ส่ง “โนบิตะ-ชิซุกะ-ไบรอัล” กลับบ้านเกิดอินโดนีเซีย กระชับสัมพันธ์ไทย–อิเหนา ครบ 73 ปี แสดงความมุ่งมั่นในการต่อต้านการค้าสัตว์ป่า
วันที่ 21 ธ.ค. 66 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายระห์หมัด บูดีมัน เอกอัครราชทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันส่ง ลิงอุรังอุตังของกลางที่สิ้นสุดทางคดีแล้ว จำนวน 3 ตัวกลับสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
โดยลิงอุรังอุตังทั้ง 3 ตัวเป็นของกลาง ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ยึดได้จากขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ดูแลและตรวจสุขภาพลิงอุรังอุตัง ซึ่งเป็นสายพันธุ์สุมาตราทั้ง 3 ตัว ไว้ ณ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่3 (ประทับช้าง) จ.ราชบุรี ได้แก่ 1.ลิงอุรังอุตัง ชื่อไบรอัล (Brian) เพศผู้ อายุ 5 ปี 2.ลิงอุรังอุตัง ชื่อโนบิตะ (Nobita) เพศผู้ และ 3.ลิงอุรังอุตัง ชื่อชิซุกะ (Shisuka) เพศเมีย อายุ 7 ปี
ทั้งนี้สาธารณรัฐอินโดนีเซียได้ประสานงานกับสายการบิน Garuda Indonesia Airlineเที่ยวบิน GA867 ในการขนส่ง และขอความร่วมมือทางกรมอุทยานแห่งชาติฯช่วยดำเนินการตรวจสุขภาพของลิงอุรังอุตั งโดยทางสาธารณรัฐอินโดนีเซียรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
การส่งลิงอุรังอุตังจำนวน 3 ตัวคืนประเทศถิ่นกำเนิดในครั้งนี้ ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ ในโอกาสครบรอบ 73 ปี ความสัมพันธ์ไทย–อินโดนีเซีย เป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมระดับนานาชาติในการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่า รวมถึงแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตามระหว่างปี 56-60 ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือส่งลิงอุรังอุตังที่ตกเป็นเหยื่อการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายจำนวน 14 ตัวกลับสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งการส่งมอบลิงอุรังอุตังกลับถิ่นกำเนิดถูกดำเนินการมาแล้วรวม 5 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 49 รวมทั้งสิ้น 71 ตัว ถือเป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลทั้งสองฝ่ายในการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย และการดำเนินงานตามพันธกรณีระหว่างประเทศภายใต้อนุสัญญาไซเตส เช่นเดียวกับความร่วมมือทวิภาคีด้านสิ่งแวดล้อมที่ดำเนินการอยู่การส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าและการต่อต้านอาชญากรรมสัตว์ป่า ผ่านความพยายามร่วมกัน รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ และการร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่าให้เกิดความยั่งยืนในระดับสากล