สายไหมต้องรอดพาแม่ลูกอ่อนเหยื่อบัญชีม้า ขอความเป็นธรรม ยันถูกมิจฉาชั่วหลอก ยกมือไหว้ทั้งน้ำตา วิงวอนเจ้าทุกข์ไกล่เกลี่ยค่ากระเป๋า 9 หมื่น
26 ม.ค. 67 ที่กระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำนางสาวชุติกาญจน์ เหยื่อถูกถูกหลอกเปิดบัญชีม้า ร้องขอความช่วยเหลือเรื่องคดีความและการประกันตัวในชั้นศาล กับกระทรวงยุติธรรม หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน และทุจริตนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ เพราะมีผู้เสียหายไปแจ้งความว่าเธอหลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนมทางออนไลน์ในราคา 90,000 บาท
นายเอกภพ ระบุว่ากรณีนี้คือเหยื่อของมิจฉาชั่ว ซึ่งนางสาวชุติกาญจน์ถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า หลังจากคลอดลูกได้ 4 เดือน สามีไม่มีงาน และไปเห็นโพสต์ใน Facebook รับสมัครสมาชิกออมเงินเทรดหุ้น ใช้เงิน 300 บาท ซึ่งคิดว่าเป็นการแค่สมัครสมัครสมาชิกแล้วได้เงินคืนกลับมา
หลังจากนั้นมิจฉาชีพหลอกล่อขอข้อมูลเหยื่อบอกให้รอ otp หลังจากมิจฉาชีพได้รหัส otp ก็หายเงียบไป ในตอนนั้นคิดเพียงว่าแค่ถูกหลอกเงิน ไม่คิดว่าจะถูกเอาข้อมูลไปเปิดบัญชีออนไลน์
นายเอกภพ ระบุว่าไม่คิดว่ามิจฉาชีพจะเปิดบัญชีออนไลน์ได้ง่ายขนาดนี้ เพียงแค่เอาข้อมูลและ otp ก็สามารถไปเปิดได้เลย และซึ่งหลังจากนั้นมิจฉาชีพก็เอาข้อมูลไปโกงคนอื่น โกงกระเป๋า 90,000 บาทซึ่งนางสาวชุติกาญจน์บอกว่าทั้งชีวิตต่อให้ตายก็หามาคืนไม่ได้
ทั้งนี้นายเอกภาพบอกด้วยว่าได้มีการขอดูหลักฐานที่คุยกับมิจฉาชีพ ซึ่งเหยื่อมีครบว่าถูกหลอกจริง วันนี้จึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือ กระทรวงยุติธรรม นอกจากนี้ช่วงเที่ยงจะประสานกับผู้เสียหาย เพื่อพูดคุยกับผู้เสียหายไกล่เกลี่ยและจะไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้จับผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่ายังมีกรณีน่าสลดใจที่คล้ายกับเคสนี้โดยลูกถูกตกเป็นเหยื่อและแม่ตรอมใจตาย เนื่องจากไม่มีเงินประกันตัว
ขณะที่ นางสาวชุติกาญจน์ ระบุว่าอยากขอบคุณที่ช่วยประกัน ตอนนี้รู้สึกโล่งในระดับนึง ตอนถูกจับตกใจ แต่ก็ยอมไป พร้อมเล่าด้วยว่าตอนแรกที่ตำรวจโทรมาว่าตัวเองไปเปิดบัญชีหลอกคนอื่นไม่เชื่อคิดว่าเป็ยมิจฉาชีพมาหลอก
ทั้งนี้ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ นางสาวชุติกาญจน์ ได้ยกมือไหว้พร้อมทั้งน้ำตา วิงวอนขอให้เจ้าทุกข์
ถอนแจ้งความ โดยขอไกล่เกลี่ย ถ้าจะเอาเงิน 90,000 บาท ตนก็จะเอาเงินมาผ่อนให้ ถ้าต้องเข้าห้องขังจริงตนเองก็ยอมรับ แต่สิ่งที่ห่วงที่สุดคือลูกไม่รู้ว่าลูกจะอยู่ยังไง เพราะที่ผ่านมาก็กินนมจากเต้าเนื่องจากไม่มีเงินไปซื้อนมผง
พร้อมเล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตอนนั้นแค่อยากได้เงิน 3 ร้อยไปซื้อแพมเพิสให้ลูกเท่านั้น ปกติเงินเดือน 2-3 พัน สามีมีอาชีพเก็บมะพร้าวรายได้ไม่แน่นอน ซึ่งตอนที่ถูกจับก็มีเงินในกระเป๋ามีไม่ถึงร้อย
ด้านนายวิเชียร ไชยสอน ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนยุติธรรม
และระบุว่าพร้อมที่จะช่วยเหลือประชาชนซึ่งเคสนี้เข้าหลักเกณฑ์ในการขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่รับเรื่องและจะมีกองทุนยุติธรรมช่วยเหลือในการประกันตัว และช่วยเหลือด้านทนายในการต่อสู้คดี พร้อมฝากถึงประชาชนทั่วไป กรณีที่ไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ให้ติดต่อกองทุนยุติธรรมได้ทั้งกรุงเทพและทุกจังหวัดทั่วประเทศ