แม่ค้าร้านชำผวา เจอลูกค้าจ่าย "แบงก์พันปลอม" ซ้ำไม่ยอมให้เปลี่ยนคืน

18 ต.ค. 65

"แบงก์พันปลอม" เริ่มระบาดแม่ค้าร้านชำผวาเขียนป้ายแปะไม่รับแบงก์พัน หลังเจอลูกค้านำมาจ่าย ขอเปลี่ยนคืนไม่ยอมให้ อ้างไม่ดูให้ดีเอง

หลังจากมีโลกโซเชียลได้มีการโพสต์ภาพและข้อความ ระบุว่า "ระวังแบงค์พันปลอมระบาด ทีมเพจฯ ได้รับเรื่องเตือนภัยกรณีแบงก์พันปลอมระบาดจาก 2 พื้นที่ ซอยกำนัน อ.เมืองอุดรธานี ลูกค้าเอาเงินปลอมมาซื้อหมูกระทะที่ร้าน เจอแบบนี้ 2 ครั้งแล้ว รอบนี้เยอะสุด ทำไมจิตใจคนถึงได้เห็นแก่ตัวแบบนี้ กว่าจะหาเงินได้แต่ละบาท และร้านขายของชำที่ ต.เชียงหวาง อำเภอเพ็ญ มีลูกค้านำแบงก์พันบาทมาซื้อของภายในร้าน แต่ถ้าจับดูจะรู้เลยว่าเป็นของปลอมคือสีไม่เนียน ไม่มีเลเซอร์สะท้อน และจับดูผิวสัมผัสจะรู้เลยว่าปลอม ฝากเตือนร้านค้าและชาวบ้านให้ระมัดระวังกันดัวย"

จากรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ร้านขายของชำ ริมสวนสาธารณะวังมัจฉาหนองบัว เขตเทศบาลนครอุดรธานี พบนางประหยัด ผดุงวัฒน์ อายุ 53 ปี เจ้าของร้านนำธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท หมวดตัวเลข 0 ธ 2144234/0A2144234 ซึ่งเป็นแบงก์ปลอมใส่ถุงพลาสติกใส พร้อมเขียนข้อความว่า “คนสวยซื้อแป๊บซี่ 20 บาท” ออกมาวางเทียบกับธนบัตรฉบับละ 1,000 บาทของจริง ซึ่งพบว่ามีความแตกต่างเนื้อกระดาษ ซึ่งบางมีสีขาวกว่าสีธนบัตรเข้มกว่า ขนาดเล็กกว่า ไม่มีแถบสะท้อนแสง และละลายน้ำ เมื่อเทียบกับธนบัตรฉบับจริงพร้อมเขียนข้อความไม่รับแบงค์ 1,000 บาท ติดไว้หน้าร้านและบริเวณตู้แช่ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นเพราะตนเกิดความกลัว

แบงก์พันปลอม

นางประหยัด เล่าว่า เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่าน มาตนและลูกได้ขายของอยู่ในร้าน มีลูกค้าเป็นชายและหญิงขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันมาจอดที่หน้าร้านแล้วสั่งน้ำอัดลม 1 ขวด ตนจึงได้เดินไปเปิดตู้แช่แล้วนำใส่ถุงไปให้บอกราคา 20 บาท หญิงสาวรูปร่างอ้วนได้ยื่นแบงก์ 1000 บาท มาให้ตนขอแบงก์ 20 บาท หญิงสาวบอกว่าไม่มี ตนจึงรับและทอนเงินให้ 980 บาท แต่ตนก็ได้พูดกับลูกค้าว่า “แบงก์ปลอมรึเปล่า” ตนพูดย้ำๆ ไปหลายครั้งแต่ลูกค้าสาวอ้วนก็บอกตนว่าของจริงเพราะไปกดเงินที่ตู้ ATM มา เมื่อได้เงินทอนแล้วก็รีบขี่ไปตกเย็นตนไปซื้อสุราที่ร้านขายส่งและจ่ายเงินแบงก์ 1,000 บาท เจ้าของร้านบอกตนว่าแบงก์ปลอมจะเรียกตำรวจมาจับ ตนจึงบอกเจ้าของร้านว่าจะเปลี่ยนใบใหม่ให้

เมื่อตนกลับมาร้านรู้สึกตกใจและไม่สบายใจที่ลูกค้าเอาแบงก์ปลอมมาซื้อของ ตนก็ระวังมาตลอดไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง พอรุ่งเช้าตนก็นำแบงก์ปลอมไปคืนลูกค้าสาวอ้วนเพราะเป็นลูกค้าประจำ แต่ลูกค้าไม่ยอมเปลี่ยนพร้อมกับบอกตนว่าทำไมไม่ดูตั้งแต่เมื่อวานนี้ แบงก์นี้ไม่ใช่ของลูกค้าและไม่ขอรับผิดชอบ ตนจึงบอกว่าเมื่อวานทั้งวันก็ได้แบงก์พันใบเดียวเพราะเปิดร้านมา 9 เดือน ก็ไม่เคยพบเหตุการณ์เช่นนี้ จะมีก็แต่ลูกค้าโกงโดยวิธีการโอนเงินจ่ายแล้วไม่มียอดเงินเข้าประมาณ 100-200 บาท และมาครั้งนี้เป็นแบงก์ปลอมซึ่งตนก็ทอนเงินให้เขาไป 980 บาท

ตนจึงนำแบงก์ดังกล่าวไปให้เจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบพบว่าเป็นแบงก์ปลอม เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ปากกาขีดเส้นและเขียนที่ธนบัตรว่าปลอม จากนั้นตนจึงมาแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อไม่ให้เป็นเรื่องคดีความกัน แต่ตำรวจได้ให้ไปติดต่อเจ้าของเงินนำเงินมาเปลี่ยนธนบัตรให้ใหม่ แต่เมื่อตนไปคุยแล้วเจ้าของเงินปฏิเสธตนก็จะให้ช่างมากู้ภาพจากเครื่องบันทึกกล้องวงจรปิดในร้านเพื่อไปแจ้งความดำเนินคดี

“ตนก็อยากฝากไปยังร้านค้า ถ้าจะยุ่งหรือลูกค้าเยอะก็ขอให้เสียเวลาตรวจสอบดูธนบัตรให้ดีก่อน ถ้าเห็นผิดปกติก็ขอเปลี่ยนคืนลูกค้าถ้ารับมาแล้วมันจะยุ่งยากได้เพราะอาจจะเป็นธนบัตรปลอมเหมือนอย่างที่ตนได้รับมา และช่วงเศรษฐกิจแบบนี้เงินหายากกำไรก็น้อยขายของได้แบงก์ปลอมแบบนี้ตนก็จะเดือดร้อน”

แบงก์พันปลอม

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส