ผู้การสุพรรณบุรี เชิญครอบครัวเข้าปรึกษา ยันให้ความเป็นธรรม ตั้งกรรมการสอบหาสาเหตุ กรณีตำรวจลาออกหากถูกกลั่นแกล้งตนไม่ยอมเด็ดขาด
จากกรณี ส.ต.อ.ชัยพัฒน์ บุญทิม ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองสุพรรณบุรี ทำบันทึกข้อความเรื่อง ขอลาออกจากราชการ สาเหตุเพราะหมดหวังสูญสิ้นศรัทธาในระบบข้าราชการตำรวจ ปกป้องผู้กระทำผิด ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตไม่ได้รับการเหลียวแล ยื่นต่อ ผกก.สภ.เมืองสุพรรณฯ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามในโซเชียลมากมาย
ความคืบหน้า ที่ห้องประชุม สภ.เมืองสุพรรณบุรี พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสุพรรณบุรี ได้เปิดเผยว่า ส.ต.อ.ชัยพัฒน์ เป็นเจ้าหน้าตำรวจ สภ.เมือง อันนี้เป็นเรื่องที่เขายื่นใบลาออกมาเมื่อตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เขายื่นใบลาออกจริง
เบื้องต้นทาง สภ. เมือง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของเขา เมื่อเขายื่นใบลาออกก็ได้ระงับ ยับยั้งไว้ ไม่ได้อนุมัติอะไร กำลังดำเนินการในส่วนที่ว่ามีปัญหาอะไรที่จะออก ก็จะสอบถามดู ในส่วนนี้มีกระแสข่าวออกมา ในส่วนของจังหวัดสุพรรณบุรี เราเองก็ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีท่าน พ.ต.อ.มาโนช รองผู้บังคับการเป็นประธานในการตรวจสอบ เพื่อต้องดูว่า สาเหตุครั้งนี้ที่เขาลาออกเนี่ย เกิดจากอะไรแน่
ปัญหาในระบบตำรวจ ไม่พอใจ หรือมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน หรือมีปัญหากับผู้บังคับบัญชาถึงไม่อยากเป็นตำรวจ อย่างไรก็แล้วแต่ ผู้ใต้บังคับบัญชาเรา ก็ไม่อยากให้ออก เพราะ ตัวเขาเองทำงานก็ดี แต่ว่าเป็นคนไม่ค่อยพูด ซึ่งในส่วนนี้ ผมเองในฐานะผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับการตำรวจสุพรรณบุรี ก็จะต้องมาดำเนินแก้ปัญหาให้ได้ แล้วก็ต้องหาสาเหตุที่แท้จริงให้ได้ว่า สิ่งที่เขาลาออกเนี่ยเพราะอะไร ก็ต้องรู้ เขาอาจจะไม่มีความสุขในอาชีพตำรวจ หรือมองอาชีพตำรวจเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบ หรือว่าเขามีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน หรือมีปัญหาในที่ทำงานของเขา ผมก็ได้คุยกับพ่อแม่เขาแล้วว่า พ่อแม่ก็ ไม่อยากให้ออกจากตำรวจ ลูกชายก็ยังไม่ได้แต่งงานด้วย แต่ตัวเขาเอง ปัญหาหนี้สิ้นก็ไม่มีอะไร
วันนี้ทั้งวันเราก็พยายามติดต่อเขาไป ส่วนทางผู้กำกับเมือง ก็ให้ตำรวจที่เขารู้จัก พ่อแม่ที่เขารู้จักติดต่อไป แต่เขาก็ไม่ได้รับโทรศัพท์ ติดต่อไม่ได้ คงอาจจะเครียดๆ ที่ไม่รับโทรศัพท์ เขาอาจจะเห็นข่าว อาจจะเครียด แต่คิดว่าอย่างไรก็คงติดต่อเข้าได้ เราจะได้รู้ปัญหาที่แท้จริงของเขา และเมื่อรู้ปัญหาแล้วเนี่ย ผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะ ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเน้นย้ำฝากมาเลยว่า ต้องดูแลลูกน้องให้ดี ปัญหาเรื่องนี้ต้องแก้ไขให้ดี ให้ดูให้ได้ว่า เขาลาออกเนี่ย ทำไมเขาถึงลาออกจากอาชีพตำรวจ คิดว่าระบบไม่ดี อันนี้ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการทางผมมา รวมทั้งผู้บัญชาการตำรวจภาค7 ด้วย ซึ่งเป็นห่วงทั้งหมด
"ผมไม่อยากให้ตำรวจลาออกเพราะ ถูกกระทำจากตำรวจด้วยกัน ผมมองแบบนี้ ถูกผู้บังคับบัญชากลั่นแกล้ง หรือลาออกเพราะมันอยู่ไม่ไหวจริงๆ ผมยอมไม่ได้ถ้าถูก ผู้บังคับบัญชากลั้นแกล้ง หรืออะไรก็แล้วแต่ อันนี้ผมไม่ยอมแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องรอเวลานิดหนึ่ง ให้เราตรวจสอบก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไง จะได้กระจ่าง" พล.ต.ต.เกรียงไกร กล่าว
วันนี้ได้เชิญพ่อแม่ แล้วก็น้องสาว มาพูดคุยเรื่องปัญหา เขามาปรึกษาปัญหาอะไรบ้าง พ่อแม่ก็บอกไม่มีอะไร เขาก็ให้ความร่วมมือ ตอนนี้ต้องขอความร่วมมือ จาก ส.ต.อ.ชัยพัฒน์ บุญทิม ว่าขณะนี้ผู้การเองก็ คุยกับพ่อแม่เขา เพื่อพยายามแก้ปัญหาตรงนี้ ซึ่งพ่อแม่เขาให้ความร่วมมือที่ดี เพราะขณะที่เราติดต่อตำรวจไม่ได้ ได้คุยกับพ่อแม่เขาแล้ว ส่วนตัวพ่อแม่เขาเนี่ย ถามว่าอยากให้ลูกเป็นตำรวจไหม ก็อยากให้เป็น แต่ถ้าลูกอยากออกจากตำรวจเขาก็ไม่ว่าอะไร
ทั้งนี้ทั้งนั้น เราจะต้องหาทางแก้ปัญหาให้ได้ ส่วนมันจะเป็นทิศทางใดต้องดูอีกที เพื่อให้ดีที่สุด ถ้าลูกเขาถูกรังแก ลูกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในจังหวัดสุพรรณบุรี ผมก็ต้องดำเนินการ ต้องดูแลเขาให้ได้ ต้องดำเนินการให้ได้ ตอนนี้เราเป็นห่วงทางพ่อแม่เขาก็ติดต่อลูกชายเขาได้ เขาก็พยายามคุยกับลูกชายเขา แต่ ส.ต.อ.ชัยพัฒน์ ถ้าคนอื่นตอนนี้ เขาไม่คุยด้วย ซึ่งพ่อแม่เขาเข้าใจดี ซึ่งเขาก็อยากให้ลูกเป็นตำรวจ ครอบครัวเขาก็ไม่ใช่ครอบครัวที่ยากจน เขาก็ดูแลลูกเขาได้ แต่ใจเขาก็อยากให้ลูกเขาเป็นตำรวจ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น เขาก็จะพยายามคุยกับลูก ซึ่งก็อยู่ที่ตัวลูกด้วย ในส่วนผู้การเอง ก็ต้องหาสาเหตุจริงๆ ว่ามันเกิดจากอะไรแน่ เพราะเรายังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง
ด้านพ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผู้กำกับ สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่าจากการตรวจสอบประวัติ ทาง ส.ต.อ.ชัยพัฒน์ เข้ามา เป็นตำรวจ สภ.เมืองเมื่อปี 2560 ในตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม และไปทำงานในหน้าที่ฝ่ายสืบสวน โดยที่ผ่านมาได้รับรายงาน
เบื้องต้นจากผู้บังคับบัญชาในฝ่ายสืบสวนว่า ก็เป็นคนที่ไม่มีประวัติเสียหาย การทำงานในส่วนของงารที่ได้รับมอบหมายเรียบร้อย แต่ในบุคลิกส่วนตัวก็จะเป็นที่แบบมีโลกส่วนตัว ชอบอยู่คนเดียว เคยมีประวัติในการยื่นลาออกมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2562 ก็ได้มีการถอนเรื่องออกไป ซึ่งจะมีการตรวจสอบเรียกเพื่อนร่วมงาน แล้วก็ผู้บังคับบัญชาในฝ่ายที่ดูแลอีกครั้ง
เรื่องนี้เราไม่โทษใครทั้งสิ้น ขอให้ ส.ต.อ.ชัยพัฒน์ เข้ามาพบเพื่อพูดคุยกันหาทางออก ที่ดีที่สุด ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดระดับจังหวัดพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ขอให้เข้ามาพูดคุยกันจะได้รู้ปัญหาที่แท้จริงและแก้ไขถูก พ.ต.อ.ธัชชัย กล่าว