ครูสาวเล่าเรื่องราวในอดีต กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

4 พ.ค. 66

ครูสาวเล่าเรื่องราวในอดีต ลั่น"กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย" หลังตัดสินใจลาออกจากราชการครู ผันตัวมาเป็นชาวสวนเต็มตัว

4 พ.ค.2566 จากกรณีที่เมื่อวานนี้ครูสาวรายหนึ่งโพสต์อธิบายเหตุผลการลาออกจากราชการครู เพื่อผันตัวมาเป็นเกษตรกรชาวสวนอย่างเต็มตัว ครูสาวตัดสินใจลาออกจากราชการ ผันตัวเป็นชาวสวนเต็มตัว พร้อม เปิดคลิปพาชมสวนทุเรียน หลังตัดสินใจลาออกจากราชการครู ล่าสุดครูสาวศันสนีย์ได้โพสต์เล่าเรื่องราวเมื่อครั้งอดีตที่กว่าจะมามีสวนทุเรียนและทุกอย่างเหมือนวันนี้ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผ่านเฟซบุ๊ก "Sunsanee Wonghong" รายละเอียดระบุว่า

“เรื่องเล่าย้อนอดีต จำความได้ว่าตอนเด็กๆ พ่อกับแม่กรีดยาง ศันสนีย์ก็ไปนอนในป่ายาง ห่มเสื่อกลิ้งไปกลิ้งมาเพราะกลัวผี ไม่กล้านอนบ้านคนเดียว ก็นอนมองแสงไฟพ่อแม่กรีดยางไป แม่บอกสมัยก่อนลำบากมาก เงินกินใช้ไม่ค่อยมี

ตอนประถมวันหยุดศันสนีย์ก็ไปช่วยพ่อแม่เก็บน้ำยางเอามาทำยางแผ่น ไม่เคยไปเที่ยวเล่นที่ไหน ช่วงปิดเทอมก็ไปช่วยที่บ้านย่าขนทุเรียน ก็ได้ตังค์มากินขนมบ้าง พ่อกับแม่ก็มีปลูกทุกเรียนไว้ข้างบ้านแค่ไม่กี่ต้น

พอประถมปลาย ขณะที่คนแห่กันปลูกยาง บ้านเราดันสวนกระแสชาวบ้านมาปลูกทุเรียน แม่บอกมีคนว่าว่บ้ารึป่าว

ตอนทุเรียนต้นเล็กก็ปลูกมะละกอไปด้วย ลากสายรดน้ำกันพัลวันเลย แต่ทุเรียนโตมาสักพักน้ำแห้ง คุณพระ ปีนั้นแล้งมาก น่าจะช่วง ม.3 ศันสนีย์ต้องตื่นแต่เช้าหัดขับรถยนต์เพื่อบรรทุกน้ำรดทุเรียนทีละต้น (ต้นที่เห็นในภาพแหละ) ตั้งแต่เช้ายันมืด ถอยเข้าถอยออกจนขับรถเป็น ทุเรียนก็รอดมาได้

สมัย ม.4 ตอนนั้นเข้าไปเรียนในเมืองละ ช่วงปิดเทอมบอกแม่ว่าอยากได้ตังค์ อยากขายทุเรียนขายผลไม้ สมัยนั้นทุเรียนก็ยังไม่แพงเท่าไหร่ แม่ก็พาไปหาซื้อทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง เพราะตอนนั้นที่บ้านมีไม่เยอะ ก็ขับรถไปขายที่ตลาดสตาร์จ.ระยอง เอาจริงๆ ก็กล้ามาก ไปกัน 3 คน แม่ ศันสนีย์ และน้องชายที่ยังเด็ก มีอยู่รอบนึงตลาดมังคุดที่หนองคล้าตาย เหลือแค่โลละ 10 บาท ศันนีย์ดีใจมากช้อนซื้อใหญ่เลย เลือกเฉพาะลูกสวยๆ ปรากฎว่า พอเราเอาไปขายที่ปลายทางก็ตายเช่นกัน  ตายสนิท แจ๊งสิครับงวดนั้น ทุกวันนี้ได้กำไรรึป่าวยังไม่รู้เลย แต่ก็เป็นประสบการณ์ชีวิตดี

เราก็ช่วยพ่อแม่ทำสวนตั้งแต่เด็กเรื่อยมา จนช่วงมหาวิทยาลัยราคาทุเรียนก็เริ่มขยับดีขึ้น จำได้ว่าตอนเด็กมันถูกมาก 3 บาทก็ยังมี พอราคาทุเรียนดี บ้านเราก็เริ่มมีรายได้จากทุเรียนมากขึ้น แล้วก็ทำต่อขยายเท่าที่เราทำได้ ติดหนี้ก็เยอะ ทุลักทุเลกันมาพอสมควร

ศันสนีย์ก็ปีนต้นทุเรียนมาตลอด แต่งหางไหล โยง ตัดทุเรียน เป็นผู้หญิงที่ทำทุกอย่างที่ผู้ชายทำ ขับรถบรรทุกทุเรียนหนักๆ ไปขายแบบแมนๆ นี่แหละ จนวันนี้ก็ยังทำทุกอย่าง

กว่าครอบครัวเราจะมีวันนี้ผ่านความยากลำบากมามากมาย สิ่งที่อยากจะบอกกับทุกคนก็คือ อย่ามองคนอื่นว่าโชคดีถ้ายังไม่เห็นวันที่เขาลำบาก ทุกอย่างสร้างได้ด้วยมือของเรา ลงมือทำ และทำไม่หยุดในวันนึงเราจะเห็นความสำเร็จเอง แต่เราต้องอดทน มันไม่ใช่ว่าทำวันสองวันแล้วได้ ครอบครัวเราทำกันมาตลอดถึงมีวันนี้

คนเราจะไม่อับจนถ้าเราพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ทำให้ตัวเองมีทักษะที่หลากหลาย ทำให้ชีวิตมีทางเลือก อย่ามัวแต่โทษโชคชะตา อย่ามัวแต่มองคนอื่น ลงมือทำให้เราเป็นคนที่เก่งขึ้นในทุกๆ วัน แล้ววันนึงเราจะเลือกชีวิตในแบบที่เราต้องการได้เอง”

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส