อาถรรพ์เมรุพังถล่มคนขับแบคโฮดับ พระเผยเคยตายพร้อมกัน 5 ศพ

15 ก.พ. 67

คืบหน้าเมรุพังถล่มคนขับแบคโฮดับ พระเผยที่ต้องสร้างใหม่ เพราะเมรุเดิมอยู่ตรงประตูวัด เหมือนอ้าปากรอคนตาย จนเกิดอาเพศตายพร้อมกัน 5 ศพ


ความคืบหน้ากรณีคนงานขับแบคโฮรื้อเมรุเก่าแก่อายุ 40 ปี ที่วัดศิริมงคลบ้านสว่าง ม.3 ต.สว่าง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด เพื่อก่อสร้างเมรุใหม่ แต่จู่ๆเมรุเกิดพังถล่มทับคนขับรถแบคโฮเสียชีวิต ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเกิดจากอาถรรพ์นั้น 

วันนี้พระในวัดรวมทั้งเจ้าอาวาส แกนนำชุมชน ลงตรวจสอบข้อเท็จจริง เตรียมแผนที่จะแก้ปัญหา ที่จะรื้อออกทั้งหมดเพื่อเคลียร์พื้นที่ โดยอาจจะมีการทำพิธีทางศาสนาตามความเชื่อให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีการเข้าไปรื้อถอนสิ่งที่พังลงมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของยอดมณฑปหน้าเมรุ ซึ่งหนักกว่า 1 ตัน ที่พังลงมาทับคนเสียชีวิต ก็จะมีการทำพิธีก่อนที่จะนำออก โดยจะต้องมีการประชุมเตรียมแผนการให้รัดกุมเพื่อให้เกิดความสบายใจของทุกคน

พระและชาวบ้าน เล่าถึงมูลเหตุของการต้องย้ายเมรุไปที่ใหม่ เนื่องจากชาวบ้านเห็นว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะมองจากประตูหน้าวัดมาแล้ว เห็นหน้าเมรุเผาศพ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี ต่อมาก็มีมติสร้างหอกลองเพลขึ้นมาบังเมรุเผาศพไว้ แต่ก็ยังเกิดเหตุอาเพศ ทำให้ชาวบ้านมีความเชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุอาเพศ เนื่องจากมีคนตายอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา แบบศพต่อศพ บางวันมีศพมารอถึง 5 ศพ ทำให้เชื่อว่าเป็นเหตุอาเพศ และที่ประชุมจะมีมติสร้างหลังใหม่ขึ้นมาทดแทน ไม่ให้ตรงกับประตูวัด แล้วจึงทำการรื้อหลังเก่าออกจนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

ในขณะที่มีชาวบ้านคนหนึ่ง เล่าว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง น่าจะเป็นเหตุทำให้เกิดอาเพศขึ้นภายในหมู่บ้านได้อีก ประเด็นที่ห่วงก็คือการนำศพของผู้เสียชีวิตจากในวัดเดินทางผ่านหมู่บ้านเข้าไปยังบ้านของผู้ตาย ซึ่งชาวบ้านไม่เห็นด้วย เนื่องจากโดยประเพณีแล้ว หากคนที่ตายในลักษณะแบบนี้ เขาจะไม่เอากลับเข้าไปบ้าน จะต้องตั้งไว้ที่วัด แต่เหตุนี้เกิดขึ้นภายในวัดกลับนำศพไปตั้งที่บ้าน ซึ่งชาวบ้านหลายคนคัดค้าน แต่ญาติไม่เชื่อ จึงมีการนำศพกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ฝืนความรู้สึกของชาวบ้านทุกคน

ด้านพระปลัดอำพลมัททโร หรือ หลวงพี่ต้น ซึ่งเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า การรื้อถอนเมรุเก่าดังกล่าว สืบเนื่องจากเมรุหลังเก่าตรงกับประตูทางเข้าวัด มีหลายเสียงบอกไม่ดี เหมือนอ้าปากรอคนตาย บางครั้งมีคนเสียชีวิตพร้อมกันถึง 5 ศพ ทางหมู่บ้านจึงมีมติร่วมกับพระสงฆ์ ให้มีการว่าจ้างช่างมาก่อสร้างเมรุหลังใหม่ เมื่อเดือนมกราคม 2566 เป็นเมรุแบบเตาเผาไร้มลพิษราคากว่า 4 ล้านบาท และเสร็จสิ้นเมื่อเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา หลังจากสร้างเสร็จก็มีมติว่าจะต้องรื้อหลังเก่าทิ้ง เพราะวัดเดียวจะมีเมรุ 2 แห่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จึงมีการทำพิธีบวงสรวง ก่อนที่จะทำการรื้อ ด้วยการว่าจ้างรถแบคโฮมาทำพิธีเอาฤกษ์วันนี้ ( 15 ก.พ.67) ก่อนที่ลงมือรื้อในวันพรุ่งนี้ ( 16 ก.พ.67) แต่คนขับกลับใจร้อนลงมือรื้อก่อนวันจริงหลังทำพิธี จนเกิดเรื่องขึ้น.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส