"อุ๊งอิ๊ง" เฟิร์ม"ทักษิณ" กลับไทย 22 ส.ค. ไม่ได้เป็นตัวประกันการเมือง

20 ส.ค. 66

"อุ๊งอิ๊ง"คอนเฟิร์ม"ทักษิณ" กลับไทย 22 ส.ค. ยืนยันไม่ได้มาเป็นตัวประกันทางการเมือง ขอโทษทำประชาชนผิดหวังจับมือ 2 ลุง

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เดินทางมาพิธีปิดการแข่งขันชิงแชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานแห่งเอเชียครั้งแรกในปี 2023 ที่มหาวิทยาลัยธนบุรี กรุงเทพฯ และให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังจากประกาศ ว่านายทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางกลับมาประเทศไทยในวันที่ 22 สิงหาคมนี้

 

 

โดยระบุว่า เมื่อช่วงเช้าได้เดินทางไปทำบุญวันเกิดล่วงหน้า มีเพื่อนสนิทและคนใกล้ชิด ซึ่งก็รู้สึกสบายใจ และการที่นายทักษิณเดินทางกลับมา ถือเป็นของขวัญของทุกคนในบ้าน และเมื่อกลับมาใกล้วันเกิดตนก็ถือว่าเป็นของขวัญ

เมื่อถามว่าโพสต์ถึงกรณีเรื่องของความปลอดภัยของนายทักษิณ มีความเป็นห่วงอะไรหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ทุกอย่าง ทั้งการขึ้นเครื่องบิน สุขภาพ ซึ่งตนอยากให้มีสุขภาพที่แข็งแรง และเมื่อกลับมาถึง คุณพ่อก็ยังไม่ได้เข้าบ้าน

เมื่อถามว่ามีนักวิชาการวิเคราะห์ว่าการกลับมาของนายทักษิณครั้งนี้ เพื่อเป็นตัวประกันทางการเมืองแลกกับการโหวตนายกฯ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เข้าใจว่านายทักษิณ ถูกแยกออกจากการเมืองได้ยาก แต่การกลับมาของคุณพ่อก็เป็นการกลับมาของประชาชนคนไทยคนหนึง ที่มีสิทธิ์กลับมาในประเทศบ้านเกิด ตอนนี้ผ่านไป 17 ปีแล้ว ซึ่งทุกครั้งที่คุยโทรศัพท์กัน ก็จะพูดเสมอว่าหลาน 7 คนโตแล้ว อยากกลับมาเลี้ยงหลาน โดยยืนยันว่าไม่ได้คิดถึงเรื่องของการเมืองหรือจะมาเป็นตัวประกัน และคิดเพียงว่ากลับมาแล้วปลอดภัยรอวันกลับมาบ้านเพื่ออยู่กับลูกหลาน

เมื่อถามยามว่า "มีการพูดว่าจะถูกหลอก" นางสาวแพทองธาร ย้อนถามว่า ถูกใครหลอกและคนเชื่อว่า นายทักษิณไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปีแล้วน่าจะมีหลายข้อมูล ทั้งผิดและถูกซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ 17 ปีผ่านอะไรมาเยอะมาก และการกลับมาครั้งนี้เป็นการตัดสินใจของท่านเอง ไม่มีใครหลอกและท่านก็ไม่ได้หลอกใคร และการกลับมาครั้งนี้ เป็นการตกลงกับครอบครัวก่อนจะตัดสินใจกลับมา

เมื่อถามว่ามีการประเมินถึงขั้นว่าหากนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยไม่ได้รับความเห็นชอบ ก็จะเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร เพื่อหวังเป็นตัวประกันทางการเมือง ว่าตนอยากให้มองการเมืองสร้างสรรค์ขึ้น และการที่คุณพ่อกลับมาเพราะอยากอยู่กับครอบครัว ส่วนเรื่องการเมืองก็ขอให้แบ่งเป็นเรื่องการเมืองของพรรคเพื่อไทย พร้อมย้ำว่าการกลับมาของคุณพ่อไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือพรรคเพื่อไทย และคดีความของนายทักษิณ ก็ไม่เกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกฯและพรรคเพื่อไทย ดังนั้นอยากให้แยกเรื่องนี้ออกจากกันโดยชัดเจน

เมื่อถามว่า มันปฏิเสธไม่ได้ ว่าไม่เกี่ยวกันเพราะวันที่นายทักษิณเดินทางกลับคือวันเดียวกับที่โหวตเลือกนายก น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ใช่ความเชื่อมโยงทางการเมืองใดๆเลย เพราะก่อนหน้านั้น คุณพ่ออยากจะกลับมาวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งตรงกับวันหยุดจึงเปลี่ยนวัน และตนก็ยังช่วยดูปฏิทินว่าวันไหนฤกษ์ดี จนมาได้วันที่ 10 สิงหาคม ตามที่ประกาศไปตอนแรก แต่ปรากฏว่าการเดินทางไปตรวจสุขภาพไม่ได้อยู่ในประเทศเดียวกัน และพบว่ามีค่าสุขภาพบางตัวที่ผิดปกติ จึงต้อง Follow up จากนั้นจึงต้องหาฤกษ์ดีวันใหม่ ก็มาได้วันที่ 22 สิงหาคม และทางครอบครัวก็รู้ ก่อนที่จะมีการประกาศวันโหวตนายกฯด้วย เพราะตนคิดว่าการโหวตเรื่องนายกรัฐมนตรี จะเป็นวันที่ 18 สิงหาคมด้วยซ้ำ


พร้อมยอมรับว่าการกลับบ้านมาต้องดูฤกษ์ดูยาม เพราะทุกคนอยากให้เป็นวันที่ดี แต่หลังจากนี้ยืนยันว่าไม่มีการเลื่อนกลับอีกแล้ว 22 สิงหาคมแน่นอน

เมื่อถามว่าดีลกับผู้มีอำนาจจบแล้วใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวยืนยันว่า "ไม่ได้ดีลกับใครเลยค่ะ" และเมื่อกลับมาถึงสนามบินดอนเมือง ด้วยเคลื่อนบินส่วนตัว ในเวลา 09.00 น. โดยมีครอบครัว​ไปรับ จากนั้นคงเดินทางไปที่ศาลทันทีจะไม่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ส่วนขั้นตอนหลังจากนั้นเพราะตนไม่ได้แม่นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม

เมื่อถามว่าทางครอบครัวได้มีการดำเนินการขอพระราชทาน​อภัยโทษไว้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่าต้องถามคุณพ่อก่อนว่า จะดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะทางครอบครัวเคารพการตัดสินใจของคุณพ่อ เดี๋ยวก็คงจะทราบกัน แต่ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว

เมื่อถามว่าทั้งครอบครัวได้ประเมินเรื่องของจำนวนปี ที่ตอนนี้มีการคำนวณแล้วว่าต้องติดคุกประมาณ 5 ปี น.ส.แพทองธาร เรื่องคดีขอยังไม่พูดถึง เดี๋ยวจะมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อน แต่ก็ยืนยันว่าจะดูอย่างละเอียด

เมื่อถามว่าตอนนี้สุขภาพของนายทักษิณ ดีใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นายทักษิณ ตรวจสุขภาพทุกปี แต่บางครั้งอาจจะมีปัญหาบ้าง ดังนั้นก็ต้องคอยติดตามอยากต่อเนื่อง เพราะตอนนี้คุณพ่ออายุ 74 ปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาก็แข็งแรง ระหว่างอยู่ต่างประเทศก็มีการผ่าตัดบ้าง

น.ส.แพทองธาร ยังให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี วันที่ 22 ส.ค.นี้ ว่าพรรคเพื่อไทยพยายามเต็มที่ และมีมติเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมีความมั่นใจ และอยากตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด เพื่อให้เพื่อไทยเป็นรัฐบาล และนำนโยบายของพรรคไปแก้ปัญหาให้ประชาชน

เมื่อถามต่อว่าหากนายเศรษฐา ไม่ผ่านในการโหวตเลือกครั้งนี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อยากให้โฟกัสที่นายเศรษฐาก่อน ยังไม่ต้องโฟกัสที่ตนเอง เพราะหากโฟกัสหลายจุดก็จะไม่มั่นคง ย้ำว่าเราทำเต็มที่ในการเสนอชื่อนายเศรษฐา หวังว่าจะสำเร็จและตั้งรัฐบาลให้ประชาชนได้ และหวังว่าจะม้วนเดียวจบ

เมื่อถามถึงกระแสดรามาที่แกนนำพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็น น.ส.แพทองธาร นายเศรษฐา หรือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เคยประกาศในช่วงหาเสียงว่าจะไม่จับมือกับพรรค 2 ลุง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนั้นเขาบอกว่าเราไม่มีความชัดเจนในการหาเสียง ซึ่งเราพยายามทำโพลล์ทุกอย่างเพื่อให้แลนด์สไลด์ แต่เราแลนด์สไลด์ไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้นรัฐธรรมนูญปี 60 ยังมีเรื่องของสว.อยู่ ซึ่งที่ผ่านมาเราเคยชนะเป็นที่ 1 แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เราจึงทราบดีโอกาสการจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จเกิดขึ้นได้ และบางคนมีการแสดงที่ชัดเจนและไม่ชัดเจน แต่เราก็แสดงความตั้งใจ แต่วันนี้เมื่อไม่เป็นแบบที่เราคิดไม่เป็นไปตามที่เราแพลนไว้ เราจึงต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้ประเทศไปต่อ ซึ่งแน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยมีต้นทุนที่ต้องจ่าย นั่นคือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน เราขอน้อมรับและขอโทษที่ทำให้หลายคนผิดหวังและเสียใจ แต่ถ้าเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วจะทำเต็มที่ เพื่อแก้ปัญหาประชาชนที่มีอยู่มากมาย และจะก้าวข้ามผ่านสนามอารมณ์นี้ให้ได้ โดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง

เมื่อถามถึงข้อครหาของนายเศรษฐาได้มีการเตรียมแผนสำรองไว้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราเช็คตามกฎหมายทุกอย่าง หากฟังจากคนที่ออกมาพูดว่ามีความผิด แต่ก็ไม่มีหลักฐานแล้วไม่มี ขณะที่นายเศรษฐาได้นำหลักฐานออกมาชี้แจงแล้วซึ่งก็มีความชัดเจน ซึ่งบริษัทของนายเศรษฐาก็อยู่ในตลาดหลักทรัพย์และสามารถตรวจสอบได้ ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ตนจึงอยากให้พิจารณาจากข้อมูลเป็นตัวสำคัญก่อนตัดสินใจ

เมื่อถามว่าสนใจตำแหน่งในครม.หรือไม่ หลังมีชื่อปรากฎอยู่ในโผ น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ตอนนี้ตนเน้นทำงานพรรค แต่ตามที่ปรากฎในสื่อก็มอบตำแหน่งให้หลายตำแหน่ง ก็ขอบพระคุณมากทั้งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและตำแหน่งรัฐมนตรี ก็รู้สึกดีใจมาก

เมื่อย้อนถามกลับไปถึงเรื่องนายทักษิณยอมรับหรือไม่ หากการเดินทางกลับของคุณพ่อจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและรับโทษ น.ส.แพทองธาร ย้ำว่า พร้อมยอมรับ เพราะเป็นการตัดสินใจของคุณพ่อ ถ้าคุณพ่อยอมรับได้ครอบครัวก็ซัพพอร์ตเต็มที่.

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส