พ่อนิมนต์พระสงฆ์ทำพิธีเชิญวิญญาณน้องนาย ที่เสียชีวิตแล้วถูกนำร่างยัดใส่ตู้เย็น ไม่เชื่อผลชันสูตรข้าวเหนียวติดคอทำลูกชายเสียชีวิต
ความคืบหน้าคดีน้องนาย เด็กชาย 2 ขวบ ที่เสียชีวิตและถูกนำร่างยัดใส่ในตู้เย็น บ้านหลังหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ขณะที่ตำรวจและพ่อไม่ปักใจเชื่อว่า ข้าวเหนียวติดคอ เนื่องจากต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อยืนยันว่า ในกระเพาะอาหารของน้องนาย มีข้าวเหนียวหรือไม่ แต่เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งความดำเนินคดี กับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ในข้อหาไม่แจ้งการเสียชีวิต และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ
และผลชันสูตรน้องนายออกมาแล้วว่า สาเหตุการตายเกิดจากการขาดอากาศหายใจ โดยพบเมล็ดข้าวเหนียวติดที่หลอดลมส่วนบน ส่วนร่องรอยบาดแผลที่ขาของเด็ก เป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต
ล่าสุดช่วงบ่ายที่ผ่านมาบริเวณที่บ้านหลังเกิดเหตุ ย่านบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี นายนพรัตน์ ดวงงาม พ่อของน้องนายได้เดินทางมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู โดยได้นิมนต์พระ 1 รูป พร้อมกับรูปภาพของน้องนาย มาที่บ้านหลังเกิดเหตุ และได้ขออนุญาตนายสมบุญ หรือ ปู่อู๊ด ปู่ของนายแบงค์ ในการเข้าไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ
ในขณะที่มีการเปิดประตูเพื่อจะทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ นายนพรัตน์ได้พูดคุยกับ ปู่อู๊ด โดยปู่อู๊ดบอกว่า ตลอดเวลาที่น้องนายอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้ถูกนายแบงค์ทุบตีเป็นประจำ ซึ่งตนเองก็ได้ห้ามปราม บอกว่าสงสารเด็กอย่าไปทำเด็ก และนายแบงค์บอกว่าอย่ามายุ่ง และตนได้พยายามบอกให้นายแบงค์นำตัวเด็กไปส่งคืนให้กับพ่อแม่ที่แท้จริง แต่ตัวนายแบงค์บอกว่าอย่ามายุ่ง ส่วนนางสาวก้อย ตนเองก็ได้ยินเสียงว่ามีการทุบตี
โดยระหว่างที่มีการพูดคุยกัน นายนพรัตน์ บอกกับปู่อู๊ดว่า ตนเองไม่เคยรับรู้เรื่องที่ลูกชายถูกนายแบงค์ทำร้ายร่างกายเลย
จากนั้นนายนพรัตน์พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เปิดประตูห้องนอน เพื่อเปิดประตูตู้เย็น และนำรูปภาพน้องนายวางไว้ในตู้เย็น ก่อนจะเริ่มทำการสวดอัญเชิญดวงวิญญาณ และบังสุกุล จากนั้นพระสงฆ์ได้ปะพรมน้ำมนต์โดยรอบบริเวณบ้าน ก่อนที่พ่อของนายจะออกจากบ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อเดินทางไปรับศพน้องนายที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
โดยนายนพรัตน์ ยังได้เปิดเผยก่อนขึ้นรถเพื่อเดินทางไปรับศพของลูกชายอีกครั้งว่า ไม่เชื่อผลการชันสูตรว่าลูกจะกินข้าวเหนียวแล้วติดคอจนเสียชีวิต และไม่ทราบมาก่อนว่าเพื่อนที่รับลูกไปเลี้ยงจะทำร้ายร่างกาย เพราะเท่าที่ทราบเพื่อนก็เป็นคนดี ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ยอมรับว่าเสียใจและยังคงติดใจผลการชันสูตร ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกายจะแจ้งความดำเนินคดีย้อนหลังแน่นอน
ขณะที่ปู่อู๊ด ได้ปั้นข้าวเหนียวขนาดหัวแม่มือโชว์ให้สื่อมวลชนดู ว่าปกติแล้วจะปั้นข้าวเหนียวขนาดประมาณนี้ให้น้องนายกินเป็นประจำ โดยตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่น้องนายมาอยู่ที่นี่ น้องนายชอบกินข้าวเหนียวมาก ไม่เคยมีปัญหาอะไร ซึ่งในส่วนของวันที่ 2 มกราคม 2567 ช่วงเวลา 08.00 น. น้องนายได้หยิบกระติ๊บข้าวเหนียวมาวางไว้ที่ตักตน ตนจึงหยิบมาปั้นเพื่อป้อนให้ จากนั้นน้องนายได้ไปหยิบกล้วย 1 ลูก มาให้ตนอีก ตนจึงปอกกล้วยแล้วแบ่งให้น้องนายกินครึ่งลูก ก่อนที่น้องนายจะไปเล่นตามประสาเด็กต่อ
ส่วนประเด็นผลชันสูตรนั้น ปู่ของนายแบงค์ บอกว่า ตนยังไม่ทราบผลชันสูตร แต่ถ้าหากผลจะชี้มาว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากข้าวเหนียวติดคอนั้น ตนไม่เชื่อและมองว่าอาจจะเป็นเวรกรรมของตนกับน้องนาย ส่วนตัวเชื่อว่าน้องนายน่าจะถูกนายแบงค์ทำร้ายจนเสียชีวิต
โดยที่ผ่านมาตนก็รับรู้มาตลอดว่าน้องนายถูกนายแบงค์ทำร้าย มีรอยแผล บวมช้ำตามร่างกาย ตนก็เอายาหม่องมาทาให้เป็นประจำ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนพยายามบอกนายแบงค์ว่าให้เอาน้องนายกลับไปคืนพ่อแม่แท้ที่แท้จริง แต่นายแบงค์ก็บอกว่า เป็นเรื่องของตน อย่ามายุ่ง ซึ่งตนก็ไม่กล้ายุ่ง เพราะว่ากลัวจะถูกนายแบงค์ทำร้าย
พร้อมยืนยันว่าจะไม่ไปประกันตัว และไม่ไปหานายแบงค์ พร้อมทั้งขอให้นายแบงค์ได้รับกรรมในสิ่งที่ทำ ไม่ขอยุ่งเกี่ยว
สำหรับในวันนี้ทางครอบครัวจะไปรับร่างน้องนาย ก่อนนำมาตั้งสวดที่วัดไผ่เหลือง จ.นนทบุรี เพื่อสวดคืนนี้ 1 คืน และจะทำพิธีฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้ต่อไป.