ตั้งขบวนเคลื่อนย้าย “ศิวลึงค์ศิลา” อายุกว่า 1,300 ปี ประดิษฐานโบสถ์พราหมณ์ชั่วคราว หลังถูกโจรกรรมนานนับ 40 ปี ทำทีมโจรกรรมมีอันเป็นไปยกแก๊ง
วันที่ 1 ธ.ค. 65 ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศิวลึงค์ศิลาอายุกว่า 1,300 ปี องค์นี้ซึ่งถูกอัญเชิญนำมาประดิษฐานไว้ชั่วคราว ที่ลานหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กำลังถูกเตรียมที่จะเคลื่อนย้าย โดยมีการประกอบพิธีกรรมจากบรรดาสายสกุลพราหมณ์ที่สืบเชื้อสายอยู่ในจ.นครศรีธรรมราชมาแต่โบราณ เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานต่อชั่วคราวที่โบสถ์พราหมณ์ ที่ตั้งอยู่ห่างจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชไปอีก 699 เมตร หลังจากที่ศิวลึงค์ศิลาองค์นี้ได้ถูกอัญเชิญมาจากวัดนารายณ์นิการาม ต.เหล อ.กะปง เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ศิวลึงค์ศิลา องค์นี้มีอายุกว่า 1,300 ปี ประดิษฐานอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่ครั้งพุทธศาสนายังไม่ได้แผ่เข้ามาสู่ภูมิภาคนี้ แต่เมื่อประมาณปี 2524 ศิวลึงค์องค์นี้ได้ถูกโจรกรรมไปจาก จ.นครศรีธรรมราช โดยคนกลุ่มหนึ่งหมายที่จะส่งขายให้กับต่างชาติ แต่บังเกิดเหตุที่ไม่สามารถส่งขายออกไปได้ผู้ที่อยู่ในทีมโจรกรรมทั้งหมดมีอันเป็นไปถึงตาย เหลืออยู่คนสุดท้ายที่หวาดผวาหนัก ต้องนำศิวลึงค์ไปมอบให้วัด จนในที่สุดคณะทำงานที่รวมตัวกันใน จ.นครศรีธรรมราชไปติดตามคืนมาจนเป็นผลสำเร็จใช้เวลากว่า 10 ปี
โดยจะมีการตั้งขบวนเคลื่อนย้าย โดยคณะพราหมณ์เมืองนครศรีธรรมราชอัญเชิญไปประดิษฐานที่โบสถ์พราหมณ์ ไปเฉลิมฉลองตามพิธีกรรมโบราณ แต่เป็นการประดิษฐานชั่วคราว เพื่อที่จะให้ประชาชน และผู้ศรัทธาที่จะศึกษาได้เข้าไปสักการะ และศึกษาหาความรู้ รวมทั้งเป็นแลนด์มาร์คท่องเที่ยวเชิงศรัทธาแห่งใหม่ที่ จ.นครศรีธรรมราช
สำหรับศิวลึงค์องค์นี้ กรมศิลปากรได้ทำการสำรวจ และขึ้นทะเบียนศิวลึงค์องค์ดังกล่าว เป็นโบราณวัตถุประกาศในราชกิจจานเบกษาเล่มที่ 131 ตอนพิเศษ 70 ง. วันที่ 28 เม.ย. 57 เลขที่ 19.1 หน้า 19 โดยเบื้องต้นนั้นศิวลึงค์องค์นี้ถูกโจรกรรมไปจากเทวสถานโบราณ ที่เรียกว่าโมคลานหรือเมืองโมคลาน ซึ่งเป็นเทวสถาน และชุมชนพราหมณ์ดั้งเดิมของเมืองนครศรีธรรมราชเมื่อกว่าพันปีก่อน ปัจจุบันอยู่ในอ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
เทวสถานเดิมได้กลายเป็นที่ตั้งของวัดโมคลาน ซึ่งบริเวณที่ตั้งนั้นเป็นพื้นที่สันทรายโบราณเป็นที่ตั้งเมืองโบราณยุคเดียวกับอาณาจักรศรีวิชัย ก่อนที่พุทธศาสนาจะเข้ามามีอิทธิพล และพราหมณ์ค่อยๆ หายไปหลงเหลือเฉพาะโบราณสถานในปัจจุบัน เช่น โมคลานตุมปังเขาคาล้วน แต่เป็นเทวสถานในยุคเดียวกันกับโมคลาน มีร่องรอยของพราหมณ์ที่เจริญรุ่งเรืองมาก่อนทั้งสิ้น