โมโหแฟนเก่ามูฟออนไวนั่งกอดกับชายอื่น ยกพวกรุมกระทืบ

โมโหแฟนเก่ามูฟออนไว เลิกกัน 1 อาทิตย์นั่งกอดกับชายอื่น ยกพวกรุมกระทืบเจ็บทั้งอดีตคนรักและมารหัวใจ

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 นายอุทัย ม่วงน้อย กำนันตำบลเขาสามสิบหาบ ได้รับแจ้งจากนายม่อน อายุ 22 ปี มีศักดิ์เป็นหลานของกำนัน พร้อมด้วยนายพี อายุ 19 ปี และนางสาวมิว อายุ 19 ปี ว่าได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่จำนวน 6 คนดักทำร้ายที่บริเวณเลียบคันคลอง หมู่ที่ 5 ตำบลเขาสามสิบหาบ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อช่วงเวลา 23.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ต่อมานายอุทัย ม่วงน้อย กำนันตำบลเขาสามสิบหาบ ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พร้อมกับผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย พบว่าบริเวณเกิดเหตุเป็นถนนเลียบคันคลองเป็นทางเปลี่ยวสองข้างทางเป็นทุ่งนา ไม่มีไฟส่องสว่าง และยังอยู่ห่างไกลบ้านเรือนของชาวบ้าน

โดยนายม่อน เล่าว่า ตนเองได้ขี่จักรยานยนต์มากับนายพี มาเที่ยวบ้านเพื่อนในคืนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาจนช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.ได้เดินทางกลับ พอออกมาจากบ้านเพื่อนได้เพียง 100 เมตร พบกลุ่มคนประมาณ 5-6 คน มี 2 คนสวมหมวกไอ้โม่งปิดใบหน้าได้ดักรออยู่ จากนั้นกลุ่มคนดังกล่าวดังวิ่งมากระชากนายพีที่นั่งซ้อนท้ายจนตกลงมากระแทกกับพื้น จากนั้นนายพีได้วิ่งหนีกระโดดข้ามคูคลอง ขณะเดียวกันมีคนในกลุ่มวัยรุ่นได้ใช้อาวุธปืนวิ่งไล่ยิงตามไป นายพีได้วิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือที่บ้านชาวบ้านที่อยู่อีกฝั่งของทุ่งนา

นายม่อน เล่าต่อว่า จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นก็ได้ดึงตนเองลง ใช้อาวุธปืนฟาดเข้าที่ใบหน้าจนตนล้มลงไปกองกับพื้น จากนั้นก็ถูกรุมเตะจนได้รับบาดเจ็บ ต่อมานางสาวมิว เพื่อนสาวตนเองได้วิ่งออกมาช่วย และก็ถูกกลุ่มชายดังกล่าวเตะเข้าที่แขนจนได้รับบาดเจ็บอีกด้วย โดยตนเองจำใบหน้าและรู้จักคนที่มาทำร้ายได้ เนื่องจากเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้านเดียวกัน 

ทางด้านนายอุทัย ม่วงน้อย กำนันตำบลเขาสามสิบหาบ บอกว่า ตอนนี้ทราบตัวคนร้ายทั้งหมดแล้วว่าเป็นใคร โดยแก๊งวัยรุ่นกลุ่มนี้ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เนื่องจากได้เคยก่อเหตุในลักษณะนี้ทำร้ายคนอื่นมาหลายรอบแล้ว 

ต่อมาช่วงเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่ามะกา ได้นำตัวกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 4 คน มาสอบถามที่โรงพัก โดยทางผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับหนึ่งในผู้ก่อเหตุ ชื่อนายแผน อายุ 22 ปี ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องชู้สาว เนื่องจากคนเจ็บและอดีตคนรักของตนที่คบกันมากว่า 8 ปี นั่งจู๋จี๋กอดกันอยู่ในบ้าน ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ยืนมองอยู่ เป็นภาพบาดตาบาดใจเกินจะทนรับไหว จึงได้เรียกเพื่อนให้มาหาตนก่อนที่จะเจอกับคนเจ็บ และได้มีการทำร้ายร่างกายด้วยเตะเพียงเท่านั้น ส่วนกรณีที่บอกว่ามีอาวุธปืนยิงนั้นไม่เป็นความจริง เป็นเพียงเป็นการปาประทัดเพื่อเรียกให้หยุดวิ่ง

ซึ่งตนยอมรับว่ายังติดต่อกับอดีตคนรักอยู่เรื่อยมา เพราะเพิ่งเลิกกันยังไม่ถึงอาทิตย์ และก่อนเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง ตนยังได้แชตไปง้ออยู่เลย สุดท้ายนี้ตนเองก็อยากจะขอโทษกำนันที่พูดไม่ดีในวันนั้นด้วย

โดยทางผู้สื่อข่าวได้คุยกับนายม่อนเพิ่มเติมว่า ตนเองนั้นได้คบกับนางสาวมิวมา 3 อาทิตย์แล้ว โดยผู้หญิงก็ยืนยันว่าไม่มีแฟน แล้วก็เลิกกันแล้ว ซึ่งตอนก่อนเกิดเหตุก็ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์มาจอดดักรอที่หน้าบ้านของนางสาวมิว แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เรียกทั้งทั้งสองกลุ่มมาเคลียร์ใจกันและให้ต่างคนต่างอยู่ โดยไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีและให้ฝ่ายคนเจ็บเลิกยุ่งกับอดีตคนรักของคู่กรณี หลังจากนั้นก็ได้จับมือกันและแยกย้ายกันกลับ.