“ลุงป้อม” ย้ำลูกพรรคพลังประชารัฐหาเสียงสร้างสรรค์ เน้นสร้างความเข้าใจเยาวชน อย่าตกหลุมพลางพรรคอื่น เหตุเจอจ้องดิสเครดิตโยงรัฐประหาร
วันที่ 7 เม.ย. 66 รายงานข่าวจาก พรรคพลังประชารัฐ แจ้งว่า ในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เน้นย้ำแกนนำพรรค และผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทุกคนว่า ต้องหาเสียงสร้างสรรค์ อย่าโจมตีสาดโคลน รักษากฎหมาย ไม่ใช้ความรุนแรงเด็ดขาด เพราะประเมินแล้วว่าในช่วงนี้บางพรรคพยายามปั่นกระแส และดิสเครดิตพรรคพลังประชารัฐในเรื่องสนับสนุนการยึดอำนาจในช่วงที่ผ่านมา
โดย พล.อ.ประวิตร ให้แนวทางไปว่า ควรชี้แจงกับประชาชนว่าพรรคยึดกติกาและรักษาประชาธิปไตย รวมทั้ง พล.อ.ประวิตร ช่วยประสานความขัดแย้งในช่วงที่ผ่านมาเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า และกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยเร็วที่สุด วันข้างหน้าความขัดแย้งต้องลดลง และจางหายไปในที่สุด
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า พล.อ.ประวิตร บอกกับแกนนำพรรคให้แจ้งผู้สมัคร ส.ส. เวลาลงพื้นที่ว่า เยาวชนที่มาประท้วงเป็นลูกหลาน หลังจากแกนนำได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตรก็พบสัญญาณที่ดี แปลว่าเยาวชนที่ต่อต้าน หากได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร แล้วก็จะเข้าใจ และปรับท่าที่ในเชิงบวกขึ้น รวมทั้ง พล.อประวิตร ยังพร้อมพูดคุยกับทุกฝ่ายเสมอ เพื่อให้บรรยากาศบ้านเมืองดีขึ้น ซึ่งตรงกับแนวทางของ พล.อ.ประวิตร ที่ให้แคมเปญหาเสียงว่าก้าวข้ามความขัดแย้ง
พล.อ.ประวิตร ย้ำว่าหากเยาวชนต้องการมาพูดคุยกับตนหรือแกนนำพรรคนั้น ขอให้ยึดหลักเคารพกฎหมายและวัฒนธรรมอันดีของประเทศ สิ่งใดที่มาพูดคุย หรือเรียกร้องหากอยู่ในครรลองและกฎหมายก็สามารถร่วมมือกันได้ และที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร พอใจกับการพูดคุยกับเยาวชน นักศึกษาหลายสถาบันที่กลุ่มเฟซบุ๊ก FC ลุงป้อม ได้วิดีโอคอลให้ พล.อ.ประวิตร ได้สื่อสารกับคนรุ่นใหม่ เพราะคนรุ่นใหม่ได้สะท้อนปัญหาหลายเรื่องให้ พล.อ.ประวิตร และทีมงาน FC ลุงป้อม รับไว้พิจารณาแก้ไข โดยพบว่าท่าทีของคนรุ่นใหม่นั้นพร้อมที่จับมือฝ่ายต่างๆ เพื่อลดความขัดแย้ง และไม่มีท่าทีต่อต้าน พล.อ.ประวิตร ตรงนี้ทำให้ พล.อ.ประวิตร มั่นใจว่า หากเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่สื่อสารกับแกนนำพรรคต่างๆอย่างเต็มที่นั้น ความเข้าใจที่ไม่ตรงกันเป็นบ่อเกิดของความเห็นที่รุนแรงทางการเมือง จะลดระดับลงไปได้
ดังนั้นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคต้องเพิ่มการให้ความรักความเข้าใจ เพื่อมิให้เกิดภาพความขัดแย้งในช่วงหาเสียง และในเวลาต่อจากนี้ไป ถึงแม้จะสิ้นสุดห้วงระยะเวลาของการเลือกการเลือกตั้ง การใช้วิธีสร้างความปรองดองในทุกพื้นที่ ให้เป็นหลักของความสามัคคีของคนไทยในสังคมต่อไปในวันข้างหน้า เพื่อลดความขัดแย้งและนำพาความสงบสุขมาสู่สังคม