ส.ป.ก. – ธ.ก.ส. บรรลุข้อตกลงรับโฉนดเพื่อการเกษตรค้ำประกันเงินกู้ พร้อมขยายเพดานวงเงินกู้เต็มราคาประเมิน
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พร้อมด้วยนายวุฒิพงศ์ เนียมหอม รองเลขาธิการ นายศักดิ์ศิริ ธูปวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกองทุน ได้ร่วมหารือกับนายสุนัน พงษ์ประยูร ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมคณะ เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมบันทึกข้อตกลงในการดำเนินงานระหว่างสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เรื่อง การให้เกษตรกรผู้ได้รับสิทธิจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมขอรับสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ให้รองรับโฉนดเพื่อการเกษตร ณ ห้องประชุมธนะรัชต์ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ถนนประดิพัทธ์
ที่ผ่านมา ส.ป.ก. ได้ทำบันทึกข้อตกลงในการดำเนินงานร่วมกับ ธ.ก.ส. ในการให้เกษตรกรผู้ได้รับสิทธิจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมขอรับสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. โดยใช้เอกสารสิทธิจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยเฉพาะเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เป็นประกันหนี้ และเพื่อสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่ให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์เพื่อสร้างโอกาสในการมีอาชีพ รายได้ และความมั่นคงในชีวิต โดยรัฐบาลจะเร่งดำเนินการให้ประชาชนมีสิทธิในที่ดิน มีชีวิตที่มั่นคง พิจารณาเอกสารสิทธิการใช้ประโยชน์ให้เป็นโฉนดเพื่อให้สามารถนำไปต่อยอดให้เข้าถึง แหล่งทุนได้ นำมาพัฒนาที่ดินเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ประกอบกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า) ที่ให้เปลี่ยนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร เพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้นและวงเงินที่เพิ่มขึ้น
ส.ป.ก. และ ธ.ก.ส. จึงได้หารือร่วมกันเพื่อแก้ไขบันทึกข้อตกลงดังกล่าวบางส่วนเพื่อรองรับการนำโฉนดเพื่อการเกษตรมาค้ำประกันกับ ธ.ก.ส. ซึ่งจากการหารือ ธ.ก.ส. มีความยินดีที่จะรับโฉนดเพื่อการเกษตรเป็นหลักประกันสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากเอกสารสิทธิเดิมตามบันทึกข้อตกลงเดิมพร้อมสิทธิพิเศษ โดยการขยายเพดานวงเงินกู้กรณีใช้โฉนดเพื่อการเกษตรค้ำประกันเพิ่มเป็นร้อยละ 100 ของราคาประเมินกรมธนารักษ์ ทั้งนี้ภายใต้เงื่อนไขที่ ส.ป.ก. และ ธ.ก.ส. ตกลงร่วมกัน เพื่อช่วยให้พี่น้องเกษตรกรได้มีทุนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและอาชีพ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมทางการเกษตรที่จำเป็น ภายใต้สโลแกน “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของรัฐบาล
ทั้งนี้ เลขาธิการ ส.ป.ก. ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “นอกจาก ธ.ก.ส. แล้ว ส.ป.ก. จะได้นัดหารือกับธนาคารของรัฐอีก 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารอิสลามฯ ธนาคารออมสิน ธอส. และ SME Bank ตลอดจนสหกรณ์ด้านการเกษตรเพื่อขอให้รับโฉนดเพื่อการเกษตรเป็นหลักประกันสินเชื่อแก่เกษตรกร รวมถึงกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานตำราจแห่งชาติในการรับโฉนดเพื่อการเกษตรเป็นหลักทรัพย์ใช้ประกันตัวบุคคลทั้งในชั้นสอบสวนและชั้นศาลได้ต่อไป โดยทั้งหมดนี้เป็นความตั้งใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า) ที่จะสนับสนุนให้พี่น้องเกษตรกรมีสิทธิเพิ่มขึ้น มีชีวิตที่มั่นคง เข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตลอดไป”
