เหยื่อสาวหลายรายออกโรงแฉพฤติกรรมหมอดูชื่อดังใช้ความเชื่อความศรัทธาอนาจารและหลอกเงิน ด้าน เอกภพ วอนสังคมอย่าตำหนิเหยื่อ ควรให้กำลังใจที่กล้าเปิดโปง
ความคืบหน้ากรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย อายุ 30 ปี นักธุรกิจสาว เดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ กรณีที่ตนเองถูกหมอดูชื่อดังระดับประเทศ สำนักอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี หลอกลวงว่าตนถูกคุณไสยมนต์ดำ สามีกำลังจะมีเมียน้อย ต้องรีบแก้คุณไสย จนเสียตัวและเสียเงิน จำนวนกว่า 14 ล้านบาท
วันนี้ (28 พ.ย. 66) นายเอกภพ กล่าวว่าตนมองแล้วขอดูรายนี้ไม่น่าจะใช่หมอดู น่าจะเป็นภัยต่อสังคม ใช้ความเชื่อหลอกเหยื่อ ดังนั้นประเด็นนี้ไม่ควรต่อว่าเหยื่อ เพราะเรื่องความเชื่อไม่ได้เกี่ยวกับการศึกษา ไม่ว่าจะจบอะไรก็ถูกหลอกได้เหมือนกัน ซึ่งผู้เสียหายมีความเชื่อในเรื่องของการดูดวงและคุณไสยต่างๆ หมอดูคนดังกล่าวนี้นำความเชื่อของเหยื่อมาเป็นจุดอ่อนในการก่อเหตุ เราต้องให้กำลังใจเหยื่อ วันนี้เหยื่อออกมาพูดเพื่อปกป้องคนเป็นอีกจำนวนมากที่จะหลงกลเป็นเหยื่อ ล่าสุดมีผู้เสียหายติดต่อเข้ามาว่าลูกสาวเคยไปดูดวงกับหมอดูคนนี้ แต่มีไฝที่หน้าอกหมอดูแนะนำให้ถอดเสื้อเข้าไปแล้วไปทำอนาจารเด็ก หากใครเจอประเด็นนี้ ให้ไปแจ้งความเพื่อหยุดพฤติกรรมดังกล่าวนี้
สำหรับการเดินหน้าเอาผิดหมอดูรายนี้ ส่วนตัวไม่มีความกังวลแม้ว่าหมอดูรายดังกล่าวนี้ จะมีลูกศิษย์ลูกหาเป็นตำรวจ เชื่อว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย วันนี้เราต้องทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย หากลูกศิษย์มีการปกป้องก็จะต้องโดนด้วย เชื่อว่าทำเป็นกระบวนการอาจจะโดนฉ้อโกงประชาชน หากสอบสวนแล้วในวันพฤหัสบดีนี้ ตนจะพาไปแจ้งความ
ด้านเหยื่อผู้เสียหาย น.ส.เอ เล่าว่า ตอนนี้มีความมั่นใจว่าจะเอาผิดกับผู้ก่อเหตุได้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับตนนั้น ถือเป็นภัยความมั่นคง อยากออกมาเตือนภัยผู้หญิงหลายคนหากตนไม่ออกมาก็เชื่อว่ามีใครหลายคนอาจจะโดนเพราะเขาใช้อาศัยความเชื่อถือหลอกเหยื่อมานานกว่า 20 ปีก็ไม่รู้ว่ามีอีกคนที่เจอในลักษณะเดียวกันนี้ ตนถูกหลอกมา 2 ปีตอนนี้ติดต่อไม่ได้เลย หมอดูคนดังกล่าวนี้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ คาดว่าน่าจะหนีไปอยู่ตามโรงแรมที่เป็นลูกศิษย์ตามต่างจังหวัด น่าจะไปกับเลขาส่วนตัวหรือภรรยาที่เป็นนางงาม
ขณะที่ น.ส.บี เหยื่อผู้เสียหายอีกราย บอกว่า ส่วนตัวที่ไปดูดวงในครั้งแรก หมอดูคนดังกล่าวนี้ค่อนข้างที่จะดูแม่นทำให้เราหลงกล เขาพยายามจับจุดอ่อนเราแล้วนำจุดอ่อนเรามาแนะนำให้เราทำตามขั้นตอน ส่วนที่รู้สึกเหมือนว่าถูกทำใส่เรานั้น เมื่อเราได้พูดคุยแล้ว เราเองก็รู้สึกเหมือนเราอยากคุยต่อ หมอดูคนดังกล่าวนี้มีการลงน้ำมันสาริกาลิ้นทอง ใช้วิธีการพูดหว่านล้อม เหยื่อที่เป็นผู้ชายก็มีเหมือนกันโดนหลอกสูญเงินไปหลักล้าน สำหรับเหยื่อที่ถูกละเมิดทางเพศส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวหน้าตาดีอายุน้อย มีรายได้
ขณะที่ ลูกศิษย์ที่เคยช่วยงานอยู่ที่สำนักของหมอดูคนดังกล่าวนี้ เล่าว่าเคยไปบวชด้วยกัน แล้วหมอดูคนดังกล่าวนี้ชวนมาร่วมงาน อยู่ช่วยงานมาประมาณ 8 เดือนแล้วเห็นพฤติกรรมหลายอย่าง แล้วรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่หมอดู เพราะมองว่าเมื่อทำผิดศีลแล้วจะสอนคนได้อย่างไร ตอนที่เคยอยู่ช่วยงานเคยมีเคสคนมาดูดวงใส่ถุงน่องเข้าไปพอตอนออกมาไม่มีถุงน่อง ซึ่งขณะนี้สำนักดูดวงดังกล่าวนี้ได้ปิดตัวลงแต่ด้านหลังน่าจะยังสามารถเข้าออกได้อยู่
ด้าน ดร.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินการหลังจากนี้ต้องเริ่มต้นจากผู้เสียหายซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีจำนวนมาก ซึ่งจะให้นายเอกภพ นำผู้เสียหายเหล่านี้ไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งอาจเข้าข่ายการข่มขืนกระทำชำเรากระทำอนาจารหรือเป็นเรื่องของการกักขังหน่วงเหนี่ยว รวมไปถึงการฉ้อโกงประชาชน ประเด็นนี้ถือเป็นภัยสังคมอย่างหนึ่ง ไม่อยากให้หลงเชื่อ การดูดวงสามารถทำได้ แต่ต้องใช้สติพินิจพิเคราะห์ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในการพูดคุย ไม่ควรที่จะมีการถูกเนื้อต้องตัว
อยากฝากให้พึงระวังจากที่เห็นตอนนี้ผู้เสียหายเสียทั้งเงินเสียทั้งตัวและเสียใจ บางรายถึงขั้นทำแท้ง ยิ่งกว่าอาชญากรรมที่มีอยู่ในสังคม ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัว ฝากสังคมให้พิจารณาเรื่องนี้ให้ดี ถือเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว ผู้ปกครองก็ต้องดูให้ดี เพราะประเด็นนี้มีเยาวชนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ส่วนจำนวนผู้เสียหายตอนนี้เท่าที่ทราบมีจำนวนมาก และมีการหลอกลวงพฤติกรรมลักษณะการทำบุญเป็นทัวร์ ซึ่งเลยเวลาที่กำหนดไปแล้ว ผู้เสียหายเหล่านี้ก็สามารถมาแจ้งความดำเนินคดีได้ เพราะพฤติกรรมของหมอดูรายนี้ เป็นเรื่องของจิตวิทยา ใครก็ตามที่รู้สึกผิดหวังและเสียใจก็เอาจุดอ่อนตรงนี้มาใช้ในการหลอกล่อและหาประโยชน์ ท้ายที่สุดแล้วก็จบลงด้วยการมีเพศสัมพันธ์และเรียกเก็บเงินเก็บทอง เป็นพฤติกรรมที่ไม่ใช่หมอดู.