แท็กซี่สุดเซ็ง เจอผู้โดยสารชิ่งหนี หลอกมาส่งไกลถึงอยุธยา ทิ้งกระเป๋ารองเท้าให้ดูต่างหน้า ต้องตีรถกลับบ้านมือเปล่า
เมื่อเวลา 22.00 น.วานนี้ (2 ก.พ.) ร.ต.อเปล่ง พานแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งจากนายบัณฑิต กุลสาบาน อายุ 49 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ว่าถูกผู้โดยสารหลอกและไม่ยอมจ่ายเงินค่าแท็กซี่ เหตุเกิดภายในชุมการเคหะอยุธยา ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ทำการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
นายบัณฑิต (โชเฟอร์แท็กซี่) เผยว่าตนเองจอดรับลูกค้าเป็นชายอายุประมาณ 35-40 ปี ลักษณะการแต่งตัวเหมือน รปภ. สะพายกระเป๋าเป้และและหิ้วรองเท้าผ้าใบ 1 คู่ บริเวณ ซ.สหการประมูล (สถานทูตลาว) กรุงเทพมหานคร โดยมีการพูดคุยราคาค่าโดยสารแบบเหมา 700 บาท ให้มาส่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 80 กิโลเมตร
เมื่อผู้โดยสารขึ้นรถก็ไม่ได้มีการพูดคุยเนื่องจากผู้โดยสารหลับ กระทั่งมาถึงที่หมายภายในชุมชนการเคหะอยุธยา ผู้โดยสารบอกให้ขับตรงไปสุดทางแล้วเลี้ยวขวาซึ่งในซอยมืดมากและมีบ้านคนหลังเดียว จากนั้นผู้โดยสารลงจากรถแล้วหิ้วกระเป๋าเป้กับรองเท้าลงจากรถ แล้วหันมาบอกกับตนเองให้รอจะเข้าไปเอาสตางค์ให้ จากนั้นเดินหายเข้าไปในซอยที่มีความมืด ตนเองใช้เวลารอคอยนานกว่า 20 นาที เห็นท่าไม่ดีจึงเอะใจเดินลงไปดูก็ไม่เห็นผู้โดยสารคนดังกล่าว
กระทั่งมีบ้านชาวบ้านเปิดไฟออกมา ตนเองจึงถามชาวบ้านก็ไม่เห็นชายคนดังกล่าวและไม่แน่ใจว่าจะเป็นคนในละแวกนี้หรือเปล่า ตนเลยเดินไปตามทางซึ่งเป็นซอยตันก็พบกระเป๋าและรองเท้าของผู้โดยสารคนดังกล่าววางทิ้งไว้จึงแน่ใจว่าถูกชิ่งค่าโดยสารแน่ เลยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าพบเสื้อผ้าจำนวนหลายชิ้นและเอกสารรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ระบุเป็นโรคทางเดินอาหารและโรคตับแต่ไม่ระบุที่อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไว้เป็นหลักฐานเพื่อขอตรวจสอบว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับผู้โดยสารคนดังกล่าวหรือไม่ เพื่อติตตามมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายบัณฑิต เผยอีกว่า วันนี้วิ่งรับผู้โดยสารได้เพียง 2 ราย ผู้ก่อเหตุเป็นผู้โดยสารรายที่ 2 ตนเองก็หวังว่าจะได้ค่าโดยสาร 700 บาท เพื่อเอาไปรวบรวมจ่ายค่าเช่ารถแท็กซี่ แต่ก็ต้องมาโดนโกงค่าโดยสารแถมยังต้องเติมน้ำมันรถกลับบ้านมือเปล่า