมงานพักอยู่บ้านหลังเกิดเหตุ  ถูกยิงบริเวณขาขวาท่อนล่าง 2 นัด จนกระดูกโผล่  แขนขวา 2 นัด ใต้ราวนมขวา 2 นัดรวม 6 นัด อาการสาหัส และ น.ส.นิสา เอี่ยมสำอางค์  หรือ เจี๊ยบ อายุ 37 ปี ลูกสาวนายพิชัย ผู้เสียชีวิต   

 

ตรวจสอบพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่บนพื้นหญ้าใกล้ศพผู้เสียชีวิต 2 ปลอก บันใดทางขึ้นบ้าน 1 ปลอก บริเวณทางเข้าหน้าบ้านพบแม็กกาซีนตกอยู่ 1 อันตรวจสอบไม่มีกระสุนเหลือสักนัดเดียว คาดว่าผู้ก่อเหตุยิงจนหมด กระจกหน้าต่างหน้าบ้านถูกกระสุนปืนแตกร้าวจำนวน 3 รู และเศษปลอกกระสุนอีกจำนวนหนึ่งตกเกลื่อนกลางบ้าน ซึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่อาจจะกลับมาเก็บหลักฐานเพิ่มเติมในวันรุ่งขึ้น           

 

จากการสอบสวนเพื่อนร่วมงานรายหนึ่งซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านพักของคนงานแผงทุเรียนแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ด้วยกันชายหญิงทั้งหมด 17 คน แต่ก่อนเกิดเหตุมีพนักงานอยู่ที่บ้านพักประมาณ 6-7 คน ได้มีนายเอก ภูมิลำเนา ชาว จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นอดีตสามีของน.ส.นิสา ซึ่งเลิกรากันนานกว่า 10 ปี ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านโดยมีลูกชายวัยประมาณ 10 ปี นั่งซ้อนท้ายมาด้วย ได้พบกับนายพิชัย อดีตพ่อตา และน.ส.นิสา อดีตภรรยา อยู่บริเวณท้ายรถกระบะ นายเอก พยายามพูดจาขอคืนดีต่ออดีตภรรยาอยู่นานหลายนาที โดยบอกว่า “ขอคืนดีกันนะเรื่องมันจบก็จบไปนะ”  ส่วนภรรยาบอกว่า  “ไม่ได้หรอกเลิกกันมาหลายปีแล้ว จะให้คืนดีกันใหม่ไม่ได้  ไม่ไปแล้วจะมาอะไรกันนักกันหนา  มาตื้ออะไร” นายเอกจึงบอกกับพ่อตาว่า “ผมจะมารับเจี๊ยบกลับ” พ่อตานายเอกพูดออกไปว่าคุยกันดีๆนะลูก และไม่ได้โต้เถียงอะไรกัน

 

หลังจากนั้นนายเอก ได้กระชาก น.ส.นิสา อดีตภรรยา  เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์เห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งหนีเข้าบ้านหลบในห้องนอน โทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีไม่นาน ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นตอนแรก 3 นัด หลังจากนั้นก็ไม่ยินเสียงคนเจ็บเรียกชื่อตน หลังจากนั้นตนก็ไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลยเพราะซุกตัวหนีตายอยู่ในห้องกลัวโดนลูกหลง จนเสียงปืนเงียบไปสักพักจึงออกมารู้อีกทีว่ามีคนตายและเจ็บหลายราย  ส่วน นายเอก หลังก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์พาลูกชายหลบหนีไป

 

ส่วน น.ส.นิสาได้วิ่งหนีตายออกด้านหลังบ้านพักเข้าสวนปาล์มน้ำมันขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าและจากการวิ่งหนี เมื่อเหตุการณ์สงบลงได้ออกจากที่หลบซ่อนก่อนกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลรักษาบาดแผล

 

ต่อมาด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว น.ส.นิสา ไปยัง สภ.หลังสวนสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวอดีตสามีมาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส