9 วันแล้วยังไร้เบาะแสสาว อบต. หายตัวปริศนา

9 วันแล้วยังไร้ เบาะแส หรือร่องรอย สาว อบต. หายตัวปริศนา ขณะที่อดีตสามีออกมาแจงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องพร้อมยืนยันความบริสุทธิ์

ความคืบหน้ากรณี นส.กวินนา บุุณเมศวร์ หรือ ฝน อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ ได้หายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดย ทางนายก อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ได้แจ้งความที่ สภ.บ้านนาสาร เมื่อวันที่ 15 พ.ย.และนายประสิทธิพร พัฒน์มาก อดีตสามีของ นส.กวินนา ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ขุนทะเล เมื่อวันที่ 15 พ.ย.เช่นกัน

ก่อนหน้านี้ พฐ.8 ได้ลงพื้นที่ไปตรวจเก็บวัตถุพยานหลักฐานและสิ่งแวดล้อมทางนิติวิทยาศาสตร์ที่บ้าน ในหมู่บ้านเหมืองทวด ม.1 ต.เพิ่มพูนทรัพย์ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านที่ น.ส.กวินณา และนายประสิทธิพร อดีตสามี พักอาศัยอยู่ ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวห่างจากอาคารสำนักงาน อบต.เพิ่มพูนทรัพย์มาประมาณ 300 เมตร

ซึ่งการจัดเก็บวัตถุพยานทั้งภายในบ้านและรถยนต์ทั้ง 2 คัน ในเบื้องต้นยังไม่พบข้อบ่งชี้ว่าจะเกิดเหตุร้ายกับตัวผู้สูญหาย นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ไล่เก็บกล้องวงจรปิดตามที่นายประสิทธิพร อดีตสามีที่ได้ให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนว่า ในคืนวันที่ 13 พ.ย.ตนได้ขับรถกระบะสีแดงไปส่ง อดีตภรรยาที่ ซอย3 ข้างมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ โดยระบุว่ามีผู้หญิง 2 คนขับรถเก๋งมารับไป หลังจากนั้นตนก็รีบขับรถกลับบ้าน โดยอ้างว่าเป็นห่วงลูก ทั้ง 2 คนที่นอนอยู่ในบ้าน และในช่วงเย็นวันที่ 14 ไม่สามารถติดต่อกับอดีตภรรยาได้ วันที่ 15 พ.ย.จึงไปแจ้งความที่ สภ.ขุนทะเล แต่จนถึงวันนี้อดีตภรรยาได้หายตัวไปอย่างปริศนาเป็นเวลา 9 วัน โดยการสืบสวนหรือการค้นหายังคงไร้เบาะแส

ล่าสุดเช้าวันนี้ 22 พ.ย.พันตำรวจเอกวิทย์ทวี ภริตานนท์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรบ้านนาสาร ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและคณะทำงานชุดค้นหาตัว พร้อมนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านพักของทั้งคู่อีกครั้งพร้อมกับตรวจสอบขุมเหมือง(สระน้ำ)ขนาดใหญ่ใกล้กับบ้านพักเพื่อหาร่องรอยหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงการหายตัว แต่การค้นหายังไม่พบเบาะแส

ในขณะที่นาย ประสิทธิพร อดีตสามีเปิดเผยว่าตนกับอดีตภรรยาได้เลิกหย่าร้างกันมากว่า 1 ปี โดยยังอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่แยกห้องนอน ซึ่งการหย่ากันก็ไม่มีเหตุรุนแรง ซึ่งในคืนวันที่ 13 พ.ย.ตนได้ขับรถยนต์ไปส่งอดีตภรรยา บริเวณราชภัฎสุราษฎร์ธานี พื้นที่ตำบลขุนทะเลจริง หลังจากส่งแล้วตนก็ขับรถรีบกลับมาบ้าน และในวันที่ 14 ช่วงเย็นก็ติดต่ออดีตภรรยาไม่ได้ จึงเข้าไปแจ้งความ ซึ่งตนขอยืนยันในความบริสุทธิ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของอดีตภรรยา พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าที่ตำรวจในตรวจสอบและหาข้อเท็จจริง และไม่เหตุอะไรที่ตนจะก่อเหตุทำร้ายอดีตภรรยา จากเหตุหรือปมการหึงหวงอย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้การฯสุราษฎร์ธานี บอกว่า หลังจากรับแจ้งแล้วได้มีสอบปากคำ นายประสิทธิพร อดีตสามี ของน.ส.กวินนา แต่ไม่ยังสามารถบอกรายละเอียดได้ ซึ่งในเบื้องต้นทางตำรวจตั้งประเด็นการหายตัวของบุคคลดังกล่าวมาจากการขัดแย้งระหว่างบุคคลที่เกี่ยวพันกันทั้งคู่ และยังไม่มีเบาะแสร่องรอยที่จะชี้นำไปถึงตัวบุคคลที่หายตัวไป.