สันธนะ ฟาดจันทร์นี้มีอะไรให้ติดตามอีกเยอะ ลั่นอย่าให้ได้ยินเข้าหูว่ามีการซื้อขายตำแหน่งผบ.ตร.เดี๋ยวจะได้เจอตนแฉภาค 2 แน่
วันนี้ 28 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ถึงประเด็นการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ เมื่อวานนี้
นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล กล่าวว่า กรณีที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. โดยในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ก็ต้องการเลือกตัว ผบ.ตร.อยู่แล้ว ตนเองก็ได้ทำหนังสือเป็นข้อเสนอแนะเท่านั้น ส่วนที่เมื่อวานนี้ตอนแรกมีข่าวออกมาว่าเลื่อนแต่ตั้ง แล้วอยู่ๆก็มีการแต่งตั้งนั้นตนเองมองว่าแคนดิเดตนั้นมีหลายคนและทุกคนก็มีความเหมาะสม และเมื่อวานนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ก็เป็นคนเสนอชื่อพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.และคณะกรรมการก็เห็นชอบ โดยมีกฎหมายรองรับก็ถือว่าเสร็จสิ้นสมบูรณ์ดี
เมื่อวานนี้มีออกมา 2 วาระ วาระแรก คือการตั้ง พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รักษาราชการแทนในช่วงต้นของการประชุม ซึ่งใช้เวลาประชุมนานพอสมควร เพื่อหาข้อสรุป แต่เมื่อวานหลังจากการประชุมสัก 1-2 ชั่วโมง สุดท้ายหลังจากนั้นก็มีสัญญาณลอยมาจากใครบางคน คือคำพูดว่า "ให้จบในวันนี้" ถึงมีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ซึ่งก็ถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายในการแต่งตั้งและปรากฏตัว ผบ.ตร.ตามที่เป็นข่าว
นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล กล่าวว่าทุกวันนี้สังคมต้องยอมรับแล้วว่าตำแหน่ง ผบ.ตร.เป็นตำแหน่งทางการเมืองจะเป็นการเมืองในทำเนียบหรือนอกทำเนียบ ซึ่งวันนี้ก็เห็นชัดเจนแล้วเพราะการนำเสนอโดยฝ่ายการเมือง คือนายกรัฐมนตรี เป็นอำนาจตัดสินใจ ซึ่งตนเองอยากฝากไว้ให้รอติดตามชมกันว่าผู้ที่เสนอชื่อและผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ และการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมนั้นต้องติดตามกันต่อไป หากผิดพลาดหรือปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่เหมาะสมผู้ที่เสนอคือนายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนรับผิดชอบต่อสังคม และประชาชนกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล กล่าวว่าต้องติดตามดูวันที่ 1 ตุลาคม 2566 นี้ว่าจะมีการมอบหมายหน้าที่ให้กับรอง ผบ.ตร.ที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ เพราะยังไม่ได้มีการพิจารณาตำแหน่งอื่น นอกเหนือจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีอีกหลายท่านที่จะเกษียณอายุราชการ และยังไม่ได้มีการพิจารณาตัวบุคคล แต่งานนั้นรอไม่ได้ ซึ่งต้องรอดูว่า ผบ.ตร.คนใหม่นั้นจะมอบหมายหน้าที่อย่างไร วันที่ 1-2 นี้ เดี๋ยวประชาชนจะได้รู้กัน ทั้งนี้ทั้งนั้ ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของ ผบ.ตร.คนใหม่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป
นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล กล่าวว่า ขณะนี้เป็นคดีแล้ว ซึ่งอาจจะยังไม่ได้ถึงตัวบิ๊กโจ๊ก แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาใต้การปกครองของบิ๊กโจ๊กตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งก็ต้องรอดูนโยบายของ ผบ.ตร.คนใหม่ ในวันที่ 1 ตุลาคม ว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหน้าที่ หรือโยกย้าย หรือปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งเดิม ก็สุดแล้วแต่ตัวของ ผบ.ตร.ซึ่งความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งตอนนี้มีตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ 2 ตำแหน่ง นี้ ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการ และในวันที่ 2 ตุลาคมก็จะไม่มี 2 ตำแหน่งนี้ ซึ่งต้องจับตาดูว่าจะมีคำสั่งอะไรหรือไม่หรือพิจารณาโยกย้ายใคร ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มาดำรงตำแหน่งที่ว่างอยู่ ซึ่งตนเองถือว่าเป็นเรื่องทางการเมือง
ตนเองอยากฝากให้จับตาดูว่าช่วง 2-3 วันนี้ถ้าผลประโยชน์พูดคุยกันได้ลงตัวในเรื่องตำแหน่งหน้าที่ หากเคลียร์กันจบสงครามก็จะได้ไม่เกิด หากไม่เคลียร์ให้จบปัญหาก็จะคาอยู่แบบนี้ แต่ละฝ่ายก็ออกมาพูดว่าจะเอากันให้ตายไปข้างหนึ่ง ซึ่งตนมองว่าเป็นแค่ต้องการอำนาจในการต่อรองทางการเมืองเท่านั้น ยอมรับว่าตนเองก็อยากเห็นความจริงว่าใครนั้นกลั่นแกล้งใครหรือใครอยู่เบื้องหลัง
ยอมรับว่าที่ตนออกไปแนะนำการแต่งตั้ง ผบ.ตร.นั้นเป็นภาค 1 ซึ่งตอนนี้ก็มีการเคาะแล้วและจบแล้ว แต่อย่าให้ได้ยินเข้าหูมาว่ามีการซื้อขายตำแหน่งกัน ตนเองพร้อมที่จะออกไปทำภาค 2 ต่อ ซึ่งตนเองไม่มีส่วนได้เสียกับใคร ส่วนภาค 2 นั้นก็จะต้องรอติดตามกันต่อไป โดยวันจันทร์นี้ก็จะได้เห็นความชัดเจนว่าจะเป็นไปทิศทางไหน
นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล กล่าวว่าตนเองอยากรอดูวันจันทร์นี้ก่อน อยากให้ทาง ผบ.ตร.คนใหม่พูดออกมาก่อน และสิ่งที่เขาพูดนั้นจะผูกมัดตัวเขาเอง ยังไม่อยากพูดกดดันเขา
ส่วนกรณีที่ผบ.ตร.คนใหม่นั้นลงพื้นที่แถลงข่าวจับกุมยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เป็นนโยบายที่ต้องทำอยู่แล้ว อาจจะมีการวางแผนการเพื่อต้อนรับ ผบ.ตร.คนใหม่ก็เป็นได้ ซึ่งตนเองมองว่าก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่อยากจะให้ปราบปรามในสิ่งที่สำคัญ 2 เรื่อง นั่นก็คือปัญหายาเสพติดและเรื่องประเด็นพนันออนไลน์ ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งผลประโยชน์มหาศาล เพราะทุกวันนี้ตำรวจไม่มาหากินกับการพนันข้างทางแล้วหากินกันแบบนี้
โดยรอง ผบ.ตร.พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ก็พูดขึ้นมาเองว่า "โอ๊ยเงินแค่นี้ ผมจะรับทำไม" ถ้าเป็นเกี่ยวข้องกับเว็บพนันผมไม่เอาแค่นี้นั่นหมายความว่าก็รู้อยู่แล้วว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์กัน ทีละเป็น 10 ล้าน 100ล้าน ซึ่งยอมรับออกมาเองจากปาก ตนเองถึงบอกว่าเดี๋ยวน่าจะมีอะไรให้ติดตามกันอีกมากมายอย่างแน่นอน.