หนุ่มโดนโกงค่าแรงตัดอ้อย ตัดสินใจเดินเท้ากลับบ้านเกิด ตำรวจช่วยพาส่งคืนอ้อมอกแม่

หนุ่มโดนโกงค่าแรงตัดอ้อยในโคราช ตัดสินใจเดินเท้ากลับบ้านเกิดในบุรีรัมย์ หิวข้าวจนตาลาย ตำรวจช่วยพาส่งคืนอ้อมอกแม่

ตำรวจ สภ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เห็นหนุ่มเดินเท้าลักษณะอ่อนแรงมาตามถนนนำตัวมาสอบถาม เจ้าตัวระบุเดินทางไปรับจ้างตัดอ้อยที่ปากช่องแต่ไม่ได้ค่าแรง ตัดสินใจเอาเงิน 200 ในตัวขึ้นรถโดยสารมาถึงบุรีรัมย์ ไม่มีเงินไปต่ออีก 60 กม.เดินเท้า ข้าวไม่ได้กิน ตำรวจโทรให้แม่มารับปลอดภัย

วันที่ 5 มิ.ย.66 พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.สมพร นาดี รองสารวัตร(จราจร) สภ.บ้านด่าน ว่ามีบุคคลต้องสงสัยเป็นชายเดินเท้าอยู่ริมถนนก่อนถึงตัว อ.บ้านด่าน จึงสั่งการให้นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.บ้านด่าน

จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นายภูสิทธิ์ อายุ 35 ปี อยู่ในอาการอ่อนเพลียแจ้งกับตำรวจว่าไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่ตอนเช้า จากนั้น จนท.ได้ซื้ออาหารมาให้แต่กินไม่ได้เพราะยังอ่อนเพลีย

สอบถามทราบว่าเมื่อกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา นายภูสิทธิ์เดินทางไปทำงานรับจ้างตัดอ้อยที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีเงินติดตัวไป 800 บาท เมื่อไปถึงได้ทำงานตามปกติ แต่ปรากฏว่านายจ้างไม่จ่ายเงินค่าตัดอ้อยซึ่งตกลงกันเหมาเป็นมัด พยายามอดมื้อกินมื้อเพื่อรอเงินออกตามที่ตกลงกันสัปดาห์ละครั้ง เวลาผ่านไปดูแล้วไม่มีแววที่จะได้เงิน จึงตัดสินใจเอาเงิน 200 บาท ที่เหลือขึ้นรถตู้จาก อ.ปากช่อง มาลงที่สถานีขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. แต่ไม่สามารถจะไปต่อได้เพราะไม่มีเงินเหลือ อีกทั้งไม่ได้กินข้าวจึงเดินเท้าจากสถานีขนส่งมุ่งหน้าบ้านที่ อ.สตึก ระยะทางประมาณ 60 กม. คาดว่าจะไปถึงตอนเช้าแต่ตำรวจมาเจอก่อน

ต่อมาตำรวจ สภ.บ้านด่าน ได้ประสานไปหาผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองหญ้าคาเพื่อให้ติดต่อญาติมารับ ในเวลาต่อมานางปรวง อายุ 55 ปี แม่นายภูสิทธิ์ได้เหมารถกระบะในหมู่บ้านมารับ เจ้าตัวถึงกับเข้ากราบแม่ด้วยความดีใจและรอดชีวิตมาได้