พบศพพ่อหม้ายถูกเชือกรัดคอตายปริศนาคาบ้าน และเพิ่งเสียภรรยาด้วยโรคมะเร็งเมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา
ช่วงเย็นที่ผ่านมา (4 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสันทราย พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลสันทราย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างสำเร็จเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 2 ตำบลสันป่าเปา อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าไม่เห็นคนในบ้านหลายวันแล้ว ตั้งแต่ช่วงสิ้นปี อีกครั้งยังมีกลิ่นเหม็นเน่าออกมาจากตัวบ้าน จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยเข้ามาตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่เข้าไปในตัวบ้าน โดยพบว่าประตูหน้าบ้านมีการล็อคจากด้านใน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ไปดูที่ประตูหลังบ้าน ก็พบว่าไม่ได้ล็อค จึงได้เดินเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน เมื่อเข้าไปที่ห้องนอนพบศพผู้เสียชีวิตเพศชาย สภาพนอนคว่ำหน้าอยู่ล่างเตียง สภาพศพมีกลิ่นเน่าและน้ำเหลืองไหลออกมาจากศพ ทราบชื่อคือนายฐิติวัชร์ อายุ 40 ปี และจากการตรวจสอบก็พบว่ามีเชือกแบบยืดได้พันรอบคอหลายรอบ ส่วนร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สิน หรือ ร่องรอยการต่อสู้นั้นไม่พบแต่อย่างใด
จากการสอบถามเพื่อนบ้านเ ผยว่าผู้ตายนั้นมีอาชีพขับแกร๊บคาร์ เคยเห็นล่าสุดก็เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2566 ส่วนกลิ่นเหม็นเน่านั้นเริ่มได้กลิ่นมาประมาณ 2-3 วัน แล้ว แต่กลิ่นไม่ได้แรงเท่าวันนี้ ผู้ตายนั้นก็เป็นคนที่อัธยาศัยดีคนหนึ่ง และเมื่อช่วงประมาณ 7-8 เดือนที่ผ่านมาผู้ตายก็ได้เสียภรรยาไปด้วยโรคมะเร็ง
ขณะที่หลักฐานภาพวงจรปิดจากบ้านฝั่งตรงข้ามจะเห็นได้ว่าในวันที่ 30 ธ.ค 66 ที่ผ่านมา ยังเห็นผู้ตายอาศัยอยู่ภายในบ้านและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจเช็คภาพวงจรปิดตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.จนถึงวันนี้ (4ม.ค.) ก็ยังไม่พบว่ามีบุคคลภายนอกเข้าออกภายในบ้านหลังดังกล่าวแต่อย่างใด และนอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ติดต่อไปยังพี่สาวของผู้ตาย ซึ่งทำงานอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง โดยพี่สาวของผู้ตายได้นำหลักฐานภาพการสนทนาผ่าน Line ครั้งล่าสุด ที่ผู้ตายอ่านแชตของพี่สาวคือวันที่ 25 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สัมพันธ์ ศิริมา ผกก.สภ.สันทราย เผยว่าจากการสืบค้นข้อมูลและสอบถามเพื่อนบ้าน สำหรับผู้ตายมีประวัติป่วยเป็นไบโพล่าและขาดการรักษาจากโรงพยาบาลสวนปรุงเชียงใหม่มาประมาณปีกว่าแล้ว จากการเข้าไปดูศพของผู้เสียชีวิตก็พบว่ามือข้างซ้ายยังถือเชือกที่พันคออยู่ และจากการตรวจสอบหลักฐานภาพวงจรปิดโดยรอบ ก็ไม่พบว่ามีบุคคลภายนอกเข้า-ออกที่เกิดเหตุแต่อย่างใด แต่ก็ต้องรอผลการชันสูตรจากแพทย์นิติเวช และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ว่าผู้ตายเสียชีวิตจากการทำร้ายตัวเองหรือไม่.