อดีตทหารเรือเมากร่าง จับหน้าอก ยิงสาวเจ้าของร้านอาหารสาหัส อ้างทหารเก่าจะฆ่าใครก็ได้ ตร.ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
8 ส.ค. 2566 เวลา 17.45 น. พ.ต.ต.อิทธิพล ฉลาธัญญกิจ พนักงานสอบสวน สภ.เชียงของ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมกับอาสากู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์เชียงของ ไปยังร้านชำในอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น เลขที่ 176/3 หมู่3ต.สถาน พบผู้บาดเจ็บ นางสาวนงนุช สงวนนามสกุล อายุ 48 ปี ที่อยู่หมู่ 2 ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง ที่มาเปิดร้านอาหารตามสั่งอยู่ที่ตึกแถวอาคารเดียวกับที่เกิดเหตุ ถูกยิงบริเวณข้างลำตัวข้างขวาทะลุหน้าท้อง จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ ส่วนผู้ยิงคือนาย ธนะ หินสุวรรณ ที่อยู่หมู่ 2 ต.สถาน อ.เชียงของ อายุ 69 ปี เป็นอดีตทหารเรืออยู่ในที่เกิดเหตุ โดยชาวบ้านได้ช่วยกันควบคุมตัวไว้ จึงได้จับกุมพร้อมยึดของกลาง เป็นปืนก่อเหตุแมกกาซีน .38ซุปเปอร์ และปลอกกระสุน 1 ปลอกในที่เกิดเหตุ
นายถาวร สงวนนามสกุล เพื่อนผู้ได้รับบาดเจ็บกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายธนะ ได้ขี่จักรยานยนต์จากบ้านมานั่งดื่มเบียร์ไป 4 ขวด เริ่มมีอาการมึนเมาและมาขอนั่งที่โต๊ะที่ตนเองและเพื่อน 4-5 คนกำลังนั่งกินข้าวด้วยกันอยู่ และนายธนะได้สั่งเหล้า 1 ชุด มาดื่มด้วยกัน เมื่อดื่มไปสักพักเริ่มเมาหนักขึ้น คนที่นั่งร่วมโต๊ะเห็นว่าเมาหนักจึงบอกให้นายธนะโทรให้ภรรยามารับ แต่นายธนะก็เอามือไปจับหน้าอกภรรยาของเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยกัน ภรรยาเพื่อนจึงเดินหนีและเมื่อนางสาวนงนุชเพื่อนของตนบอกนายธนะว่า “เมาแล้วกลับบ้าน โทรไปบอกให้คนที่บ้านมารับเถอะ” แต่ผู้ก่อเหตุตอบทันทีว่า “กูไม่กลับ” แล้วคว้าปืนในกระเป๋าคาดเอวออกมายิงนางสาวนงนุชที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมือในระยะประชิด 1 นัดทันที และอ้างว่าตนเองเป็นทหารเก่าสามารถจะฆ่าใครทิ้งได้หมด จะฆ่าให้หมดเลย ตนเองและผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุอีก 1 คน จึงได้ช่วยกันกระโดดเข้าล็อคตัวแย่งปืนจากผู้ก่อเหตุอย่างชุลมุนเพื่อระงับเหตุ
พ.ต.ต.อิทธิพล กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บอาการสาหัสจนต้องนำส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และพ้นขีดอันตรายแล้วในขณะนี้ ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าอาวุธปืนเป็นของนายธนะผู้ต้องหา และยังอยู่ในสภาพมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาพยายามฆ่า,ยิงปืนในที่สาธารณะตรวจยึดปืนของกลางและเครื่องกระสุน และได้เรียกตัวพยานในที่เกิดเหตุเพื่อสอบสวนในรายละเอียดและจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป