ก้าวไกลเลือกตั้ง 66 ปราศรัย หาเสียงฝั่งธนคึกคัก ลั่นปักธงสีส้ม “พิจารณ์” ชี้ขาดโฉมหน้ารัฐบาลใหม่หลัง เลือกตั้ง66 ทุกนโยบายเปลี่ยนประเทศ
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 เม.ย. 66 ก้าวไกลเลือกตั้ง 66 ที่บริเวณใต้สะพานพระราม 8 พรรคก้าวไกล จัดเวทีปราศรัย หาเสียงฝั่งธนบุรี นำโดย นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.กทม. ฝั่งธนบุรีทั้ง 10 คน ท่ามกลางบรรยากาศที่มีประชาชนมารอฟังอย่างคึกคัก
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 27 (เขตบางบอน เฉพาะแขวงบางบอนใต้และแขวงคลองบางบอน เขตบางขุนเทียน ยกเว้นแขวงท่าข้าม) กล่าวว่า การเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 14 พ.ค.นี้ มีความหมาย และสำคัญต่อพี่น้องประชาชนทั้งประเทศอย่างยิ่ง เพราะการเลือกตั้งเดินเข้าคูหาเป็นการลงทุนที่น้อยที่สุด และมีประสิทธิภาพที่สุด ที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตของตัวเอง กาให้คนที่มั่นใจว่าจะเป็นปากเป็นเสียงให้ท่านได้
ด้านนายพิจารณ์ กล่าวถึงโพสต์เฟซบุ๊กของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุว่าการที่พรรคการเมืองบอกว่าจะจับมือกับใครหรือไม่จับมือกับใครก่อนการเลือกตั้งนั้นจะไม่เกิดขึ้นจริง เพราะการจัดตั้งรัฐบาลซับซ้อนกว่านั้นว่า เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่ามีคนอยากเป็นนายกฯ จนตัวสั่น ทำตัวเป็นผู้จัดการตั้งรัฐบาล แต่ตนต้องบอกว่าคนที่จะกำหนดโฉมหน้า และอนาคตของรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง66 คือพรรคก้าวไกล จำนวน ส.ส. ของพรรคก้าวไกลจะเป็นตัวชี้ขาดว่ารัฐบาลจะเป็นแบบใด
“ตลอดเวลา 4 ปี ในฐานะวิปฝ่ายค้าน ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับ ส.ส. ด้วยกัน บางคนเป็นอดีตรัฐมนตรี เคยเล่าว่าอยากเข้าไปปฏิรูปกองทัพ เอาทหารออกจากการเมือง อยากกระจายอำนาจให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ไปจนถึงการทลายทุนผูกขาด ทำให้อดีตรัฐมนตรีพูดกับผมในเชิงว่า อยากให้ผมเป็นรัฐมนตรี จะได้รู้ว่าที่พูดมานั้นทำไม่ได้ ผมคิดในใจว่าก็เพราะมีนักการเมืองแบบนี้อยู่ พวกผมเลยต้องมาตั้งพรรคอนาคตใหม่ เราเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้ทำได้ แต่ต้องการเจตจำนงอันแรงกล้าของพรรคการเมืองในการเข้าไปเปลี่ยนแปลง” นายพิจารณ์ กล่าว
นายพิจารณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ต้องย้ำว่านโยบายสวัสดิการของ พรรคก้าวไกล ไม่ใช่การแข่งกันแจกเงิน แต่คือการทำให้ประชาชนทุกคนทุกช่วงวัยมีคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐานที่ดี รัฐสวัสดิการเป็นหลักคิดของพรรคก้าวไกลที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีตพรรคอนาคตใหม่ เป็นการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข และยืนยันว่าทุกนโยบายที่หาเสียงไว้ ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนประเทศและสร้างสังคมที่ดีให้ลูกหลานของเรา รวมถึงคนทุกรุ่น
ขณะที่นายรังสิมันต์ ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นคนสุดท้ายกล่าวว่า ประเทศไทยวันนี้ต้องเผชิญกับวิกฤตที่รัฐบาลไม่ต้องการจะแก้ไข สิ่งที่พรรคก้าวไกลอยากเข้าไปทำให้สำเร็จ ทั้ง 312 นโยบายที่เราออกแบบมา มีจุดประสงค์เดียวคือทำให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นนโยบายสวัสดิการถ้วนหน้า เรียนฟรีจริง ปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร สุราก้าวหน้า ทลายทุนผูกขาด
“เราอยากให้คนรุ่นใหม่ของเราสามารถเดินตามความฝัน ไม่ต้องย้ายไปประเทศอื่น นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพรรคก้าวไกลจึงยืนยันว่าจำเป็นต้องปิดสวิตช์ 3 ป. และไม่สามารถจับมือกับพรรคการเมืองอย่าง พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติได้ เพื่อให้เราสามารถผลักดันนโยบายที่ก้าวหน้า กล้าชนทุกต้นตอปัญหาของประเทศ” นายรังสิมันต์ กล่าว