"ซันนี่ ยูโฟร์" ป่วยติดเตียง ไทรอยด์เป็นพิษเรื้อรังเป็นเดือนก่อนเสียชีวิต "นิค" เพื่อนร่วมวง "ยูโฟร์" ช็อกเพิ่งรู้เพื่อนเป็นมะเร็งด้วย
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 18 กรกฎาคม ตำรวจ สน.วังทองหลาง รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านวังทองหลาง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัย สูง 7 ชั้น ที่ฟุตบาททางเดินหน้าอาคารพบศพ นายญาณวรุตม์ สุทธวาส หรือ ซันนี่ ยูโฟร์ ศิลปินบอยแบนด์ยุค 90 อายุ 50 ปี สภาพศพนอนหงายอยู่ที่พื้นปูน นุ่งผ้าเช็ดตัวลายการ์ตูนสีชมพู ไม่สวมเสื้อ ร่างกายไม่พบบาดแผล ผลตรวจเอทีเคขึ้นขีดเดียว ไม่ติดเชื้อโควิด
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้ซันนี่ป่วยเรื้อรังด้วยโรคไทรอยด์เป็นพิษมานานหลายเดือน มีสภาพร่างกายซูบผอมและเป็นผู้ป่วยติดเตียงแต่เจ้าตัวไม่อยากเป็นข่าว ด้านนิติอาคารจึงได้เข้าไปดูแลให้การช่วยเหลือมาตลอด กระทั่งวันนี้พบว่าอาการของซันนี่เริ่มทรุดหนักและไม่น่าจะปล่อยไว้ได้อีกต่อไป จึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เข้ามาช่วยเกลี้ยกล่อมและทำการเจรจากับซันนี่ หลังตำรวจสายตรวจ สน.วังทองหลาง เดินทางมาถึงได้เดินขึ้นไปที่ห้องพักของซันนี่และได้เคาะประตูเรียก ก่อนขออนุญาตเดินเข้าไปในห้อง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมนิติอาคารได้ เจรจากับซันนี่ว่าจะนำตัวส่งโรงพยาบาล
ซึ่งซันนี่ก็ยินยอม ตำรวจจึงประสานไปทางกู้ชีพนรินทรและสาธารณสุขเขตวังทองหลางเข้ามาตรวจสอบภายในห้องพัก โดยระหว่างรอรถกู้ชีพศูนย์นเรนทรมารับซันนี่นั้น เจ้าหน้าที่ได้นำซันนี่ลงมารอรถกู้ชีพด้านล่างอาคาร แต่ในระหว่างรอรถ ซันนี่เกิดอาการช็อกหมดสติไป เจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์พยายามทำ CPR ยื้อชีวิตนานกว่า 15 นาทีแต่ไม่เป็นผล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
คุณเกศิณี เกตุพุ่ม อายุ 56 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ตนเองอาศัยอยู่ที่นี่มานาน 10 ปี โดยตนอาศัยอยู่ที่ชั้น 2 ส่วนซันนี่อาศัยอยู่ที่ชั้น 4 ตลอดระยะเวลาที่พักอาศัยเคยพบเจอและพูดคุยกัน โดยซันนี่เป็นคนอัธยาศัยดี มักจะพบเจอกันในช่วงค่ำภายหลังจากซันนี่เสร็จงาน จึงไม่สนิทสนมเท่าไรนัก นอกจากนี้ ซันนี่ยังมักซื้อขนมมาฝากเพื่อนบ้านและรปภ. อยู่เสมอ แต่เมื่อ 3-4 เดือนก่อนหน้านี้ ทราบว่าซันนี่ป่วยเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถเดินได้ จะอาศัยการโทรสั่งให้ไรเดอร์นำอาหารมาส่งที่ห้อง โดยวันนี้ (18 กรกฎาคม) ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ข่าวว่าซันนี่ป่วยหนัก จนเจ้าหน้าที่ต้องมานำตัวจากห้องพักส่งที่โรงพยาบาล ซึ่งขณะนั้นเนื้อตัวซันนี่เหม็นคละคลุ้งแต่ยังมีสติ แต่ตนไม่ได้ติดตามลงมาดูเพราะเห็นว่าอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่แล้ว จากนั้นไม่นาน ก็ทราบว่าซันนี่เสียชีวิตแล้ว ระหว่างเจ้าหน้าที่ทำการ CPR ก็รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเพิ่งได้พูดคุยกัน ไม่คิดว่าจะด่วนจากไปเร็วขนาดนี้
ด้าน นายนิคณภัทร อัศวะชานนท์ หรือ "นิค ยูโฟร์" เพื่อนร่วมวง กล่าวว่า เพื่อนสนิทของซันนี่โทรศัพท์แจ้งตนว่าซันนี่เสียชีวิตแล้ว รู้สึกตกใจมาก ยังคิดว่าเพื่อนอำเล่น แต่เจ้าตัวยืนยันเป็นเรื่องจริง จึงตัดสินใจรีบโพสต์เฟซบุ๊กแจ้งการเสียชีวิต ก่อนเดินทางมาดูศพเพื่อน ยอมรับว่าซันนี่เป็นคนใจแข็ง มีปัญหาหรือเจ็บป่วยหนักขนาดไหนไม่เคยบอกเพื่อนฝูง หรือขอความช่วยเหลือจากใครในวง ได้เจอกันครั้งสุดท้ายในงานคอนเสิร์ตของคีตาเรคคอร์ด เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และยังติดต่อกันเรื่อยมาทางไลน์ แต่เพิ่งมาขาดการติดต่อแบบสิ้นเชิงเมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้ว ที่ผ่านมา ตนทราบแค่ว่าเพื่อนเป็นไทรอยด์และเพิ่งจะทราบเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาจากนิติคอนโดว่านอกจากไทรอยด์แล้วซันนี่อย่างเป็นมะเร็งที่ช่วงท้องด้วย
นายนิค ณภัทร กล่าวอีกว่า ทางนิติคอนโดได้รับแจ้งจากเพื่อนข้างห้องของซันนี่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ว่ามีกลิ่นเหม็นออกมาจากห้องพักของซันนี่ ทางนิติจึงขึ้นไปดูและพบว่าอาการของซันนี่ไม่ดีแล้ว จึงตัดสินใจโทรเรียกตำรวจและหน่วยงานอื่นๆ เข้าให้การช่วยเหลือ โดยในระหว่างที่นำตัวซันนี่นั่งรถเข็นลงมาด้านล่างอาคารเพื่อรอรถพยาบาลมารับนั้น ซันนี่ยังพูดคุยได้ตามปกติ แต่เมื่อมาถึงด้านล่างกลับช็อคหมดสติไป เจ้าหน้าที่ได้พยายามเต็มที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สำหรับพิธีศพคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของญาติพี่น้อง ส่วนตัวทราบเพียงว่าซันนี่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิก ส่วนร่างของซันนี่เจ้าหน้าที่จะส่งไปยัง สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อทำการชันสูตรการเสียชีวิตต่อไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าซันนี่พักอาศัยอยู่ภายในห้องพักบนชั้น 4 เพียงลำพังโดยเลี้ยงสุนัขไว้เป็นเพื่อน 2 ตัว และระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือพบว่าห้องพักของซันนี่เลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยขนและมูลสุนัข ลักษณะคล้ายไม่ได้ทำความสะอาดห้องมาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่นำร่างของซันนี่ส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริง และประสานให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป