พระอุปัชฌาย์ "สารวัตรแบงค์" เผย ญาตินำอัฐิไว้วัดครบ 100 วัน ก่อนลอยอังคาร

17 ก.ย. 66

พระอุปัชฌาย์ "สารวัตรแบงค์" เผย ญาตินำอัฐิไว้วัดครบ 100 วัน ทำบุญอุทิศส่วนกุศล ก่อนลอยอังคารลงสู่แม่น้ำโขง ตามความเชื่อ

กรณี พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงค์ หรือเพื่อนตำรวจจะเรียกว่าสารวัตรศิว อายุ 32 ปี นายตำรวจประจำสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ถูกนายธนัญชัย หมั่นมากหรือหน่อง ท่าผา ลูกน้องคนสนิทของกำนันนก นายประวีณ จันทร์คล้าย กำนัน ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ใช้อาวุธปืนยิง 7 นัดซ้อนจนเสียชีวิต กลางงานเลี้ยงที่บ้านของกำนันนก เหตุเกิดเวลาประมาณ 4 ทุ่มของวันที่ 6 กันยายน 2566 จนกลายเป็นข่าวเขย่าวงการตำรวจที่ประชาชนจำนวนมากจับตามอง โดยร่างของสารวัตรแบงค์พระราชทานเพลิงศพไปแล้ว ที่วัดพระมหาธาตุ บางเขน กทม. เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติๆและเพื่อนตำรวจทุกเหล่าที่มาร่วมส่งวิญญาณ

ทั้งนี้ สารวัตรแบงค์ บ้านเกิดอยู่ที่ จ.นครพนม โดยมารดาคือนางทัศนัย สายบัว เป็นชาวชุมชนวัดกกต้อง เขตเทศบาลเมืองนครพนม และเพื่อความกระจ่างชัด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดสว่างสุวรรณาราม ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงแผ่นดิน 212 (นครพนม-บ้านแพง) ชุมชนวัดสว่างฯ หน้าสวนหลวง ร.9 เขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งเป็นชุมชนติดกันกับชุมชนวัดกกต้อง พบกับพระราชสิริวัฒน์ หรือเจ้าคุณเพชร เจ้าคณะจังหวัดนครพนม ฝ่ายมหานิกาย และเป็นเจ้าอาวาสวัดสว่างฯ

โดยเจ้าคุณเพชรได้เปิดเผยรายละเอียดว่า นางทัศนัย สายบัว มารดาของสารวัตรแบงค์ เดิมมีนามสกุลอินธิโส เป็นเพื่อนท่านสมัยเรียนหนังสือด้วยกัน ต่อมาเมื่อเติบใหญ่ต่างคนก็ไปตามวิถีของแต่ละคน ท่านได้บวชเรียนในร่มผ้ากาสาวพัสตร์ จำพรรษาอยู่วัดสว่างฯ ขณะที่นางทัศนัยได้แต่งงานมีลูกคนโตเป็นชายคือสารวัตร ตามประเพณีความเชื่อของคนอีสาน ถ้าได้ลูกคนโตเป็นชายก็จะต้องเอามาฝากเป็นลูกหลวงพ่อที่วัด เพื่อใช้หลักธรรมคำสอนพระพุทธองค์ ชโลมจิตใจให้เป็นคนมีเมตตา กรุณา ปรานี และมีจิตใจโอบอ้อมอารีย์ต่อเพื่อนมนุษย์

เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เล่าต่อว่าสารวัตรแบงค์เรียนชั้นอนุบาล 1-3 ที่โรงเรียนเทศบาล 1 จากนั้นครอบครัวก็ได้ย้ายไปอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ด้วยความผูกพันระหว่างปิดเทอม สารวัตรแบงค์จะเดินทางมาหาคุณยายทวดที่นครพนมประจำ และจะมาอยู่ที่วัดสว่างฯเป็นเด็กวัดเดินตามหลังหลวงพ่อเสมอ กระทั่งสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยได้ ก็ไปๆมาๆหาท่านเจ้าคุณมิได้ขาด และเมื่ออายุครบบวชได้อุปสมบทบวชเป็นพระ โดยมีท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ กระทั่งลาสิกขาไปรับราชการเป็นนายตำรวจดังกล่าว

เมื่อสอบถามถึงอุปนิสัยของสารวัตรแบงค์ เจ้าคุณเพชรเล่าว่าเขาเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน เพื่อนนักเรียนสมัยอยู่ชั้นอนุบาลด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่ฐานะใด เขาจะคลุกคลีตีโมงโดยไม่มีการแบ่งแยก จึงเป็นที่รักของทุกๆคน แต่เมื่อถามถึงเวรกรรมท่านเจ้าคุณเพชร บอกว่าถือเป็นกรรมเก่าแต่ชาติปางก่อน ที่มามีผลในชาตินี้ แม้ชาตินี้เขาไม่ได้สร้างเวรกรรมกับใครก็ตาม

"สารวัตรแบงค์เป็นคนตรงไปตรงมา มีจิตใจเมตตา ชอบทำบุญสุนทาน เป็นผลมาจากทางครอบครัวที่ชอบเข้าวัดทำบุญกันทั้งครอบครัว เรื่องทำบุญนี่ไม่มีใครขัด และไม่เลือกว่าต้องเป็นวันไหน วันเกิดเหตุคุณแม่เขาโทรมาหากลางดึก เราก็ไม่ได้เปิดเครื่องทิ้งไว้ จนรุ่งเช้าจึงสงสัยทำไมโทรมากลางดึกเช่นนี้ ขณะเดียวกันมีลูกศิษย์มาบอกว่าสารวัตรแบงค์ถูกยิง เท็จจริงอย่างไรโทรถามคุณแม่เขาดู ทีแรกแม่เขาก็ไม่กล้าเล่าจนโทรมาหาเป็นครั้งที่ 3 จึงยอมบอกรู้ว่าสารวัตรแบงค์ถูกยิงตาย"

นอกจากนี้ท่านเจ้าคุณเพชร เปิดเผยเพิ่มเติมว่าทางครอบครัว มีความเห็นจะนำอัฐิสารวัตรแบงค์มาลอยอังคารที่บ้านเกิดนครพนม แต่ตอนนี้อัฐิยังอยู่กับครอบครัวที่กรุงเทพฯ ตอนนี้ทางครอบครัวยังทำใจไม่ได้ในการสูญเสีย ให้คุณแม่เขาเลือกฤกษ์สะดวกก็จะนำมาไว้ที่กุฏิท่าน พอครบ 100 วันทำบุญอุทิศส่วนกุศลเสร็จ ก็จะนำไปลอยอังคารตามความเชื่อ ว่า มนุษย์เมื่อสิ้นอายุขัย ก็จะต้องกลับลงสู่ดินและแม่น้ำ

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส