สาระน่ารู้! ทำไมถึงไม่ควรกินปูม้าที่มีไข่สีดำ แต่ควรปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อรักษาสมดุลธรรมชาติ แต่ไข่สีส้มสามารถกินได้ปกติ
เมื่อไม่นานมานี้ ทั่วโลกต่างได้รับรู้ว่าประเทศอิตาลีกำลังเผชิญอยู่กับปัญหาของประชากรปูม้าที่มีจำนวนมากเกินการรับมือของเกษตรกรจนทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
อ่านข่าว : คนไทยพร้อม "น้ำจิ้มซีฟู้ด" เข้าช่วยเหลือแล้ว
ปูม้า ถือได้ว่าเป็นทรัพยากรสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย เนื่องจากเป็นสัตว์ทะเลที่ได้รับความนิยมซึ่งคนไทยนิมยมนำมาประกอบอาหารหลากหลายเมนู หรือกินพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ได้รสชาติดีไม่แพกัน ด้วยเหตุนี้ทำให้ชาวประมงจับปูม้ามามากขึ้น ส่งผลให้ประชากรปูม้าไม่สามารถเจริญเติบโตทดแทนได้ทัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บนโลกออนไลน์ได้แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Giraffesociety ซึ่งได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปูม้าเอาไว้ โดยระบุข้อความว่า "ถ้าเจอปูม้า มีไข่สีดำ อย่าเอาน้องมากินนะ ถึงจะช่วยอะไรได้ไม่มาก แต่สิ่งที่ได้ คือ Social ได้ความรู้เพิ่มเติม และทำให้เรารู้ว่าคนรุ่นใหม่ ก็สนใจใน การสร้างสมดุล
ไข่ปูม้า หากพบเห็นตามท้องตลาด (ยังไม่ได้แช่น้ำแข็ง) ไข่สีส้มซื้อทานได้พร้อมทำน้ำจิ้มแซ่บๆ แต่ไข่ลักษณะสีดำ ปล่อยน้องไปเถอะจะคลอดแล้ว กรณีปูตายภายใน 6 ชม. ยังคงปล่อยไข่ได้ เพื่อเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำ สร้างสมดุล ให้แก่ระบบนิเวศในท้องทะเล
ปล. หากไม่เลือกที่จะทานตัวที่มีไข่ในท้องได้เป็นการดีที่สุดจ้า... ปล่อยน้องๆ ปูให้เขาได้เติบโตได้ เป็นการดีที่สุดจ้า ในบางประเทศมีกฏหมายห้ามจับสัตว์น้ำที่มีไข่ รวมไปจนจึงสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็กกว่าข้อกำหนดต้องปล่อยลงคืนสู่ทะเล...เพื่อวันข้างหน้า...ลูกหลานเราจะได้มีทานสืบต่อไปจ้า