เพจดังแฉ แก๊ง ป.4 สุดแสบ เล่นพิเรนทร์ พังข้าวของโรงเรียนเละ

เพจดังแฉ แก๊ง ป.4 สุดแสบ เล่นพิเรนทร์ พังข้าวของโรงเรียนเละ เผาหนังสือเรียน ด้าน ผอ.โรงเรียน เผย เด็กสำนึกผิดแล้ว พ่อแม่ชดใช้ค่าเสียหาย 

วันที่ 31 ม.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทวิตเตอร์ (X) ชื่อ “Red Skull” ได้ทวีตภาพความเสียหาย ภายในห้องเรียนของโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จากเหตุการณ์ที่มี นักเรียนชั้น ป.4 ทำลายอุปกรณ์การเรียนการสอนจนได้รับความเสียหาย และกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงพฤติกรรมของนักเรียน 

โดยระบุข้อความว่า “นี่คือสภาพห้องเรียนของตึกEP ของโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในอ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จากการถูกกลุ่มเด็กนรก ป.4 รวมกลุ่มกันทำลายข้าวของและจะเผาโรงเรียน ข้าวของของโรงเรียนเสียหายมาก คอมพิวเตอร์โดนตัดสาย เอาค้อนทุบจอแตกหมดทุกเครื่อง เครื่องปรินต์ก็เอากาวเท รวมทั้งโต๊ะครูด้วย สมุด หนังสือเรียนโดนเผา” 

“แต่ประเด็นคือ ผอ.ห้ามครูพูด ห้ามให้เผยแพร่รูปภาพ ห้ามให้เป็นข่าวโดยบอกว่าเด็กแค่เล่นกันเป็นเรื่องปกติ เป็นแค่อุบัติเหตุโดยที่ไม่มีการลงโทษเด็กใดๆ ทั้งสิ้นด้วย จนไอ้พวกเด็กที่ทำลอยหน้าลอยตา แล้วอวดในโรงเรียนว่าพวกกูนี่แหละเป็นคนทำไม่มีใครทำอะไรได้ ตอนนี้ผอ.สั่งปิดข่าว ห้ามครูพูดที่ไหน ห้ามให้ส่งรูป ห้ามให้เรื่องดัง ถ้าเรื่องดังครูจะโดนโทษ เหตุเกิดเมื่อวานสดๆ ร้อน” 

นอกจากนี้ ยังโพสต์ข้อความเพิ่มเติมอีกว่า “เมื่อวันศุกร์ที่แล้วคณะครูไปแฟมิลี่เดย์ พอกลับมาวันจันทร์เลยมาเจอห้องเป็นแบบนี้ ผอ.แค่เรียกผู้ปกครองเด็กมารับทราบ และไม่ลงโทษเด็ก ผู้ชาย 3 ผู้หญิง 1 แต่โทษครูว่าไม่ล็อกห้อง จะล็อกยังไง กุญแจก็ไม่มีให้ และไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้เลย” 

“อาทิตย์ที่แล้วพัสดุที่อยู่ตรงป้อมยามก็โดนเด็กกลุ่มนี้รื้อทิ้งเสียหาย ผอ.ก็โทษครูที่สั่งของมาเอง ทีนี้พอครั้งนั้นไม่โดนลงโทษก็ยังทำอีกรุนแรงกว่าเดิม กลัวจะเกิดเรื่องที่เสียหายกว่านี้มีเด็กอนุบาลเยอะด้วย ถ้าได้ภาพจากกล้องวงจรปิด จะส่งให้ ไม่แน่ใจว่า ผอ.สั่งลบหรือยัง มีแน่ๆ จะโดนลบจาก ผอ.หรือเปล่า เพราะหลักฐานทุกอย่างที่จับได้ว่าใคร ได้มาจากกล้องวงจรปิด คิดว่าน่าจะกลัวเรื่องดังเลยต้องให้รีบๆ จบ” 

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่โรงเรียนดังกล่าว พร้อมเดินสำรวจสภาพห้องเรียนทั้ง 9 ห้องของตึก E Pที่ถูกกลุ่มเด็กนักเรียน ป.4 รวม 4 คน มาเล่นกันที่โรงเรียนในช่วงวันหยุดและสร้างความวุ่นวายทำลายข้าวของในห้องเรียนจนได้รับความเสียหาย 

โดยส่วนใหญ่จะใช้แป้งกับกาวลาเท็กซ์มาราดเล่นเทลงพื้นตามห้อง และบางส่วนได้ราดใส่หน้าจอคอมพิวเตอร์กับคีย์บอร์ด ตัดสายเมาส์คีย์บอร์ด ซึ่งบางส่วนก็ได้รับความเสียหาย แต่หลังจากที่ครูได้ทำความสะอาดของส่วนใหญ่ในห้องเรียนก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่ก็จะมีบางส่วนที่โดนกาวไปผสมรวมกับแป้งจึงทำให้แข็งตัว จะใช้งานไม่ได้ 

นอกจากนี้เด็กลุ่มดังกล่าวยังได้เล่นจุดประทัดจิ๋ว แต่จุดไม่ติดจึงนำไฟแช็กจุดกับหนังสือเรียนแทน และทำลายไม้แบดได้รับความเสียหายอีกเล็กน้อย 

จากการสอบถามคุณครูในโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนจะมีการเรียนพิเศษในช่วงวันเสาร์ แต่เนื่องด้วยวันเสาร์ที่ 27 ม.ค. 67 โรงเรียนไฟฟ้าดับจึงเลื่อนการเรียนพิเศษมาเรียนเป็นวันอาทิตย์แทน ซึ่งเด็กนักเรียนทั้ง 4 คน ได้นัดกันมาโรงเรียน และบอกกับผู้ปกครองว่าคุณครูให้มาซ้อมทำกิจกรรมที่โรงเรียน โดยไม่ได้มีการแจ้งให้คุณครูทราบ เมื่อมาถึงโรงเรียนนักเรียนกลุ่มนี้ก็ได้หยิบเอาพัสดุที่วางอยู่ที่ป้อมยามไปฉีกเล่น ก่อนที่จะเข้าไปรื้อค้นข้าวของในห้องเรียน สร้างความวุ่นวายเสียหายภายในห้องเรียนอีกหลายห้อง และจากเหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าน่าจะมาจากพฤติกรรมเลียนแบบจากสื่อในสังคมปัจจุบันที่หาชมได้หลากหลายช่องทาง 

ด้าน ผอ.โรงเรียน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ตนมาทราบเรื่องในวันอาทิตย์ จึงให้คุณครูถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุเอาไว้ก่อนแล้วให้ช่วยกันทำความสะอาดห้องเรียน เพื่อจะได้ทำการเรียนการสอนในวันอาทิตย์ต่อ และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผอ.ได้มีการเรียกเด็กนักเรียนทั้ง 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน โดยเด็กนักเรียนทั้ง 4 คนก็ได้ยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุดังกล่าวจริง และในวันอังคารทาง ผอ.ก็ได้มีการเรียกผู้ปกครองของเด็กนักเรียนทั้ง 4 คน มาพูดคุย ผู้ปกครองของเด็กก็ยอมรับในการกระทำของลูกตนเอง และเห็นใจทางโรงเรียน ผอ.จึงได้ให้คุณครูสำรวจความเสียหาย และชี้แจงเรื่องค่าใช้จ่ายกับผู้ปกครองให้ทราบ ซึ่งผู้ปกครองของนักเรียนก็ยอมรับ และยอมชดใช้ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 

ส่วนเรื่องการทำโทษเด็กนักเรียน ผู้ปกครองอยากให้ ผอ.ช่วยว่ากล่าวตักเตือน ซึ่ง ผอ.ได้ทำการสอบสวนพิจารณาพฤติกรรมของนักเรียนกลุ่มนี้ดูแล้วว่าไม่เคยมีพฤติกรรมก้าวร้าวมาก่อน แต่วันที่เกิดเหตุเด็กนักเรียนได้นัดกันมาที่โรงเรียน และเกิดความซุกซนขาดการยั้งคิด รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เลยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ และหลังจากที่ผู้ปกครองมาถึงโรงเรียน เพื่อพบ ผอ.เด็กนักเรียนทั้ง 4 คนก็สำนึกผิด ร้องไห้กอดพ่อแม่ และสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก ผอ.และผู้ปกครองจึงได้ทำการอบรม และว่ากล่าวตักเตือนไป

ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : ทวิตเตอร์ (X) ชื่อ “Red Skull”