2 มิจฉาชีพ ทำทีเอามือถือมาซ่อม แต่กลับฉกโมเดลโทรศัพท์รุ่นท็อปไป

8 พ.ย. 66

 

2 มิจฉาชีพ ทำทีเอามือถือตัวเองมาซ่อม ก่อนเลือกฉกโทรศัพท์รุ่นท็อปวางโชว์หน้าตู้ แต่ที่ไหนได้ ดันเอาตัวโมเดลไป วงจรปิดจับภาพชัดเจน   

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “ช่างคิงส์ชลบุรี” โพสต์รูปภาพชายหญิงคู่หนึ่งเข้ามาใช้บริการภายในร้าน พร้อมกับข้อความระบุว่า “ขออนุญาตนะครับ มีลูกค้าสองคนนี้เข้ามาในร้าน ทำทีมาถามราคาซ่อมหน้าจอแล้วได้หยิบเครื่องตัวโชว์ที่ร้านไปด้วย ช่วงนี้ต้องระวังกันให้มากๆ นะครับ” 

หลังจากโพสต์นี้เผยแพร่ออกไปต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อพฤติกรรมของชายหญิงคู่นี้เป็นจำนวนจำนวนมาก 

ต่อมาวันที่ 8 พ.ย. 66 นายโกเมศ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี เจ้าของร้านและเป็นผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะนั้นมีลูกค้าเป็นชายหนึ่งคนหญิงหนึ่งคนเข้ามาที่ร้าน แจ้งกับตนว่าสอบถามเรื่องการซ่อมหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ตนเองได้ตรวจสอบอะไหล่รุ่นมือถือที่ชายหญิงคู่นี้ต้องการซ่อมให้ หลังจากนั้นจึงแจ้งราคาให้ทราบ แต่ทั้งสองบอกว่ายังไม่ซ่อม ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกจากร้าน และขี่รถจักรยานยนต์ขับออกไป แต่หลังจากนั้นไม่นาน ตนได้ทำการตรวจสอบความเรียบร้อยของร้านปรากฏว่า โมเดล หรือเครื่องโชว์โทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งเป็นของสำหรับตั้งโชว์ได้หายไป จึงทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า เป็นชายที่สวมใส่เสื้อยืดสีเข้ม กางเกงขาสั้น ที่มาพร้อมกับหญิงสาวรูปร่างท้วม ใส่เสื้อสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้น ที่เข้ามาติดต่อสอบถามเรื่องซ่อมหน้าจอโทรศัพท์มือถือกับตน โดยฝ่ายผู้ชายเป็นคนหยิบเอาโมเดลโทรศัพท์มือถือที่ตั้งโชว์เอาไว้ใส่กระเป๋าที่นำติดตัวสะพายมาด้วยไป จากการสังเกตพฤติกรรมของทั้งคู่ฝ่ายผู้หญิงจะเป็นคนชวนพูดคุยลักษณะเบี่ยงเบนความสนใจ ยืนบังทำให้ตนมองไม่เห็น ส่วนฝ่ายผู้ชายก็ได้เดินสำรวจโทรศัพท์มือถือที่วางโชว์เอาไว้บนเคาน์เตอร์ จากนั้นก็ลงมือก่อเหตุ 

พอหลังก่อเหตุเป็นที่เรียบร้อยก็แจ้งกับตนว่ายังไม่พร้อมที่จะซ่อม สำหรับโทรศัพท์มือถือที่ได้ไปเป็นของปลอมที่ทางร้านตั้งโชว์ให้ลูกค้าลองจับดูมีขนาดเท่าของจริง คาดว่าผู้ก่อเหตุคิดว่าเป็นโทรศัพท์มือถือของจริงเลยหยิบติดมือไป 

ด้าน น.ส.อุบล (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของร้านและเป็นผู้เสียหาย อายุ 42 ปี เปิดเผยว่า รุ่นที่ถูกขโมยไปเป็นโมเดลโทรศัพท์ ยี่ห้อ Oppo ถ้าเป็นของจริงจะมีราคาอยู่ที่16,900 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูง เพราะเป็นตัวท็อป คนร้ายคงคิดว่าเป็นของจริงจึงหยิบไป แต่ถึงอย่างไรตนเองก็ได้ให้โอกาสนำเอามาคืน แต่ผ่านมาแล้วหลายวัน ยังไม่มีใครนำเอามาคืน จึงได้ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.พนัสนิคม เพื่อเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ แล้วอยากให้ทั้งคู่ได้หยุดพฤติกรรมเช่นนี้ ถ้าถูกจับได้จะทำให้เสียอนาคต ส่วนเรื่องคดีความก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส