เจ้าของเฮลั่น! น้ำบาดาลซ่าเหมือนโซดา คุณภาพเทียบน้ำแร่ฝรั่งเศส

เจ้าของเฮลั่น! น้ำบาดาลซ่าเหมือนโซดา คุณภาพเทียบน้ำแร่ฝรั่งเศส แต่ต้องกรองเอาแมงกานีสออกก่อน เจ้าของจ่อทำขายให้ชาวบ้าน

วันที่ 13 เม.ย. 66 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 146 หมู่ 7 ตำบลนาเชิงคีรี อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย พบกับ พันโทคะเนตร รักวุ่น อายุ 62 ปี ข้าราชการบำนาญสังกัดกอ.รมน. จังหวัดสุโขทัย เจ้าของบ่อบาดาลน้ำซ่าแบบโซดา ซึ่งก่อนหน้าพันโทคะเนตร ได้ว่าจ้างให้ช่างมาเจาะบ่อบาดาลเพื่อที่จะนำน้ำมาใช้ในการเกษตร เมื่อเจาะบ่อได้น้ำแล้วก็ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ แต่คนงานที่มาติดตั้งเครื่องสูบน้ำได้ทดลองชิมน้ำจากบ่อที่ขุดได้ บอกว่าน้ำมีรสชาติคล้ายโซดาซ่าติดปลายลิ้น ตนไม่เชื่อจึงได้ทดลองชิมก็พบว่าน้ำที่ได้มานั้นมีรสชาติคล้ายโซดาจริง

ต่อมาทางสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 7 กำแพงเพชร ดูแล 6 จังหวัด รวมจังหวัดสุโขทัยด้วย ได้ลงพื้นที่พร้อมกับเจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบ เบื้องต้นพบค่า ph ความเป็นกรดอยู่ที่ 6.0  ค่าสารละลายทั้งหมดอยู่ที่ 800 ppm ซึ่งมีค่าความเป็นกรดมากกว่าน้ำดื่มปกติ ซึ่งรอผลตรวจ 1 อาทิตย์

ล่าสุดพันโทคะเนตรเปิดเผยผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำออกมาแล้วพบว่า น้ำบาดาลที่เจาะขึ้นมามีคุณภาพเทียบเท่าน้ำแร่ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก จะได้มีการนำน้ำไปตรวจสอบที่ห้องปฎิบัติการที่มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อแยกสารประกอบของน้ำเพื่อนำใบมายืนยันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการต่อยอดประโยชน์ของน้ำต่อไป ซึ่งตนอยากให้น้ำบาลดาลที่ตนเจาะเกิดประโยชน์ต่อคนในชุมชนมากที่สุด ขั้นต้นมีแนวคิดที่จะทำเป็นน้ำแร่พระแม่ย่า เพื่อขายให้กับคนในพื้นที่ได้ทานน้ำแร่ในราคาถูก เพียงลิตรละ 1-2 บาทเท่านั้น ซึ่งจะประสานงานกับหน่วยงนที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมดำเนินการอีกครั้ง

จากการเปิดเผยของนายสุดใจ วงศ์ชาลี ผอ.กองมาตราฐานคุณภาพน้ำบาดาล กล่าวถึงผลของการตรวจสอบคุณภาพของน้ำบาดาลที่ ม.7 ตำบลนาเชิงคีรี อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย โดยหลังจากการตรวจสอบคุณภาพของน้ำบาดาล พบมีคุณภาพใกล้เคียงน้ำแร่ โดยการตรวจสอบพบว่าน้ำบาดาลที่ได้นำไปตรวจสอบมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ ค่าของความเป็นกรดด่างเท่ากับ 6.2 และตัวของแคลเซียม 120  มิลลิกรัมต่อลิตรไบคาร์บอเนตย์ 600 กว่ามิลลิกรัมต่อลิตร และมีความกระด้าง 530 มิลลิกรัมต่อลิตร

ค่าแมงกานีสูง 0.6 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งตัวแมงกานีสนี้เกินเกณฑ์มาตรฐาน ตามมาตรฐานน้ำดื่มไม่เกิน 0.3 มิลลิกรัมต่อลิตร อันนี้เกิน 0.6 มิลลิกรัมต่อลิตร ต้องกรองออกจึงจะสามารถดื่มได้ ยิ่งทำให้เหลือ 0 ได้ยิ่งดี เนื่องจากตัวแมกกานีสเป็นตัวทำให้เกิดกลิ่นในน้ำบาดาลได้ อีกทั้งคุณภาพน้ำบาดาลที่เหมาะสมที่จะใช้บริโภคนั้น ระบุไว้คือความกระด่างไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่ที่นี่เกิน 530 มิลลิกรัมต่อลิตร ก็จะต้องกรองให้ลดลงให้เหลือต่ำกว่า 300 มิลลิกรัมต่อลิตร ถ้าจะแนะนำให้ชาวบ้านดื่มสามารถดื่มได้แต่ต้องกรองแมงกานีสออกก่อน แต่ไม่ควรดื่มเป็นประจำ ดื่มอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง น่าจะเป็นประโยชน์เนื่องจากมีแคลเซียมและไบร์คาบอเนตซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่แล้ว

แต่ถ้าดื่มน้ำที่มีแมงกานีสและความกระด่างที่สูงเป็นประจำ จะมีอันตรายได้จะมีผลต่อระบบประสาทได้ ซึ่งตัวแมงกานีสจะเกิดอันตรายต่อระบบประสาท ลักษณะมือชาเวียนศีรษะหรือความจำเสื่อม ส่วนตัวน้ำประปาหมู่บ้านที่หมู่ 7 คีรีมาศ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวน้ำไปตรวจสอบ พบค่าของน้ำออกมามีคุณภาพใกล้เคียงกันกับบ่อบาดาลที่ตรวจพบว่ามีรสชาติเหมือนโซดานี้ด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนสาเหตุที่ชาวบ้านบอกว่าน้ำประปาหมู่บ้านมีกลิ่นเหม็นนั้น เกิดจากตัวแมงกานีสที่ไม่ได้กรองออก จึงเกิดการสะสมในหอเก็บน้ำและท่อนาน ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้ ส่วนที่ไม่มีความซ่าก็เพราะแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ระเหยออกไป น้ำเลยไม่ซ่าเหมือนที่ได้มาจากปากบ่อ