จนท.เร่งหาส่วนหัว หนุ่มถูก ฟันคอขาด แต่ หัวหายปริศนา เชื่อปม บูชายัญ อดีตเมียยันผู้ตายไม่มีอริ แค่ขี้เมา เรื่องชู้สาวไม่มี ยังงง ใครเป็นคนทำ
ความคืบหน้าเหตุการณ์สยองที่หมู่บ้านบนไร่ หมู่ 1 ต.ตะเคียนทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี หลังเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 พบศพ นายเสงี่ยม เป็นรัมย์ อายุ 53 ปี ในลักษณะนั่งคุกเข่า ร่างฟุบคว่ำหน้าอยู่ที่หน้าบ้านกลางสวนยางพารา บริเวณลำคอถูกของมีคมฟันจนขาด เลือดสาดนอง แต่ที่น่าตกใจคือเจ้าหน้าที่ไม่พบศีรษะของผู้ตาย และเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว “นายกุ้ง” มาสอบปากคำ เนื่องจากมีพฤติกรรมแปลก ชอบขุดหลุมหาสมบัติและทำพิธีบูชายัน แต่เจ้าตัวยังคงปฎิเสธ
คืบหน้าวันนี้ 13 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ก็ได้ประชุมหารือร่วมกับผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยเพื่อวางแผนการออกตามหาศีรษะของ นายเสงี่ยม รวมถึงหลักฐานมัดตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งตอนนี้มีผู้ต้องสงสัยแค่ 1 ราย นั่นคือ “นายกุ้ง” จุดแรกที่เจ้าหน้าที่เข้าไปดูวันนี้ในเวลา 11.00 น. คือบริเวณบ้านร้างในหมู่บ้านจัดสรร หลังเมื่อวานนี้ทีมข่าวและผู้ใหญ่บ้านไปพบของสำหรับทำพิธีบูชายัน ส่วนจุดอื่นที่ค้นหาศีรษะนั้น ต้องรอการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมให้แน่ชัดก่อน เพราะฝนตกหนัก ยังไม่สามารถใช้วิธีการเดินตระเวนได้
ขณะที่ นางพันทิพย์ อ่อนพร้อม อายุ 51 ปี อดีตภรรยาของผู้ตาย เจ้าตัวบอกว่าตั้งแต่เลิกรากันไป 2-3 ปี ก็ไม่ได้สุงสิงอะไรกันเลย ต่างคนต่างอยู่ เพราะตนก็มีสามีใหม่เป็นชายสูงวัยอายุประมาณ 70 กว่าปี ส่วนผู้ตายก็เข้าไปอยู่ในบ้านที่พบศพ ซึ่งเป็นบ้านของญาติตน ดังนั้นที่ผ่านมาตลอด 2-3 ปี ตนไม่รู้เลยว่าเขาไปมีปัญหาอะไรกับใครบ้าง แต่ช่วงที่ยังเป็นสามีภรรยากัน ยืนยันว่าเขาไม่มีอริที่ไหน แม้ว่าจะชอบดื่มเหล้า แต่ก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร มีเพียงแค่ทะเลาะกับตนที่จะทะเลาะกันบ่อย เพราะตนไม่ชอบคนเมา ก็เลยมีการทุบตีทำร้ายร่างกายกันบ้าง ซึ่งนี่เป็นสาเหตุหลักที่เลิกรากันในตอนนั้น
ส่วนกับผู้ต้องสงสัยอย่าง “นายกุ้ง” ตนก็ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว เคยเห็นแค่ผ่านๆเพราะเขาเป็นชาวบ้านในชุมชนเดียวกัน แต่ไม่เคยเห็นพฤติกรรมแปลกๆตามที่เขาร่ำลือกัน
และถ้าถามในมุมของชู้สาวหรือความหึงหวง ตนยืนยันเลยว่าไม่มี เพราะสามีใหม่ตนก็อายุเยอะ แล้วผู้ตายเองเขาก็ไม่ได้มาสุงสิงนานแล้ว อาจจะมีแค่เมื่อกันยายน 2566 ผู้ตายมาพังแคร่ไม้ที่บ้านเพราะเขาเมาแล้วพยายามจะเอาแคร่ขึ้นไปบ้านอีกหลังที่เขาอยู่ปัจจุบัน แต่เอาขึ้นไปไม่ได้ คาดว่าคงหงุดหงิด ตนก็เลยไปดุด่าครั้งนึง แล้วก็ไม่เจอกันอีกเลย
กับเหตุการณ์ครั้งนี้ยอมรับว่าช็อกมาก แม้ว่าปัจจุบันจะไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้วแต่ก็สงสาร ไม่อยากให้เกิดเรื่องสลดแบบนี้ขึ้น เพราะอย่างน้อยๆก็มีลูกด้วยกัน ตอนนี้สภาพจิตใจคนที่แย่ที่สุดก็คือลูกชายวัย 18 ปี ส่วนญาติของผู้ตายที่อยู่ จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นทราบว่ากำลังเดินทางลงมาเพื่อพูดคุยกันเรื่องจัดงานศพ ซึ่งตนในฐานะอดีตภรรยา กับลูกชายก็จะให้การช่วยเหลือการจัดงานศพอย่างเต็มที่