“สุเทพ”เผย วันนี้ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ชัดเจนแล้ว ยันไม่เคยทุจริต เตรียมปรึกษาทีมกฎหมายฟ้อง ป.ป.ช.
วันนี้ (22 ส.ค.66) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ภายหลังฟังคำพิพากษาจากศาลฎีกา ว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองในขั้นอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาว่า ตนและจำเลยคนอื่นๆที่ถูกคณะกรรการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฟ้อง ไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหา ถือว่าคดีนี้สิ้นสุด ใครที่เคยกล่าวหาสงสัยตนมาเป็น 10 ปี วันนี้ก็ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์อย่างชัดเจนแล้ว ตนขอใช้โอกาสนี้กราบขอบคุณพี่น้องประชาชน ผู้ที่หวังดีทั้งหลาย คนที่เคารพนับถือที่ให้ความเชื่อมั่นในตัวตนมาโดยตลอด และได้ให้กำลังใจ และที่มาให้กำลังใจที่นี่ในวันนี้ ตนขอกราบขอบคุณและซาบซึ้งในน้ำใจ
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า มีความภาคภูมิใจในชีวิตที่เป็นนักการเมือง ไม่เคยทำทุจริต ไม่เคยทำการคอรัปชั่นใดๆแม้จะถูกรุมใส่ร้าย ด้วยความตั้งใจที่จะเล่นงานตนเอง ท้ายที่สุดกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ก็ได้ให้ความเป็นธรรมกับตน สมกับที่ตนเคารพในหลักการของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เคารพในศาลยุติธรรม
ตนจึงคิดว่ากรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ที่ผู้ใช้อำนาจทั้งหลาย ควรจะต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง คนที่ควรจะต้องรับผิดชอบอย่างยิ่งวันนี้คือคณะกรรมการป.ป.ช.ซึ่งดูข้อเท็จจริงดีทุกอย่าง แต่ก็ยังดำเนินคดีกับตน ทั้งที่ศาลฎีกา แถลงคดีอาญา ตัดสินแล้วว่าตนไม่มีความผิดก็ยังยื่นอุทธรณ์อีก จึงอยากให้ทาง ป.ป.ช.พิจารณาตนเองสร้างความเสียหายให้กับตน ทำให้ตนเดือดร้อนมาเป็น 10 ปี เสียชื่อเสียงไม่รู้เท่าไหร่
เมื่อถามว่ามองไปถึงขั้นตอนการฟ้องร้องหรือเรียกร้องให้เกิดการเยียวยาในความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าเยียวยาหรือไม่ตนไม่สนใจ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะไปเรียกร้อง แต่จะปรึกษากับที่ปรึกษากฎหมาย ถ้ามีช่องทางที่จะทำให้ดำเนินคดีกับป.ป.ช.ได้จะดำเนินคดี ไม่ใช่ความโกรธเคืองแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าหลังจากนี้ถูกทาบทามจะหวนคืนสู่เส้นทางหนึ่งทางการเมืองหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า "ไม่ครับ เมื่อตัดสินใจ ออกจากสส.มาเดินนำขบวน ตนก็ได้ประกาศกับพี่น้องประชาชนแล้ว ตนไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเองตนทำเพื่อชาติบ้านเมือง เพราะฉะนั้นไม่เอาชื่อเสียงความสำเร็จและผลพลอยได้โอนมาเป็นคะแนนเสียงของตัวเองในทางการเมือง ขนาดตนประกาศอย่างนี้และเลือกได้มา 2 ครั้งก็ยังมีคนมาด่าตนอยู่ทุกวัน แต่ก็ต้องอดทนพี่น้องประชาชนที่สนใจการเมืองหรือนักการเมืองดีๆก็ดูกรณีของตนและบอกตัวเองว่าให้อดทนดีที่สุด"
เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นนักการเมืองมาอย่างยาวนานมีอะไรฝากถึงนักการเมืองที่ยังคงติดอยู่ในวังวนเกมการเมืองหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ผมเรียนได้อย่างเดียวว่าพระพุทธเจ้าสอนเรื่องสัมมาทิฏฐิ เพราะฉะนั้นการมาเป็นนักการเมืองต้องปฏิบัติตามหลักสัมมาทิฏฐิ คือต้องมีความคิดความเห็นที่ถูกต้อง มาทำงานการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ.