หมอเผยเป่าเมาให้รีบตรวจใน 4 ชม. เกิน 6 ชม. ความเข้มข้นลด อาจรอดกฎหมาย

11 ม.ค. 66

เคส เสี่ยเบนท์ลีย์ หมอเผยตรวจเมาจากเลือดให้รีบทำภายใน 4 ชม. หากเกิน 6 ชม. ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจะลดลงต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด 50 mg%

เมื่อวันที่ 10 ม.ค.66 รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โพสต์ข้อความผ่านเพจ หมอหมู วีระศักดิ์ กรณี แอลกอฮอล์อยู่ในร่างกายให้ตรวจได้นานเท่าไร

ซึ่ง หมอหมู ระบุว่า

1. เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือด ร่างกายจะเริ่มเผาผลาญแอลกอฮอล์ในอัตรา 20 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (mg/dL) ต่อชั่วโมง

2. ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือด แต่ละคนแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่มีผลต่อความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือด ได้แก่ อายุ น้ำหนัก การได้รับการรักษาบางอย่าง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตอนท้องว่าง หรือแม้แต่การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากในระยะเวลาสั้น ๆ ก็มีผลเช่นกัน

3. 20% ของแอลกอฮอล์ที่ได้รับเข้าไปในช่วงแรกจะไหลเข้าสู่หลอดเลือด และถูกพาไปยังสมอง ส่วนอีก 80% ที่เหลือจะถูกส่งไปที่ลำไส้เล็กและเข้าสู่กระแสเลือดต่อไป หลังจากนั้นแอลกอฮอล์จะถูกกำจัดออกจากร่างกายโดยตับ

4.การตรวจปัสสาวะสามารถตรวจพบแอลกอฮอล์ได้ตั้งแต่ 12-48 ชั่วโมงหลังการดื่ม หรือในการตรวจสอบที่มีความแม่นยำสูงอื่น ๆ สามารถตรวจพบแอลกอฮอล์ในปัสสาวะหลังการดื่มได้ถึง 80 ชั่วโมง

5. การวัดแอลกอฮอลล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจ สามารถตรวจพบแอลกอฮอล์ที่อยู่ในเลือดหลังจากการดื่มได้นานถึง 24 ชั่วโมง

6. แอลกอฮอล์ยังสามารถสะสมอยู่ในผมได้มากกว่า 90 วัน ในบางครั้งสามารถตรวจพบแอลกอฮอล์ได้จากน้ำลาย เหงื่อและเลือดอีกด้วย

7. สำหรับการตรวจในเลือด สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แนะนำให้ตรวจภายใน 4 ชั่วโมง (หากเกิน 6 ชั่วโมงปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจะลดลงต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด 50 mg%)

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส